กองทัพฟิลิปปินส์เสริมกำลัง 'ทวงคืนมาราวี'

สถานการณ์กลุ่มติดอาวุธมอเต้ที่อ้างว่าเกี่ยวข้องกับกลุ่มไอเอสบุกยึดเมืองมาราวี ทางภาคใต้ของฟิลิปปินส์ ล่าสุดกองทัพได้ระดมกำลังทหารและสรรพาวุธที่รวมถึงเฮลิคอปเตอร์ และยานยนต์หุ้มเกราะอีกหลากหลายขนาดจำนวนมากเข้าสู่เมืองดังกล่าวบนเกาะมินดาเนา ท่ามกลางเสียงปืนที่ยังคงดังขึ้นอย่างต่อเนื่องจากการสู้รบระหว่างเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงกับกลุ่มมอเต้

ขณะเดียวกัน มีรายงานการเพิ่มจำนวนจุดตรวจและเจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจทั่วเมืองมาราวี เพื่อเพิ่มความเข้มงวดในการคัดกรองประชาชนซึ่งต้องการอพยพหลบหนีการสู้รบที่ยืดเยื้อตั้งแต่วันอังคาร และส่งผลให้ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต ประกาศกฎอัยการศึกครอบคลุมทั้งเกาะมินดาเนาเป็นเวลาเบื้องต้น 60 วัน และขู่ว่าพร้อมใช้มาตรการขั้นรุนแรงหากจำเป็น

อย่างไรก็ตาม กองทัพฟิลิปปินส์แทบไม่เผยความคืบหน้าของปฏิบัติการมากนัก แต่กำชับสื่อมวลชนและขอความร่วมมือจากผู้ใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์ให้เผยแพร่ภาพภารกิจของเจ้าหน้าที่เฉพาะในส่วนที่ได้รับอนุญาตแล้วเท่านั้น เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพของปฏิบัติการ ส่วนจำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 21 คน แบ่งเป็นทหารอย่างน้อย 6 นาย ตำรวจอย่างน้อย 2 นาย หนึ่งในนั้นเป็นระดับผู้บังคับการและเสียชีวิตจากการถูกตัดศีรษะ และกลุ่มคนร้ายเสียชีวิตอย่างน้อย 13 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่ประเมินว่ายังเหลือนักรบมอเต้อยู่ในพื้นที่อีกราว 50-100 คน

ด้านสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงมะนิลาโพสต์ผ่านเฟซบุ๊คยืนยันว่ายังไม่ปรากฏข้อมูลว่ามีคนไทยพำนักอยู่ในเมืองมาราวี หรือจังหวัดลานาว เดล ซูร์ และจากการตรวจสอบเบื้องต้น ไม่ปรากฏว่ามีคนไทยได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว

หากดูในภาพรวมทั้งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ถือเป็นภูมิภาคที่มีกลุ่มพันธมิตรของไอเอสเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง โดยในฟิลิปปินส์มีกลุ่มมอเต้ที่บุกยึดเมืองมาราวีเมื่อวันอังคาร และกลุ่มอาบูไซยาฟ ส่วนในอินโดนีเซียมีกลุ่มเจมาห์ อิสลามิยาห์ หรือเจไอ ขณะที่มาเลเซียแม้ไม่มีกลุ่มเครือข่ายไอเอสชัดเจน แต่เมื่อกลางปีที่แล้วเคยถูกแนวร่วมไอเอสปาระเบิดโจมตีบาร์แห่งหนึ่งในกรุงกัวลาลัมเปอร์ ซึ่งทางการระบุว่าเป็นครั้งแรกที่สมาชิกไอเอสโจมตีในประเทศได้สำเร็จ