ชี้ทอท.ส่อฮั้วคิงพาวเวอร์ ชาติเสียหาย2.7หมื่นล้าน

ชี้ทอท.ส่อฮั้วคิงพาวเวอร์ ชาติเสียหาย2.7หมื่นล้าน

อนุฯสปท. ชี้ "ทอท." ส่อฮั้ว "คิงพาวเวอร์" ทำประเทศเสียหาย 2.7 หมื่นล้านบาท หลังผลตรวจ สตง. ระบุไม่ติด "พีโอเอส" ผิดสัญญาแต่กลับมีการละเลย

เมื่อวันที่ 25 พ.ค. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ ในฐานะรองประธานอนุกรรมธิการปัองกันและปราบปรามการทุจริต ประพฤติมิชอบ ในคณะกรรมาธิการวิสามัญป้องกันและปราบปรามฯ สปท. กล่าวถึงกรณีที่บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด(มหาชน) หรือ ทอท. ทำสัญญาให้กลุ่มบริษัทเอกชนเข้าใช้บริหารพื้นที่ภายในสนามบินสุวรรณภูมิ โดยบริษัทเอกชน ต้องมีการจัดแบ่งสรรผลประโยชน์จากยอดการขายสินค้าปลอดอากรและบริการให้ ทอท.15% จากยอดที่ให้บริษัทคิง พาวเวอร์ เก็บได้ไม่เกิน 20% ซึ่งมีเงื่อนไขสำคัญว่าจะต้องติดตั้งระบบพ้อย ออฟเซล (พีโอเอส) ซึ่งเป็นระบบที่สามารถตรวจสอบยอดการขายสินค้า หากไม่ทำ ถือว่าผิดสัญญา ซึ่ง ทอท. สามารถบอกเลิกสัญญาได้ทันที

โดยตลอดเวลา 9 ปีที่ผ่านมา พบว่าไม่มีการติดตั้งระบบ พีโอเอส โดย สตง. เข้าไปตรวจสอบ ผลปรากฎว่า ไม่สามารถตรวจสอบยอดการขายสินค้าและบริการที่แท้จริงได้ เพราะไม่มีการติดตั้งระบบพีโอเอส ตามที่ระบุไว้ในสัญญา

อีกทั้ง พบว่า ก่อนหน้าที่จะเป็นสัญญาคือ ก่อนการประมูล ทาง ทอท. ได้มีการประมูลระบบพีโอเอสไว้แล้ว โดยใช้งบประมาณกว่า 200 ล้านบาท แต่ปรากฎข้อเท็จจริงว่า ตั้งแต่เปิดขายสินค้าจนถึงปัจจุบัน บริษัท คิง พาวเวอร์ กลับส่งแต่รายงานยอดการขายสินค้าและบริการ หลังจากพ้นระยะเวลาไปแล้ว 24 ชั่วโมง คือรายงานของเมื่อวาน ต่อ ทอท.

นายชาญชัย กล่าวอีกว่า ตนขอตั้งข้อสังเกตว่า ในเมื่อมีการทำผิดสัญญาที่ทำไม ทอท.จะไม่เตือน หรือบอกยกเลิกสัญญา แต่กลับมีการสมรู้ร่วมคิดระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐบางส่วนกับเอกชน ปล่อยปละละเลยในการละเว้นปฏิบัติหน้าที่ให้กับบริษัทคิง พาวเวอร์ ขณะที่บริษัทเอกชนดังกล่าวก็รู้ว่าตัวเองทำผิดสัญญา ถือว่าผิดทั้งทางแพ่ง ส่วนเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องมีความผิดทางอาญาที่ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ เป็นเหตุทำให้รัฐรับความเสียหายจำนวนเงินหลายหมื่นล้านบาท

ทั้งนี้ ทางคณะอนุกมธ.ฯ เคยรายงานให้นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯฝ่ายกฎหมายรับทราบแล้วเฉพาะรายการนี้อย่างเดียวประเมินว่า รัฐเสียหายไม่น้อยกว่า 2.7 หมื่นล้านบาท ตลอด 9 ปีที่ผ่านมา และหากมีการตรวจสอบทวนด้านเอกสารอาจจะเสียหายมากกว่านี้ เพื่อเป็นการยืนยันข้อมูลกรณีนี้ได้มีการทำรายละเอียดรายงานให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอขา นายกฯและหัวหน้า คสช. ทราบแล้ว ยังขาดเพียงชื่อของเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องร่วมรู้เห็นและกระทำความผิด รวมถึงคนที่ปล่อยปละละเลย และยังพบรายงานการประชุมของคณะกรรมการใน ทอท.บางชุดที่ทำรายงานโกหกว่า ได้ติดตั้งระบบพีโอเอสนี้แล้วเป็นการโกหกหลวกลวงประชาชนและผู้ถือหุ้น ทอท. ซึ่งมีหลักฐานชัดเจนที่ทางสตง.ตรวจสอบพบเมื่อวันที่ 29 ก.พ. 2559

โดยสตง.ทำรายงานถึงนายนิตินัย ศิริสมรรถการ ผอ.ใหญ่การท่าฯ และประธาน คือนายประสงค์ พูลธเนศ ซึ่งทราบเรื่องนี้ดีแต่กลับไม่แก้ไขอะไรเลย ถามว่าควรหรือไม่ ที่นายกฯจะปล่อยให้คนเหล่านี้ อยู่บริหารต่อในตำแหน่งต่อไป จึงเป็นที่มาของการทำความเห็นของสปท.ชุดปราบโกงได้เสนอให้ปลดออก เพราะทำผิดสัญญาและละเลยอย่างนี้ ตนจึงจำเป็นต้องชี้แจงบอกกล่าวต่อสังคมให้รับทราบข้อเท็จจริง