UTP - ซื้อ

UTP - ซื้อ

Ready to ramp up

ประเด็นการลงทุน

เราแนะนำ ซื้อ ก่อนที่บริษัทจะเริ่มเดินเครื่อง 2 สายการผลิตพร้อมกัน ซึ่งจะหนุนให้ 2H17 บริษัทมีกำลังการผลิตราว 750 ตัน/วัน (มากกว่าปัจจุบันที่มีราว 400 ตัน/วัน) คาดภายในเดือนนี้การติดตั้ง co-generator จะเสร็จตามแผน และเดือนหน้าจะเริ่ม Ramp-up การผลิตขึ้นทันที สำหรับระยะสั้น เราคาดกำไร 2Q17 จะเห็นการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากการปรับจูน เครื่องจักรให้ผลิตเพิ่มขึ้น ประกอบกับราคากระดาษโดยเฉพาะในจีนซึ่งเป็นผู้บริโภครายใหญ่ยังคงอยู่ในระดับสูง ล่าสุดผู้ผลิตกระคาษรายใหญ่ในจีนปรับราคาขายขึ้นแล้ว เราคาดสถานการณ์กระดาษราคาสูงในต่างประเทศ จะเป็นปัจจัยบวกต่อราคากระดาษในประเทศไทยด้วย

การ Ramp up การผลิต ค่อยเป็นค่อยไป

ผลการดำเนินงานของบริษัทจะมีพัฒนาการที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากการ ramp up การผลิตให้เพิ่มขึ้น โดยคาดใน 2Q17 บริษัทจะเดินเครื่องใน อัตรา 350-400 ตัน/วัน เพิ่มขึ้นจาก 1Q17 เดินเครื่องในอัตรา 320 ตัน/วัน เท่านั้น เพราะพนักงานเริ่มปรับจูนเครื่องได้ตาม learning curve ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนให้กำไรใน 2Q17 เห็นการเติบโตอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังมีโอกาสที่จะได้รับค่าชดเชยความเสียหายจากกรณีเพลิงไหม้เศษกระดาษ จากประกันภัย หนุนให้กำไรใน 2Q17 ดูดีขึ้นไปอีก ซึ่งมูลค่าความเสียหายนั้นอยู่ประมาณ 6 ล้านบาท

พร้อมเดินเครื่อง 2 สายการผลิตภายใน 2Q17

คาดปริมาณการผลิตกระดาษจะเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดในช่วง 2Q-3Q17 นี้ เพราะการติดตั้ง co-generator (เครื่องกำเนิดไฟฟ้าและไอน้ำ) คาดเป็นไปตามแผนงานซึ่งจะสามารถเดินเครื่องได้ในช่วง เดือน พ.ค. นี้ และในเดือน มิ.ย. จะสามารถเดินเครื่องพร้อมกันได้ 2 สายการผลิต ซึ่งมีกำลังการผลิตรวมราว 2.7 แสนตัน/ปี (หรือราว 750 ตัน/วัน) คาดหนุน
ให้กำไรในช่วง 2H17 เติบโตก้าวกระโดด

ปรับกำไรสะท้อนงบฯ 1Q17 ที่ต่ำคาดเล็กน้อย

จากกำไร 1Q17 ที่ต่ำกว่าคาด เพราะปริมาณการผลิตและขายที่ราว 320 ตัน/วัน น้อยกว่าสมมุติฐานของเราที่ราว 400 ตัน/วัน เราจึงปรับประมาณการกำไรปี 2017 ลงเป็น 280 ล้านบาท จากการปรับลดสมมติฐานปริมาณการผลิตในปีนี้ลงเป็น 1.67 แสนตัน (จากเดิม 1.8 แสนตัน) เพราะการ ramp up กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นช้ากว่าสมมุติฐานเดิมของเรา โดยคาดบริษัทจะเริ่มผลิตได้เพิ่มขึ้นเป็น 370, 500-600 ตัน/วัน ในช่วง 2Q-2H17 ตามลำดับ ราคาเป้าหมายของเราปรับลงตามการปรับกำไรลงเป็น 9.75 บาท (อิง P/E 22.3 เท่า เทียบค่าเฉลี่ยในอดีต +2SD)


สภาวะกระดาษราคาสูงในต่างประเทศ หนุนราคาขายในไทย

ราคากระดาษในต่างประเทศ โดยเฉพาะในจีนถือว่ายังอยู่ในระดับสูง ซึ่งในช่วงต้นเดือน พ.ค. ราคากระดาษ (Linerboard และ Corrugated medium) อยู่ที่ราว Rmb 3,753 ถึง 4,244 ต่อตัน (หรือราว 18,765 ถึง 21,220 บาท/ตัน) ซึ่งสูงกว่าราคาขายในประเทศไทยที่อยู่ราว 17,000-19,000 บาท/ตัน ล่าสุดผู้ผลิตกระคาษรายใหญ่ในจีน เช่น Tianjin Nine Dragons, Shandong Luli, Tianjin Guangjuyuan ปรับราคาขายขึ้นแล้วราว Rmb50-100 ต่อตัน (250-500 บาท/ตัน) เราคาดสถานการณ์กระดาษราคาสูงในต่างประเทศจะเป็นบวกต่อราคากระดาษในไทย