นักวิเคราะห์หวั่นตลาดน้ำมันโลกระส่ำ

นักวิเคราะห์หวั่นตลาดน้ำมันโลกระส่ำ

นักวิเคราะห์หวั่นตลาดน้ำมันโลกระส่ำ หลัง“ทรัมป์”เสนอขายน้ำมันสำรองทางยุทธศาสตร์

นักวิเคราะห์ระบุว่า แผนของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ในการขายน้ำมันจากคลังสำรองทางยุทธศาสตร์ (เอสพีอาร์) ออกครึ่งหนึ่ง จะส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมัน และบั่นทอนความพยายามของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ในการปรับลดกำลังการผลิตเพื่อลดปริมาณน้ำมันในตลาด

นายออยสไตน์ เบเรนท์เซน กรรมการผู้จัดการของบริษัทสตรอง ปิโตรเลียม กล่าวว่า แผนของปธน.ทรัมป์ได้สร้างความประหลาดใจ และจะกระทบต่อความพยายามลดกำลังการผลิตของกลุ่มโอเปก

นายเบเรนท์เซน ระบุว่า การขายน้ำมันเอสพีอาร์ ออกครึ่งหนึ่งในช่วงเวลา 10 ปีตามแผน จะมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 95,000 บาร์เรล/วัน และจะส่งผลกระทบต่อตลาดในระยะยาว

การระบายน้ำมันเอสพีอาร์ จะทำให้ปริมาณน้ำมันในตลาดเพิ่มขึ้น และส่งผลให้การผลิตน้ำมันของสหรัฐเพิ่มสู่ระดับ 9.3 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งใกล้เคียงกับระดับการผลิตน้ำมันของซาอุดิอาระเบีย และรัสเซีย

 นอกจากนี้ ข้อเสนอของปธน.ทรัมป์ยังมีขึ้น หลังจากที่โกลด์แมน แซคส์เตือนว่า ตลาดน้ำมันเผชิญความเสี่ยงน้ำมันล้นตลาดในปีหน้า ถ้าหากโอเปกและรัสเซียกลับมาเพิ่มการผลิต และสหรัฐเพิ่มการผลิตน้ำมันจากชั้นหินดินดาน

ทั้งนี้ ร่างแผนงบประมาณที่ทำเนียบขาวเปิดเผยระบุว่า ปธน.ทรัมป์เสนอให้รัฐบาลสหรัฐทำการขายน้ำมันเอสพีอาร์ออกครึ่งหนึ่ง ในช่วงปี 2561-2570 เพื่อให้รัฐบาลมีรายได้ 1.65 หมื่นล้านดอลลาร์ ตั้งแต่เดือนต.ค.2561 และจะนำรายได้ส่วนนี้เข้าสู่งบประมาณของประเทศ นอกจากนี้ แผนงบประมาณดังกล่าว ยังได้เสนอให้มีการขุดเจาะ และผลิตน้ำมันมากขึ้นในอลาสกา

      เอสพีอาร์ ถือเป็นคลังสำรองน้ำมันทางยุทธศาสตร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีปริมาณน้ำมันอยู่ราว 688 ล้านบาร์เรล ซึ่งเพียงพอสำหรับความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลกเป็นเวลา 1 สัปดาห์