STANLY - ซื้อ

STANLY - ซื้อ

ปรับเพิ่มกำไร จากออร์เดอร์ใหม่ๆ

ประเด็นการลงทุน

เราทำการปรับเพิ่มคาดการณ์ประมาณการกำไรของ STANLY 8% ในปี 2561 ( จากวันที่ 30 เม.ย. 2560 – มี.ค. 2561) ที่ 1.48 พันล้านบาท และ 10% ในปี 2562 มาอยู่ที่ 1.63 พันล้านบาท โดยปัจจัยใหม่มาจากคำสั่งซื้อใหม่ของลูกค้ารายหลักโดยเฉพาะลูกค้าฮอนด้า (สำหรับรถยนต์รุ่นใหม่และรถจักรยานยนต์โมเดลใหม่), อีซูซุ และ ยามาฮ่า เราคาดว่าการเติบโตของยอดขาย YoY จะอยู่ที่ 7% (จากเดิม 3%) ในปี 2561 และ 6% (จากเดิม 3%) ในปี 2562 ส่งผลให้แนวโน้มกำไรในปี 2561-62 ปรับตัวดีขึ้น เราจึงยังคงคำแนะนำ ซื้อ จากราคาเป้าหมายใหม่ ณ สิ้นเดือนมี.ค 2561 ที่ 241 บาท อ้างอิงจากค่า PER ที่ 12.5 เท่า (มากกว่าค่าเฉลี่ยอยู่ 1.0 ของส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน)

คาดยอดขายปี 2561 เติบโต YoY หนุนโดยคำสั่งซื้อใหม่

STANLY ได้รับคำสั่งซื้อใหม่จากฮอนด้า, อีซูซุ และยามาฮ่าในการผลิตส่วนไฟหน้าและไฟท้ายรถรุ่นใหม่ – ฮอนด้า นิว ซีอาร์วี, ซิตี้, และสกูปี้ ไอ (รถจักรยานยนต์), อีซูซุ มิวส์ เอกซ์, และรถจักรยานยนต์ยาม่าฮ่า คิวบิก โดยคำส่งซื้อใหม่นี้จะหนุนยอดขายปี 2561 ให้สูงกว่าที่เราประเมินไว้ก่อนหน้า ดังนั้นเราจึงปรับประมาณารยอดขายปี 2561 ขึ้นมาอยู่ที่ 1.22 หมื่น
ล้านบาท สูงขึ้น 7% YoY (จากเดิม 1.14 หมื่นล้านบาท สูงขึ้น 3% YoY) และปรับประมาณการกำไรขึ้นเป็น 1.48 พันล้านบาท สูงขึ้น 15% (จากเดิม 1.35 พันล้านบาท สูงขึ้น 6.8% YoY) และประมาณการยอดขายปี 2562 ใหม่ของเราอยู่ที่ 1.22 หมื่นล้านบาท สูงขึ้น 6% YoY (จากเดิม 1.17 พันล้านบาท สูงขึ้น 3% YoY) ซึ่งส่งผลให้ประมาณการกำไรปี 2562 ของ เราสูงขึ้นมาอยู่ที่ 1.63 พันล้านบาท สูงขึ้น 10% (จากเดิม 1.55 พันล้านบาท สูงขึ้น 5% YoY) อีกทั้งยังมีอัพไซด์จากคำสั่งซื้อใหม่ที่อาจพ่วงมากับรถรุ่นใหม่ของลูกค้าด้วยในครึ่งปีหลัง

อัตรากำไรขั้นต้นอาจสูงขึ้นในปี 2561 หนุนโดยการผลิตที่ดีขึ้น

คำส่งซื้อใหม่จะช่วยหนุนอัตราการใช้กำลังการผลิตของ STANLY ให้สูงขึ้นมาอยู่ที่ 90% ในปี 2562 จากเดิม 85% ในปีที่แล้ว ซึ่งจะช่วยลดผลกระทบจากงบลงทุนเพื่อรองรับคำสั่งซื้อใหม่ที่จะกดดันกำไรของบริษัทได้บ้าง ปัจจุบันเราประเมินอัตรากำไรขั้นต้นที่ 17% ในปี 2561 ลดลงเล็กน้อยจาก 17.6% ในปีที่แล้ว ก่อนที่จะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 17.5% ในปี 2562 หนุนโดยการประหยัดขนาด อีกทั้งยังมีอัพไซด์ต่อประมาณการอัตรากำไรขั้นต้นทั้งสองปีของเราหาก STANLY สามารถลดอัตราของเสียจากการผลิตลงจาก 5-6% ของยอดผลิตในปีที่แล้ว และทำให้ GM ปรับตัวสูงกว่าเราประมาณการ

งบลงทุนปีนี้ - 2561 จะอยู่ในระดับสูง แต่จะใช้เงินกู้ไม่มากนัก

STANLY ตั้งงบลงทุนปี 2561 สำหรับสายการผลิตใหม่เพื่อรองรับคำสั่งซื้อใหม่ (ตามที่กล่าวไว้ข้างต้น) และสำหรับปรับปรุงสายการผลิตเดิมจากระบบอนาล็อคเป็นระบบดิจิทัลในทุกโรงงานในปีนี้ เราคาดงบลงทุนปี 2561 จะอยู่ที่ 2 พันล้านบาท เทียบกับ 945 ล้านบาทในปีที่แล้ว โดยเรา มองว่าการลงทุนนี้จะใช้เงินลงทุนจากกระแสเงินสดภายใน เนื่องจาก ณ
วันที่ 31 มี.ค. 2560 บริษัทมีเงินสดในมือ 1.25 พันล้านบาท และมีกระแสเงินสดจากการดำเนินงานประมาณประมาณ 2.4 พันล้านบาทต่อปี