Daily Market Outlook (23 พ.ค.60)

Daily Market Outlook (23 พ.ค.60)

ปัจจัยพื้นฐานหนุนแต่การเมืองถ่วง

คาดหุ้นไทยขยับขึ้นต่อวันนี้หลังจากพุ่งแรงเมื่อวันจันทร์หนุนโดยผลประกอบการ บจ.ไทย และตัวเลขเศรษฐกิจไทยอันแข็งแกร่งในไตรมาส 1/60 ตลอดจนราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้นต่อ อย่างไรก็ตาม ความไม่แน่ใจต่อตำแหน่งประธานาธิบดีของทรัมป์ในขณะที่การสืบสวนดำเนินไป และเหตุระเบิดที่เมือง Manchester และที่โรงพยาบาลพระมงกุฎฯ เมื่อวานอาจส่งผลลบต่ออารมณ์ของตลาด ตัวเลขส่งออกไทยเดือน เม.ย.และสี่เดือนแรกแกร่งจริง ในขณะที่ ดัชนีค้าปลีกก็ออกมาดีในไตรมาส 1/60 เน้นย้ำเศรษฐกิจภายในประเทศที่ฟื้นตัวเข้มแข็ง

หุ้นเด่นวันนี้: PLANB (ราคาปิด 5.95 บาท,NR, ราคาเป้าหมาย ปี 60 ของ Bloomberg 6.97 บาท)

บมจ. แพลน บี มีเดีย ซึ่งเป็นผู้ให้บริการพื้นที่สื่อโฆษณานอกบ้านที่มีแพลตฟอร์มหลากหลายและมีนวัตกรรมมากที่สุดรายหนึ่งของไทย ขณะที่การใช้จ่ายโฆษณาส่วนใหญ่สำหรับสื่ออื่นๆ หดตัวเป็นตัวเลขสองหลัก ทำให้เฉลี่ยแล้วาภาพร่วมการใช้จ่ายโฆษณาหดตัวลง 5.8% เทียบปีก่อนสำหรับช่วง 4 เดือนแรก แต่สื่อนอกบ้านยังเติบโตได้ดีถึง 23% ดังนั้น PLANB จึงเป็นหนึ่งในไม่กี่รายในกลุ่มสื่อที่ได้ประโยชน์จากการเติบโตของการใชจ่ายโฆษณาในปีนี้ ในระยะยาวเมื่อค่าใช้จ่ายโฆษณาในประเทศฟื้นตัวก็ยิ่งน่าจะได้ประโยชน์จากการโดยรวมเข้าไปอีก การบริโภคภาคครัวเรือนของไทยขยายตัวดีที่ 3.2% เทียบปีก่อนใน ไตรมาส 1/60 เพิ่มจากไตรมาส 4/59 ที่โต 2.5% เราเชื่อว่ากำไรของ PLANB น่าจะถึงจุดต่ำสุดแล้วในปีที่แล้ว และน่าจะพลิกกลับมาแข็งแกร่งในปีนี้และปีถัดไป PLANB ได้ตั้งบริษัทย่อยเพื่อผลิตแอพมือถือสำหรับคนที่ต้องการวางแผนเดินทางโดยรถเมล์ รถไฟฟ้า แท็กซี่และมอเตอร์ไซค์ เราเห็นว่าเป็นก้าวที่ดีที่จะเข้าสู่การโฆษณาผ่านอินเทอร์เน็ตและแอพ และยังมีแหล่งรายได้ใหม่จากสิทธิประโยชน์ทางธุรกิจทั้งหมดของสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยและไทยพรีเมียร์ลีก ซึ่งน่าจะผลักดันความสามารถและรายได้ให้เติบโตได้ ตามค่าเฉลี่ยของ Bloomberg คาดการณ์กำไรน่าจะเติบโตถึง 62% ในปี 60 และเติบโต 23% ในปี 61 Price Pattern ของ PLANB มีความแข็งแกร่งทั้งในระยะสั้นและระยะกลาง จากการเกิดทั้ง Daily & Weekly Buy Signal โดยหาก Price Pattern ของ PLANB สามารถปิดตลาดรายเดือนเหนือ 6.35 บาท ก็จะทำให้แนวโน้มหลักกลับเข้าสู่แนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) อีกครั้ง จากการกลับมาเกิด Monthly Buy Signal ครั้งใหม่ โดยเมื่อพิจารณา Price Pattern ของ PLANB มีเป้าหมายสำคัญอยู่ที่ 6.25 บาท ทั้งนี้ PLANB มีจุด Stop Loss ระยะสั้นอยู่ที่ 5.60 บาท (แนวต้าน: 6.05, 6.20, 6.30; แนวรับ: 5.85, 5.75, 5.60)

ปัจจัยสำคัญ

ประเด็นในประเทศ:

• ระเบิดโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า กรุงเทพ ในวันครบรอบสามปีรัฐประหารในวันจันทร์ ผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 25 รายส่วนใหญ่เป็นข้าราชการทหารเกษียณอายุที่รอรับยา ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต ตำรวจว่าอาจเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ระเบิกตึกเก่ากองสลากฯ เมื่อ 5 เม.ย. และหน้าโรงละครแห่งชาติเมื่อ 15 พ.ค. (The Nation)

• ส่งออก 4 เดือนแรกโตสูงสุดในรอบ 6 ปี ก.พาณิชย์วานนี้ประกาศตัวเลขส่งออกอย่างเป็นทางการเติบโต 8.5% YoYอยู่ที่ 1.69 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หนุนโดยการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและราคาผลผลิตทางการเกษตรและน้ำมันที่เพิ่มขึ้น ในระหว่างที่ ยอดนำเข้าเพิ่มขึ้น 13.4% YoYทำให้ยอดเกินดุลการค้าอยู่ที่ 56.8 ล้านบาท นอกจากนี้ ยอดส่งออก 4 เดือนแรกปี 60 โต 5.7% อยู่ที่ 7.33 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเติบโตสูงที่สุดในรอบ 6 ปี ขณะที่ นำเข้า 4 เดือนแรกโต 14.5% สู่ 6.92 หมื่นล้านดอลลาร์ และยอดเกินดุลการค้าอยู่ที่ 4.1 พันล้านดอลลาร์ (Bangkok Post)

• ดัชนีค้าปลีกโตไตรมาสแรก ดัชนีอุตสาหกรรมค้าปลีกในไตรมาส 1/60 เติบโต 3.02% YoYหนุนโดยภาพรวมเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว สมาคมผู้ค้าปลีกไทยเชื่อถ้าเศรษฐกิจยังเติบโตต่อไปและรัฐบาลสามารถคงการใช้จ่ายต่อไปได้ ตัวเลขดัชนีครึ่งปีแรกน่าจะเติบถึง 3.2% (แนวหน้า)

• รายย่อยเทรดฉุดมูลค่าซื้อขายวูบ ตลาดหลักทรัพย์ฯ เร่งจัดงาน Thailand Big Strategie Move 22-23 มิ.ย.นี้ นายกฯนำทีมหวังดึงเชื่อมั่น ชวนนักลงทุนทั้งในประเทศและต่างชาติ แจงประโยชน์จากบีโอไอ ระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก (อีอีซี) และการส่งเสริมตลาดหลักทรัพย์ คาดว่ามีนักลงทุนเข้าร่วม 500 รายรวมถึงเอดีบีและธนาคารต่างประเทศต่างๆ ด้วย (กรุงเทพธุรกิจ, มติชน)

ต่างประเทศ:

• เกิดเหตุระเบิดที่งานแสดงคอนเสิร์ตในเมืองแมนเชสเตอร์ทางตอนเหนือของอังกฤษเมื่อคืนวันจันทร์ ซึ่งเป็นสถานที่นักร้องสาวชาวสหรัฐ อาเรียนา แกรนเด กำลังแสดงคอนเสิร์ตอยู่ได้คร่าชีวิตผู้คน 19 รายและบาดเจ็บอย่างน้อย 50 ราย แมนเชสเตอร์ อารีน่า เป็นสนามกีฬาในร่มใหญ่ที่สุดในยุโรป สามารถจุคนได้ถึง 21,000 ราย และเป็นสถานที่นิยมจัดคอนเสิร์ตและแข่งกีฬา อังกฤษอยู่ในระดับการเตือนภัยสูงสุดเป็นลำดับสองซึ่งหมายถึงมีแนวโน้มสูงที่จะถูกโจมตีจากผู้ก่อการร้าย (Reuters)

• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐปรับตัวขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากมีการขายเบาบางที่เกี่ยวกับปริมาณพันธบัตรรัฐบาลและหุ้นกู้เอกชนหักกลบการประมูลพันธบัตรจากความกังวลเกี่ยวกับการสอบสวนความเป็นไปได้ที่จะมีความเชื่อมโยงกันระหว่างทีมหาเสียงของทรัมป์กับรัสเซีย อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอ้างอิงอายุ 10 ปี ล่าสุดอยู่ที่ระดับ 2.252% เพิ่มขึ้นจากที่ระดับ 2.23% เมื่อวันศุกร์ (Reuters)

• ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าต่ำสุดในรอบกว่า 6 เดือนเทียบกับสกุลเงินหลักเมื่อวันจันทร์ ขาดทุนต่อจากสัปดาห์ก่อน เนื่องจากบรรยาความไม่แน่นอนทางการเมืองสหรัฐและเงินยูโรที่ปรับตัวขึ้นกดดันค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ปรับตัวลง 0.14% สู่ระดับ 97.005 โดยในระหว่างวันได้ปรับตัวลงไปถึงระดับ 96.797 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับแต่วันที่ 9 พ.ย. (Reuters)

สหรัฐ:

• ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐปิดบวกเมื่อวันจันทร์ ได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มผู้ผลิตสินค้าที่เกี่ยวกับการทหาร ซึ่งปรับตัวขึ้นหลังจากสหรัฐและซาอุดิอาระเบียได้ลงนามในข้อตกลงการซื้อขายอาวุธมูลค่าหลายแสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ประธานาธิบดีทรัมป์ได้เยือนซาอุฯ ในช่วงสุดสัปดาห์และบรรลุข้อตกลงมูลค่า 1.1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยที่ซาอุฯ จะซื้ออาวุธจากสหรัฐเพื่อช่วยต่อต้านอิหร่าน ซึ่งมีสิทธิที่จะสูงถึง 3.50 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐภายในช่วง 10 ปี (Reuters)

• ขณะนี้คาดกำไรแข็งแกร่งขึ้นมาก จากผลการดำเนินงานเกือบทั้งหมดของบริษัทใน S&P500 ที่ประกาศมา การเติบโตของกำไรสุทธิในไตรมาส 1/60 ในขณะนี้คาดว่าอยู่ที่ 15.3% จากข้อมูลของทอมสัน รอยเตอร์ส (Reuters)

ยุโรป:

• หุ้นยุโรปร่วงวันจันทร์ เนื่องจากความกังวลต่อสถานการณ์ทางการเมืองหลังจากพรรคแรงงานสังคมนิยมสเปนเลือกผู้นำเก่า Pedro Sanchez กลับเข้ามาเป็นหัวหน้าพรรคอีกครั้งหนึ่ง ดัชนี Pan European FTSEurofirst 300 ร่วง 0.11% (Reuters)

• นายกฯ เยอรมัน Angela Merkel กล่าววานนี้ว่าสกุลเงินร่วมอ่อนค่าลงเนื่องจากนโยบายการเงินของ ECB และปัจจัยดังกล่าวยังเป็นเหตุให้เกินดุลการค้าของเยอรมันอยู่ในระดับสูง คำกล่าวของผู้นำเยอรมันในครั้งนี้ทำให้ค่าเงินยูโรกลับมาเคลื่อนไหวอีกครั้งหนึ่ง หลังจากก่อนหน้าได้รับแรงหนุนจากการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศส (Reuters)

เอเชีย:

• กลัวว่า BOJ จะปรับแผนการซื้อพันธบัตรครั้งใหญ่ในตลาดตราสารหนี้ของญี่ปุ่นเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เนื่องจากนักลงทุนรีบขายออกไปในการประมูลทำให้อัตราผลตอบแทนสูงขึ้นในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ในขณะที่ BOJ กำลังทางออกจากนโยบาย QE ที่ดำเนินมาสี่ปีก่อนหน้านี้ (Reuters)

• จีนเข้มงวดต่อปัญหาสิ่งแวดล้อม: จีนเปิดตัวการปราบปรามอุตสาหกรรมเหล็กทั่วภูมิภาครวมถึงการผลิตสังกะสีและนิกเกิล เมือง Tangshan ในจีนได้เปิดตัวแคมเปญเพื่อปรับปรุงคุณภาพอากาศเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เนื่องจากโรงงานเหล็กในภูมิภาคที่มีการผลิตสูงสุดของประเทศไม่ผ่านมาตรฐานการปล่อยมลพิษ อาจต้องเผชิญกับการระงับการผลิตและจ่ายค่าปรับหนัก(Reuters)

สินค้าโภคภัณฑ์:

• ราคาน้ำมันแตะจุดสูงสุดในรอบกว่า 1 เดือนวันจันทร์ เพราะความเชื่อมั่นว่า OPEC และประเทศผู้ผลิตหลักระบุว่าน่าจะขยายเวลาลดกำลังการผลิต น้ำมันดิบ Brent ล่วงหน้าบวก 26 เซนต์ (+0.5%) ปิด 53.87 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล น้ำมันดิบสหรัฐล่วงหน้าบวก 40 เซนต์ (+0.8%) ปิด 50.73 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล (Reuters)

• ทองคำบวกวันจันทร์และบวกต่อหลังจากบวกรายสัปดาห์มากสุดในรอบห้าสัปดาห์ เพราะดอลลาร์อ่อนลงเทียบยูโรจากปัญหาการเมืองในสหรัฐ ทำให้คนหันมาถือสินทรัพย์ปลอดภัย ทองคำตลาดจรบวก 0.3% ปิด 1,258.72 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ทองคำสหรัฐล่วงหน้าส่งมอบ มิ.ย. ปิดบวก 0.4% ที่ 1,258.80 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ (Reuters)

• ทองแดงบวก 0.63% สู่ 5,718 ดอลลาร์สหรัฐต่อตันวันจันทร์ ขณะที่ราคาสังกะสีและนิกเกิลแตะจุดสูงสุดรอบสองสัปดาห์หลังจีนคุมอุตสาหกรรมเหล็กและการผลิตโลหะทั้งสองอย่างข้างต้น (Reuters)