'ก.ล.ต.' เชือดผู้จัดการกองทุนใช้อินไซด์

'ก.ล.ต.' เชือดผู้จัดการกองทุนใช้อินไซด์

ก.ล.ต.ประเดิมใช้ "มาตรการลงโทษทางแพ่ง" ลงโทษอดีตผู้จัดการกองทุนอสังหาฯศาลาแอทสาร ฐานใช้มูลภายในซื้อขายหุ้น โดยสั่งปรับและให้ชดใช้คืนผลประโยชน์กว่า 2 ล้านบาทพร้อมห้ามปฏิบัติงานในธุรกิจตลาดทุน 5 ปี

นายรพี สุจริตกุล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า ก.ล.ต.ได้ดำเนินคดีด้วยมาตรการลงโทษทางแพ่งต่อนายยิ่งอนันต์ วงศ์ศิริเดช ในความผิดฐานแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ จากการทำหน้าที่ ผู้จัดการกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ศาลาแอทสาทร (SSPF) ที่ซื้อหลักทรัพย์ SSPFโดยอาศัยข้อมูลภายใน โดยให้ส่งคืนผลกำไรที่ได้รับจากการกระทำผิด 1.38 ล้านบาท และชำระค่าปรับทางแพ่ง 1.73 ล้านบาท

นอกจากนี้ ก.ล.ต.สั่งห้ามปฏิบัติงานในธุรกิจตลาดทุนเป็นเวลา 5 ปี รวมทั้งสั่งปรับทางแพ่งผู้สนับสนุน 2 ราย คือ นางสาวกีรรัตน์ วิภูสุพรรณ์ และนางสาวศรัญญา เข็มทอง เป็นเงินรายละ 333,333.33 บาท

สืบเนื่องจากก.ล.ต. ได้รับรายงานเหตุสงสัยจากตลาดหลักทรัพย์ จึงตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วพบว่า ในช่วงต้นปี 2558 นายยิ่งอนันต์ เป็นผู้จัดการกองทุนรวม SSPF ได้รับการติดต่อจากผู้ที่สนใจจะซื้อที่ดินและอาคารศาลาแอทสาทรหรือการขอเช่าระยะยาวในราคาที่สูงกว่าราคาประเมินมาก ซึ่งหากกองทุน SSPF ตกลงขายที่ดินและอาคารดังกล่าวให้กับผู้เสนอซื้อ และเลิกกองทุน ผู้ถือหน่วยจะได้รับเงินคืนสูงกว่ามูลค่าทรัพย์สินต่อหน่วยลงทุน SSPF ซึ่งการเสนอซื้อดังกล่าวจึงถือว่ามีผลต่อการเปลี่ยนแปลงราคา SSPF

โดยกองทุน SSPF เปิดเผยข้อมูลตลาดหลักทรัพย์ วันที่ 25 มิ.ย.2558 หลังจากผู้สนใจซื้อรายดังกล่าวมอบเงินมัดจำซื้อที่ดินและอาคารศาลาแอทสาทร ซึ่งปรากฏว่า ในวันที่ 26 มิ.ย. 2558 วอลุ่มSSPF มีปริมาณสูงถึง 1,417,700 หน่วย (เพิ่มขึ้น 66 เท่าจากวันก่อนหน้า) และราคาปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องอีกหลายเดือนจนสูงกว่า 9 บาท

นายยิ่งอนันต์ ได้ใช้ประโยชน์จากการล่วงรู้ข้อมูล โดยใช้บัญชีนางสาวศรัญญาซื้อ SSPF ที่ราคา 5.25 - 5.30 บาท ต่อมาเมื่อข้อมูลเปิดเผยต่อประชาชนและราคาSSPF ปรับตัวสูงขึ้นแล้ว นายยิ่งอนันต์ได้ขายหุ้นทั้งหมดที่ถืออยู่ที่ราคา 8.75 - 9.30 บาท

ก.ล.ต. ได้เสนอผลการตรวจสอบต่อคณะกรรมการพิจารณามาตรการลงโทษทางแพ่ง (ค.ม.พ.) ตามมาตรา 317/3 วรรคหนึ่ง แห่ง พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2559 แล้ว ค.ม.พ. เห็นชอบให้นำมาตรการลงโทษทางแพ่งมาบังคับใช้ โดยนายยิ่งอนันต์และพวกได้ยอมรับและส่งคืนผลกำไรที่ได้รับจากการกระทำผิด

“ก.ล.ต.ใช้มาตรการลงโทษทางแพ่งเป็นครั้งแรกกับผู้กระทำผิด หลังจากที่กฎหมายหลักทรัพย์ฉบับที่ 5 มีผลใช้บังคับวันที่ 12 ธ.ค.2559 โดยการลงโทษทางแพ่งเป็นอีกช่องทางบังคับใช้กฎหมาย นอกจากการดำเนินการทางอาญา เพื่อให้บังคับใช้กฎหมายมีประสิทธิภาพมากขึ้น  โดยก.ล.ต.จะนำส่งเงินให้กระทรวงการคลังต่อไป