นักลงทุนหยุดเทรด 'กดวอลุ่ม'

นักลงทุนหยุดเทรด 'กดวอลุ่ม'

นักลงทุน "หยุดเทรด" กดวอลุ่ม มูลค่าซื้อขายวูบ28%-ตลาดชี้โยกซื้อหุ้นเล็ก ตลาดเร่งจัดงาน Thailand Big Strategie Move วันที่ 22-23 มิ.ย.นี้ นายกฯนำทีมหวังดึงเชื่อมั่นต่างชาติ 

นักลงทุนบุคคลซื้อขายหุ้นลดฮวบ 28% สัดส่วนต่อมูลค่าซื้อขายเหลือ 45 % เม็ดเงินต่อบัญชี 2.85 ล้านบาท ด้านตลาดคาดนักลงทุนหนีหุ้นใหญ่โยกซื้อขายหุ้นเล็กแทน ขณะที่เม็ดเงินต่างชาติชะลอเข้าไทย “เกศรา”หวังกำไรบริษัทจดทะเบียนฟื้นช่วยดึงความเชื่อมั่น

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยรายงานการซื้อขาย ประจำเดือนเม.ย. พบว่า การซื้อขายของนักลงทุนรายบุคคลปรับตัวลดลงอย่างมาก โดยสัดส่วนต่อมูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 45.12 % ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 53.81 % มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อบัญชี อยู่ที่ 2.85 ล้านบาท ลดลงจากปี 2559 ที่ 3.27 ล้านบาท หรือลดลง 28.7 % นอกจากนี้มูลค่าการซื้อขายต่อมูลค่าหลักทรัพย์ (shere turnover veiocity) ตามตลาด อยู่ที่ 66 % ต่ำสุดในรอบ 3 ปี

นายภากร ปีตธวัชชัย รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กรฯ ตลาดหลักทรัพย์ กล่าวว่า นักลงทุนรายบุคคลซื้อขายลดลง มองว่าเกิดจากนักลงทุนรายบุคคลหันไปซื้อขายในหุ้นขนาดกลางและเล็กมากขึ้น  ซึ่งในหุ้นดังกล่าวมีสัดส่วนค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับหุ้นขนาดใหญ่ ประกอบกับเงินทุนจากต่างชาติไหลเข้าไทยน้อยลง เนื่องจากผลการดำเนินงานของตลาดหุ้นไทยในปี 2559 ปรับตัวขึ้นค่อนข้างมาก ปีนี้จึงชะลอการลงทุนในตลาดหุ้นไทย ทำให้ความผันผวนในตลาดหุ้นลดลงเหลือระดับ 10% จากปกติที่ 20 %

อย่างไรก็ตาม ทิศทางการซื้อขายในตลาดหุ้นไทยหลังจากนี้ เชื่อว่าจะคึกคักขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่อง จะช่วยทำให้เม็ดเงินต่างชาติกลับมาซื้อขายสร้างความคึกคักในตลาดหุ้นไทย

ด้านนางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ กล่าวว่า ภาพรวมการเติบโตของบริษัทจดทะเบียนมีทิศทางที่ดีมากในไตรมาสแรกมีกำไรสุทธิ 2.85 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 21% จากงวดเดียวของปีก่อน แม้จะมีการตัดผลการดำเนินงานในกลุ่มพลังงานที่เติบโตโดดเด่นออกไป กำไรของบริษัทจดทะเบียนยังเติบโตได้ 2 % ซึ่งเป็นผลมาจากบริษัทจดทะเบียนมีการทุนในต่างประเทศมากขึ้น โดยในปี2559 มีรายได้จากต่างประเทศคิดเป็น 47% ของรายได้ทั้งหมด

โดยประเมินว่า เศรษฐกิจที่เติบโตได้ดี จากการส่งออกที่ฟื้นตัว ราคาน้ำมันยังอยู่ในระดับที่สูง รวมถึงกลุ่มธนาคารแม้จะมีแรงกดดันจากการลดดอกเบี้ยเงินกู้ลง ก็ยังรักษาการเติบโตได้ ดังนั้นต้องติดตามว่า นักวิเคราะห์จะมีการปรับประมาณการกำไรบริษัทจดทะเบียนหรือไม่

ตลาดหลักทรัพย์ยังได้ร่วมกับรัฐบาล จัดงาน Thailand Big Strategie Move ขึ้นในวันที่ 22 -23 มิ.ย.นี้ โดยในงานนี้จะมี พล อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ ให้ข้อมูลกับนักลงทุนสถาบันโดยตรง รวมถึงมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งรัฐมนตรีกระทรวงคมนาคม กระทรวงอุตสาหกรรมรวมถึงภาคเอกชนขนาดใหญ่ ทั้ง นายศุภชัย เจียรวนนท์ จากกลุ่มซีพี นายฐาปน สิริวัฒนภักดี จากกลุ่มไทยเบฟเวอเรจ รวมถึงกลุ่ม ปตท. เป็นต้น

วัตถุประสงค์การจัดงานจะเน้นให้นักลงทุนได้รับทราบถึงการเติบโตของประเทศไทยในอนาคต และมีการจัดเยี่ยมชมในพื้นที่ต่างๆ เพื่อให้นักลงทุนสถาบันได้รับทราบ โดยมีนักลงทุนสถาบันต่างประเทศกว่า 100 ราย เข้าร่วมรับฟังข้อมูล