วุ่นทั้งสนามบิน สาวพูดเล่นกระเป๋าหนักระเบิด!!

วุ่นทั้งสนามบิน สาวพูดเล่นกระเป๋าหนักระเบิด!!

วุ่นทั้งสนามบิน สาวปากเสียพูดเล่นกระเป๋าหนักระเบิด พร้อมหงายการ์ดพูดไปด้วยความคึกคะนองและรู้เท่าไม่ถึงการณ์!!

ที่ท่าอากาศยานน่านนคร ต.ผาสิงห์ อ. เมือง จ.น่าน เกิดเหตุระหว่างที่ผู้โดยสารหญิงรายหนึ่ง อายุ 29 ปี ซึ่งอยู่ระหว่างชั่งน้ำหนักกระเป๋าเพื่อโหลดขึ้นเครื่องของสายการบินแอร์เอเชีย เที่ยวบินที่ FD 3557 น่าน-กรุงเทพ เวลาออกเดินทาง 16.15 น. ได้พูดกับเพื่อนที่เดินทางมาด้วยกันระหว่างนำกระเป๋าขึ้นชั่งน้ำหนัก เพื่อผ่านจุดตรวจผู้โดยสารขาออกว่า กระเป๋าหนักมากน่าจะเป็นเพราะระเบิด ซึ่งทำให้เจ้าหน้าที่กำลังปฏิบัติงานในจุดตรวจได้ยิน จึงรายงานตามแผนรักษาความปลอดภัย เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย จึงได้เข้าควบคุมตัวหญิงคนดังกล่าวไปสอบสวนและตรวจค้น เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่สนามบิน ผู้โดยสารที่อยู่ในบริเวณสนามบินตื่นตกใจ ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้เชิญผู้โดยสารที่ขึ้นไปบนเครื่องิบนแล้วลงจากเครื่องเพื่อตรวจค้นอย่างละเอียดอีกรอบ

นายเรืองยุทธ นิตยานนท์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานน่านนคร เปิดเผยว่า ผู้โดยสารคนดังกล่าวเดินทางมาเป็นหมู่คณtเพื่อมาประชุมและกำลังอยู่ระหว่างการเดินทางกลับ โดยมีกำหนดเดินทางจากท่าอากาศยานน่านนคร ไปยังท่าอากาศยานดอนเมือง เพื่อไปต่อสายการบินไปยังท่าอากาศยานนานาชาติสุราษฏร์ธานี ขณะกำลังนำกระเป๋าชั่งน้ำหนักเพื่อนำขึ้นเครื่องบินและอยู่ระหว่างรอการผ่านเข้าจุดตรวจผู้โดยสารขาออก ได้พูดคุยล้อเล่นกันว่ากระเป๋าหนักมากน่าจะเป็นเพราะระเบิด ซึ่งเจ้าหน้าที่ซึ่งกำลังปฏิบัติงานในจุดตรวจดังกล่าวได้ยิน จึงรายงานตามแผนรักษาความปลอดภัย และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้เข้าควบคุมตัว ขอตรวจค้นและนำตัวสอบสวน

จากการตรวจค้นอย่างละเอียด และสอบสวนสวนทราบว่าได้พูดเล่นกันไปโดยความคะนองปาก รู้เท่าไม่ถึงการณ์ ไม่มีเจตนาที่จะกระทำการให้บุคคลอื่นเข้าใจผิด หรือตกใจกลัวแต่อย่างใด จึงพิจารณาให้ทำบันทึกรายงานและว่ากล่าวตักเตือนก่อนปล่อยตัวไป

อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ลักษณะนี้ถือเป็นครั้งแรกของท่าอากาศน่านนคร ที่ต้องมีการตรวจสอบเรื่องระเบิด ซึ่งแม้จะเป็นการพูดคุยเล่นก็จำเป็นต้องปฏิบัติตามมาตรการรักษาความปลอดภัย ซึ่งได้ยกระดับสูงสุดตามนโยบายสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย

สำหรับท่าอากาศยานน่านนคร มีระบบการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวด มีการติดตั้งกล้องวงจรปิดในทุกจุดทั้งภายในตัวอาคารและโดยรอบ โดยเฉพาะจุดที่มีความล่อแหลมสุ่มเสี่ยง และขอเตือนประชาชนที่มาใช้บริการ ขอให้ระมัดระวังเรื่องการพูดหรือแสดงถึงสิ่งของต้องห้าม ซึ่งหากมีเจตนาหรือเข้าขั้นตอนการปฏิบัติแล้วอาจมีความผิดตามกฎหมายและมีโทษสูงสุดได้