พระชาวบ้านกรุงเก่าโวย ถูกโรงงานปิดทางเข้าออกหมู่บ้าน

ชาวบ้าน จำนวนกว่า 100 คนรวมตัวกันที่ หมู่ 3 ต.ปากจั่น อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา บริเวณถนนสายหลัก และตัดเข้าหมู่บ้าน หลังจากโรงงานแห่งหนึ่งได้ ปิดทางเข้าออกหมู่บ้านซึ่งเป็นเส้นทางที่ประชาชนในท้องถิ่นใช้ร่วมกันมาไม่น้อยกว่า 50 ปี ตั้งแต่ปู่ย่าตายาย ต่อมาโรงงานมาก่อสร้างและปิดทางถนนไม่ให้ชาวบ้านออก จนกระทั่งชาวบ้านหลายคนได้มารวมตัวกันและร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และศูนย์ดำรงธรรมออกมา ดำเนินการแก้ไขปัญหาให้กับชาวบ้านทั้งหมด รวมทั้งพระที่มีวัดอยู่ด้านในที่เดือดร้อนไม่สามารถออกทางเส้นเดิมได้ และเด็กนักเรียนที่ต้องไปโรงเรียนหลังจากเปิดภาคเรียนก็ต้องไปอ้อมไกลจึงมารวมตัวกันแต่ก็ยังไม่มีการช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างเต็มที่ จนมีความเดือดร้อนหนักในครั้งนี้

พระครูปริยัติติยาภิรมย์ เจ้าอาวาสวัดละมุด ซึ่งได้รับความเดือดร้อนเช่นกันบอกว่าตั้งแต่บวชเป็นพระมาก็เดินเส้นทางนี้ตลอดตั้งแต่สมัยเด็กๆจนอายุขณะนี้50กว่าแล้วก็พึ่งมาพบกับการปิดเส้นทางของโรงงานก็เดือดร้อนมากจึงอยากให้ผู้ที่เกี่ยวข้องออกมาช่วยเหลือชาวบ้าน และดำเนินการรวมทั้งโรงงานขอให้เปิดเส้นทางเพื่อให้ชาวบ้านออกได้

ด้านนางยุพิน วงชิด อายุ 61 ปี บอกว่าเดินทางเส้นนี้ถนนที่ออกจากหมู่บ้านมา 50 ปีแล้ว ก่อนนั้นเส้นทางนี้จะผ่านไปยังแม่น้ำได้เลยซึ่งมีรถผ่านเข้าตลอด จนทางอบต. ก็มาสร้างถนนให้ซึ่งเป็นที่สาธารณะส่วนรวมของชาวบ้าน แต่โรงงานอ้างว่าซื้อที่บริเวณดังกล่าวแล้วได้ถนนด้วย แต่ไม่ทราบว่าซื้อกับใคร และไม่นำหลักฐานออกมาให้ดูจึงเดินไปมาไม่ได้จนทุกวันนี้ ทางโรงงานอ้างว่าจะให้เป็นทางร่วม แต่ความปลอดภัยไม่รับรองเพราะว่าทางโรงงานจะนำรถบรรทุกออกเส้นทางเดียวกับชาวบ้าน และบอกว่าเป็นพื้นที่ของโรงงาน

ขณะที่นายณรงค์ เงินสุวรรณอายุ 47 ปี นายกองค์การบริหารส่วนตำบลปากจั่น บอกว่าทางโรงงานปิดเส้นทาง หรือการก่อสร้างต่างๆไม่ได้มีการอนุญาตจากทาง อบต. ทำโดยพลการ และผิดกฎหมาย โดยถมทับที่ทางเดินของชาวบ้านซึ่งเป็นพื้นที่ชาวบ้านเดินมาตั้งแต่ กว่า 50 ปี ก่อนหน้านั้นแล้ว จึงได้แจ้งความไว้ที่สภ. นครหลวง ไว้

และเบื้องต้นได้มีการประชุมพูดคุยกันกับทางอำเภอและปลัดอำเภอ เพื่อให้ทางโรงงานนำเอกสารการใช้สิทธิ์หรือโฉนดที่อ้างว่ามีการเซ็นซื้อขายแล้ว แต่ก็ยังไม่มีมาให้ดูว่าใครเป็นคนเซ็น และทุกครั้งนี้ที่ผ่านมาทางเจ้าของโรงงาน ก็ไม่มีการมาพูดคุยกับทางเจ้าหน้าที่อำเภอและทางอบต. รวมทั้งชาวบ้านแต่อย่างใดจนกระทั่งมาทำถนนในครั้งนี้ ซึ่งทำให้ชาวบ้านเดือดร้อนและไม่ทำตามกฎกติกาของกฎหมายเพื่อการอนุญาตการก่อสร้างก่อน และเร่งให้ตำรวจมาดำเนินการ เนื่องจากในครั้งนี้ทางภาครัฐก็ยังไม่สามารถดำเนินการทำอะไรได้เพียงแต่ชาวบ้านต้องฝากภาครัฐชั้นผู้ใหญ่ให้มาตรวจสอบและดูเพื่อดำเนินการต่อไป