5 ไฮไลท์เด็ดจากงานบิลบอร์ด มิวสิค อวอร์ด 2017

1.แฟชั่นพรมแดงหลากแนวหลายสไตล์

       เป็นธรรมเนียมของงานประกาศรางวัลหรืองานไหน ๆ ที่เหล่าผู้ร่วมงานจะมาเดินพรมแดงอวดชุดสวย ไอเดียแหวกแนวที่บ่งบอกตัวตนของแต่ละคนอย่างเช่นในงานนี้ นักร้องสาวชาวอเมริกันซี ลาล่า (Z Lala) มาพร้อมทรงผมกลม ๆ ที่ทำเอาเธอโดดเด่นกว่าใคร ๆ ในงาน  เช่นเดียวกับ เดนเซีย (Dencia) นักร้องสาวที่ออกแบบชุดของตัวเองโดยเธออาจได้แรงบันดาลใจมาจากทรงลูกบาศก์ทำให้ชุดออกมาในโทนสีเหลืองที่มีเครื่องประดับและชุดเป็นไปในแบบเดียวกันทั้งหมด  นอกจากชุดที่มีสไตล์เป็นของตัวเองจนกลายเป็นสีสันของงานแล้ว  ยังมีชุดเรียบหรูอีกอาทิ เวเนสซ่า ฮัดเจนส์ที่มาในชุดราตรีสีชมพูอ่อนดูเรียบหรูแต่ซ่อนความหวานเอาไว้  ส่วนทางฝากศิลปินชายยังคงนิยมสูทสีพื้นและเพิ่มลูกเล่นที่เครื่องประดับ

Z LA LA

Dencia

Vanessa Hudgens

2. “เดรก” คว้ารางวัลกลับบ้านมากที่สุด พร้อมทุบสถิติ “อะเดล”

       หลังจากในปีนี้แร๊พเปอร์หนุ่ม เดรก ถูกเสนอเข้าชิงรางวัลต่าง ๆ มากถึง 22 สาขา ซึ่งผลรางวัลทำให้เขากลับบ้านอย่างมีความสุขพร้อมถ้วยรางวัลอีก 13 ใบ  และยังเป็นรางวัลสำคัญอีกมากมายอาทิ ศิลปินยอดเยี่ยม, ศิลปินชายยอดเยี่ยม, รางวัลบิลบอร์ด 200 อัลบั้มยอดเยี่ยม, รางวัลบิลบอร์ด 200 ศิลปินยอดเยี่ยม เป็นต้น เพราะฉะนั้นใครที่ยังไม่รู้จักว่าหนุ่มเดรกมีผลงานเพลงอะไร ต้องรีบติดตามกัน  ส่วนอีกหนึ่งรางวัลที่น่าสนใจคือรางวัลศิลปินยอดนิยมในโซเชียล ซึ่งตกเป็นของบอยแบนด์แดนกิมจิอย่าง BTS

Drake ถ่ายภาพร่วมกับถ้วยรางวัลที่ได้รับ

วง BTS จากเกลาหลีคว้ารางวัล

3. คำกล่าวสั้น ๆ แต่สร้างช่วงเวลาดี ๆ ให้กับงาน

       นอกจากการคว้ารางวัลจำนวนมากของเดรกในค่ำคืนที่ผ่านมาแล้ว  เขายังกล่าวคำสั้น ๆ เมื่อเพื่อนศิลปินหลายคนรวมทั้ง นิกกี้ มินาจ และพ่อของเขาได้ร่วมขึ้นเวทีเขาก็ได้กล่าวคำพูดสั้น ๆ แต่มีความหมายถึงคนกลุ่มนี้ว่า “ผมได้พาครอบครัวของผมทั้งหมดขึ้นมาบนเวทีนี้”

เช่นเดียวกับนักร้องเสียงเอกลักษณ์อย่างเชอร์ (Cher) ในวัย 71 ปีนี้เธอได้รับรางวัลไอคอนไปครอง พร้อมกล่าวขอบคุณคุณแม่ของเธอที่ไม่เคยบอกว่าเธอนั่นหรือฉลาดกว่าใคร  แต่บอกกับเธอเสมอมาว่าเธอคือคนพิเศษที่สุด  พร้อมทั้งเผยว่าเธออย่างเป็นนักร้องมาตั้งแต่อายุ 4 ขวบจนวันนี้เธอได้ทำงานนี้มากว่า 53 ปีแล้ว

 

4. สองบทเพลงในตำนานจาก “เชอร์” ศิลปินไอคอนแห่งปี

       นอกจากการขึ้นรับรางวัลของเชอร์แล้ว  ปีนี้เธอยังนำบทเพลงอันเลื่องชื่อของเธอมาฝากผู้ชมในงานถึง 2 เพลงนั่นคือเพลง Believe ที่ถูกเปิดครั้งแรกในช่วงปี 2541 ด้วยทำนองเพลงสนุกและเทคนิคการบันทึกเสียงแบบใหม่ในยุคสมัยนั้น จนสร้างความแปลกใหม่กับวงการเพลง จนทำให้เพลงนี้ได้รับรางวัลแกรมมี่อวอร์ดในสาขารางวัลเพลงเต้นยอดเยี่ยมแห่งปี 2543 ไปครอง

       และอีกหนึ่งเพลงคือเพลง If I Could Turn Back Time ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเพลงฮิตของเชอร์  โดยปล่อยออกมาให้ได้ฟังกันเมื่อปี 2532 มาโชว์ในงานนี้อีกด้วย

 

5.เฉลิมฉลองครบรอบ 20 ปีหนังรักของคนทั้งโลก ด้วยเพลงรักตลอดกาล

       ไฮไลท์ที่ถูกพูดถึงมากที่สุดของงานนี้คงหนีไม่พ้น เพลงประกอบภาพยนตร์รักที่ครองใจผู้คนตลอดกาลอย่างเพลง “My Heart will go on” จากเรื่อง Titanic ที่ในวาระของปีนี้ครบรอบ 20 ปีของภาพยนตร์ นักร้องเจ้าของเสียงอย่างซีลีน ดิออน (Celine Dion) จึงขอนำบทเพลงนี้มาร้องให้ได้ฟังอีกครั้ง  พร้อมปรากฎตัวกลางม่านคริสตัล และด้านข้างที่ฉายภาพจากหนัง สร้างความประทับใจในกับทั้งแขกที่มาร่วมงานและคนในโซเชียลเป็นอย่างมาก