9 ภาพยนตร์คุณภาพใน German Film Week 2017

9 ภาพยนตร์คุณภาพใน German Film Week 2017

มีเทศกาลภาพยนตร์มาให้คอหนังชมกันอีกแล้วจ้า คราวนี้แฟนๆ หนังเยอรมันไม่ควรพลาดเพราะผู้จัด คัดเลือกหนังคุณภาพมาให้ชมกันถึง 9 เรื่อง 9 รสชาติ

  พอมาถึงช่วงกลางปีทีไรในบ้านเรามักจะมีเทศกาลภาพยนตร์ให้ชมกันอย่างคับคั่ง อย่างล่าสุดคอภาพยนตร์สายเลือดเยอรมัน ก็เตรียมลงจอให้แฟนๆ ได้ชมกันในเทศกาล “ German Film Week 2017” ที่เกิดขึ้น โดยผู้จัดได้คัดสรรค์ 9 ภาพยนตร์เยอรมันมากคุณภาพ มาให้เปิดโรงฉาย ณ โรงภาพยนตร์ พารากอน ซีนีเพล็กซ์ ศูนย์การค้าสยามพารากอน

  ปีที่ 5 ของเทศกาลภาพเยอรมันนี้ ได้รับความร่วมมืออย่างดีจากสถาบันเกอเธ่ ประเทศไทย หอภาพยนตร์ (องค์การมหาชน) และโรงภาพยนตร์ พารากอน ซีนีเพล็กซ์ ซึ่งจะเริ่มฉายตั้งแต่วันที่ 23-28 พฤษภาคมศกนี้ โดยภาพยนตร์ที่จะได้รับชมกันตลอดทั้งวีคนั้นมีทั้งแนวระทึกขวัญ, ให้กำลังใจ รวมถึงหนังคลาสสิกด้วย และทุกเรื่องจะมีคำบรรยายเป็นภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ประกอบ

 “Toni Erdmann” (2016) หนังแนวคอมเมดี้ ถูกยกมาเป็นภาพยนตร์เปิดเทศกาลครั้งนี้ ซึ่งเรื่องดังกล่าวได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์สาขาภาพยนตร์ต่างประเทศในปีที่ผ่านมา ถือเป็นรอบปฐมทัศน์ของภาพยนตร์เรื่องนี้ในประเทศไทยและในอาเซียน

  Toni Erdmann เล่าเรื่องราวความสัมพันธ์ของพ่อกับลูกสาวในแนวร่วมสมัยได้อย่างน่าสนใจ  โทนี แอ็ดมันน์ (Winfried Conradi)พ่อวัยเกษียณที่รักสนุกและเคยเป็นครูสอนดนตรี ส่วนอินเนส ลูกสาวเป็นนักธุรกิจหญิงสุดแกร่งที่ไม่เคยมีเวลาให้กับให้กับเรื่องสนุกใดๆ นอกจากงานของเธอ  วันหนึ่งโทนีอยากเซอร์ไพรส์ลูกสาวด้วยการไปเยี่ยมเธอที่บูคาเรสโดยไม่บอกให้รู้ล่วงหน้า อินเนสเองก็กำลังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อในหน้าที่การงาน สถานการณ์จึงปั่นป่วนไปหมด

Toni-Erdmann-Poster-enews

  นอกจากนี้ยังมีภาพยนตร์อีก 8 เรื่องที่น่าสนใจได้แก่

  Herbert  แฮร์แบร์ทเป็นอดีตนักมวยแชมเปี้ยนส์วัย 50 ปี อาศัยอยู่ในไลป์ซิก เมืองหนึ่งในเยอรมันตะวันออก ถึงแม้ว่ายุครุ่งเรืองทางอาชีพของเขาจะผ่านพ้นไปนานแล้ว แต่แฮร์แบทก็ยังแข็งแรงและหาเลี้ยงตัวเองได้ด้วยกำปั้นของเขา รอยแผลและรอยสักตามร่างกายกำยำเป็นเครื่องแสดงถึงการต่อสู้ทั้งแพ้และชนะของเขาได้เป็นอย่างดี ปัจจุบันเขาฝึกนักมวยรุ่นใหม่ๆและทำงานเป็นคนเฝ้าประตูและคนตามทวงหนี้ทำให้บางครั้งก็มีบ้างที่ต้องทำร้ายผู้อื่น ต่อมาเขาถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง (ALS) ทั้งโรคร้ายและการพยายามกลับไปคืนดีกับครอบครัวเป็นเสมือนสนามรบครั้งสุดท้ายของเขาที่ต้องทนต่อสู้ไปให้ถึงที่สุด

PTI_AHeavyHeart_PosterA1

  Berlin Syndrome ภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างจากนวนิยายเรื่อง Berlin Syndrome  แรกเริ่มดูเหมือนจะเป็นจุดเริ่มต้นของความโรแมนติก ทว่าเหตุการณ์กลับพลิกผัน เมื่อแคลร์ตื่นขึ้นในเช้าวันถัดมาและพบว่าแอนดี้ออกไปทำงานแล้ว หนำซ้ำยังล็อคห้องของเขาเอาไว้ทำให้เธอติดอยู่ในห้อง ตอนแรกแคลร์คิดว่าแอนดี้อาจแค่เผลอลืมล็อคห้อง จนกระทั่งเธอพบว่าแอนดี้ไม่ได้ต้องการที่จะปล่อยเธอออกไปไหนอีกเลย

berlinsyndrome

  Wild แนวดราม่า “เรื่องราวที่ถ่ายทอดออกมาเรียบง่าย แต่สร้างความฮือฮาได้อย่างมาก Wild  เป็นเรื่องราวของผู้หญิงคนหนึ่งที่รู้สึกแปลกแยกจากสังคมมนุษย์และพบความสุขกับสิ่งมีชีวิตสายพันธุ์อื่น ชีวิตที่จำเจของอาเนียส์ได้เปลี่ยนไปโดยไม่รู้ตัวเมื่อเธอได้พบกับหมาป่าตัวหนึ่ง เธอรู้สึกถูกดึงดูดและไม่อาจหยุดคิดถึงหมาป่าตัวนั้นได้เลย เธอค่อยๆ พยายามเข้าใกล้มันทีละนิด จนในที่สุดเธอก็สามารถจับมันมาได้และพากลับไปอยู่ที่อพาร์ทเมนต์ของเธอการใช้ชีวิตร่วมกับหมาป่าที่เริ่มจริงจังและลึกซึ้งมากขึ้นเรื่อยๆ ถูกสะท้อนให้เห็นผ่านทางท่าทางและพฤติกรรมคล้ายสัตว์ของเธอ โดยเริ่มปลดปล่อยสัญชาตญาณและความปรารถนาทางเพศออกมามากขึ้นในขณะเดียวกันก็ค่อยๆ สูญเสียการติดต่อกับผู้อื่นในสังคมลงไปเรื่อยๆ ท่าทางที่เมินเฉย ไม่สนใจใครแต่เปี่ยมไปด้วยความมั่นใจของเธอทำให้เธอทั้งน่าดึงดูดพอๆกับเป็นที่ไม่ชอบใจของผู้คนรอบข้าง

Wild-poster-900x1274

  24 Weeks เป็นภาพยนตร์เยอรมันแนวดราม่า เพียงเรื่องเดียวที่ได้รับการเปิดตัวในเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเบอร์ลินครั้งที่ 66 สิ่งที่ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้สมจริงก็คือ มีเพียงแค่ครอบครัวเท่านั้นที่แสดงโดยนักแสดงมืออาชีพ นอกนั้นทั้งหมอ นักจิตวิทยา และเด็กๆในเรื่องล้วนเป็นบุคคลที่อยู่ในเหตุการณ์จริง

24wochenposter

  Fritz Lang หนังแนวดราม่า ฟริทซ์ ลัง เป็นผู้กำกับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ ภาพยนตร์ขาวดำชื่อเดียวกันนี้เป็นการเอาทั้งเรื่องเล่าและข้อเท็จจริงมาผสมผสานกัน อีกทั้งยังแสดงให้เห็นถึงจุดเริ่มต้นของภาพยนตร์เรื่องเอกของเขานั่นก็คือเรื่อง “M”

fritzlang

  M ประเภทสืบสวน-ดราม่า เรื่องราวของเยอรมนีในช่วงปีค.ศ. 1930 มีฆาตรกรโรคจิตที่ชอบล่อลวงเด็กไปฆ่า ตำรวจพยายามใช้ทุกวิถีทางเพื่อที่จะจับเขามาลงโทษ แต่ก็ต้องคว้าน้ำเหลวหลายต่อหลายครั้ง ประชาชนที่ต้องอยู่อย่างหวาดระแวงจึงตัดสินใจใช้ศาลเตี้ยหาผู้กระทำผิดมาลงโทษเอง ซึ่งวิธีนี้บางครั้งก็ทำให้คนบริสุทธิ์ต้องพลอยถูกลงโทษไปด้วย บรรดาหัวหน้าแก๊งค์อาชญากรทั้งหลายที่ต้องคอยระวังตัวจากการตรวจตราของตำรวจที่เพิ่มขึ้นจึงตัดสินใจออกตามล่าฆาตรกรคนนี้เสียเอง และหากจับได้ก็ต้องการที่จะตัดสินโทษกันเองด้วย ในขณะที่ทางตำรวจเองก็มีความคืบหน้าในการตามจับคนร้ายและก็มีความคิดเรื่องการลงโทษที่ต่างออกไป

mposter

  Petterson and Findus: A Little Nuisance, a Great Friendship ภาพยนตร์เรื่องนี้ถูกยกย่องโดย FBW ให้เป็นภาพยนตร์ที่ครอบครัวควรดูอย่างยิ่ง และด้วยความที่ภาพยนตร์เรื่องนี้ประสบความสำเร็จอย่างมาก ในปีค.ศ. 2016 จึงได้มีภาคที่สอง “Pettersson und Findus 2 – The best Christmas ever” โดยเรื่องนี้มีฉายแบบพากษ์ไทยด้วย Pettersson and Findus เป็นหนังสือชุดสำหรับเด็ก แต่งโดยนักเขียนชาวสวีเดน Sven Nordgvist เล่าชีวิตของเจ้าแมวจอมทะเล้น Findus ที่กำลังหาที่อยู่ใหม่และได้มาอาศัยหลบภัยอยู่ที่ลานบ้านของชายชรา Petterson เจ้าเหมียวได้ทำให้ชีวิตที่เงียบเหงาและโดดเดี่ยวของเขาเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เกิดเป็นจุดเริ่มต้นของมิตรภาพอันงดงามและเรื่องสนุกอีกมากมาย หนังสือเล่มนี้ขายได้มากกว่า 6ล้านเล่มทั่วโลกและได้รับการแปลถึง 44 ภาษา ภาพยนตร์เรื่องนี้ถือเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกจากหนังสือชุดดังกล่าว

  pettersson-und-findus-plakat-Pette

 Goodbye Berlin หนังประเภทดราม่า-ตลก เล่าเรื่องราวในช่วงปิดเทอมฤดูร้อน แต่ทว่า “ไมค์ คลิงเงนแบร์ก” หนุ่มน้อยวัย 14 ปีก็ยังไม่ค่อยมีอะไรให้ทำแก้เซ็ง แม่ของเขาต้องไปเข้าคลินิคบำบัด ส่วนพ่อต้องไปเดินทางไปเจรจา “ธุรกิจ” กับเลขาสุดฮอต ไมค์ตกหลุมรักเพื่อนร่วมชั้นเรียนที่ชื่อ “ทาเทียน่า” แต่ก็ไม่เคยอยู่ในสายตาของสาวเจ้าเลยและไม่ได้รับเชิญไปปาร์ตี้วันเกิดของเธออีกด้วย กระนั้นชีวิตของเขาก็ยังพอมีเรื่องดีๆ อยู่บ้างเมื่อเขาได้รู้จักกับนักเรียนใหม่ที่ชื่อ “อันเดรย์ ชิคคาช็อฟ” หรือเรียกสั้นๆ ว่า “ชิค”เขาย้ายมาจากเมืองที่ห่างไกลของรัสเซียและมาอยู่ในตึกสูงระฟ้าในเขตมาร์ซานของเบอร์ลิน วันหนึ่งชิคได้ปรากฏตัวที่หน้าบ้านของไมค์พร้อมกับรถหนึ่งคันที่เขาขโมยมา แล้วความตื่นเต้นก็เริ่มขึ้น ทั้งสองออกไปซิ่งกันทั่วเยอรมันตะวันออกโดยไม่มีแผนที่ เข็มทิศ หรือแม้กระทั่งจุดหมายปลายทาง

international teaser poster

  ผู้ที่สนใจสามารถสำรองบัตรชมภาพยนตร์ได้ที่โรงภาพยนตร์พารากอน ซินีเพล็กซ์หรือที่เว็บไซต์www.majorcineplex.com บัตรราคา 120 บาทสำหรับที่นั่งพรีเมียมและ 150 บาทสำหรับที่นั่งพริวิเลจ