MORNING CALL ACTION NOTES (22 ม.ค.60)

MORNING CALL ACTION NOTES (22 ม.ค.60)

พลังงานนำทัพ

ตลาดหุ้นไทยวันก่อนปรับตัวขึ้นจากแรงซื้อกลุ่มพลังงานตามการคาดหวังผลการประชุมกลุ่มโอเปกวันที่ 25 พ.ค.จะขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตออกไปจนถึง Q1/2561 ประกอบกับแรงซื้อเก็งกำไรหุ้นขนาดกลาง-เล็ก ส่งผลให้ SET ปิดที่ 1,549.64 จุด (+3.76 จุด) ด้วย Volume 3.4 หมื่นลบ.โดย Foreign Net -814 ลบ. TFEX Net -524 สัญญา ตราสารหนี้ -1,592 ลบ.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

+ ตลาดหุ้น DJ ดีดตัวขึ้น หลังตลาดคลายความกังวลปัญหาการเมืองสหรัฐ รวมถึงแรงซื้อกลุ่มพลังงานหลังราคาน้ำมันดีดตัวขึ้น

+ ราคาน้ำมันดีดตัวขึ้นล่าสุด 50.9 US/Barrel จากเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง รวมถึงความคาดหวังกลุ่มโอเปกจะยืดเวลาการปรับลดการผลิตน้ำมันออกไปถึง Q1/2018 แม้ว่าจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐจะเพิ่มขึ้น 8 แท่น สู่ระดับ 720 แท่น

+ กรมทางหลวงจ่อชงคณะกรรมการ PPP มิ.ย.นี้ เคาะแผนลงทุนงานระบบมอเตอร์เวย์บางใหญ่-กาญจนบุรี และบางปะอิน-นครราชสีมา คาดเปิดประมูลทั้ง 2 สายทาง ธ.ค. 60

+/- Fund Flow ต่างชาติพลิกเป็น Net Sell 2 วันราว 2.8 พันลบ. แต่เงินบาทแข็งค่าล่าสุด 34.3 Bath/USD.

- เกาหลีเหนือประสบความสำเร็จในการทดสอบยิงขีปนาวุธ Pukguksong2 โดยยิงตกลงนอกเขตเศรษฐกิจพิเศษ (EEZ) ซึ่งเป็นน่านน้ำของญี่ปุ่น

** 24 พ.ค. การประชุมกนง. (คาดคงดอกเบี้ย R/P ที่ 1.5%)

** 25 พ.ค. การประชุมกลุ่มโอเปก คาดหารือการขยายเวลาลดกำลังการผลิตออกไปจนถึง Q1/2018

ตลาดหุ้นไทยได้ปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันดีดตัวขึ้นเหนือ 50 US/Barrel จากคาดการณ์ว่าการประชุมกลุ่มโอเปกวันที่ 25 พ.ค.จะยืดเวลาการปรับลดกำลังการผลิตซึ่งเป็นบวกต่อกลุ่มพลังงาน อย่างไรก็ตามความกังวล Fund Flow ต่างชาติที่พลิกเป็น Net Sell จะกดดันตลาดช่วงดีดตัว ดังนั้นประเมินว่า SET จะขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,555 – 1,560 จุดก่อนจะย่อตัวลง

กลยุทธ์การลงทุน Selective Buy กลุ่มที่มีปัจจัยสนับสนุน

- กลุ่มพลังงาน ราคาน้ำมันดีดตัวขึ้นเหนือ 50 US/barrel และเก็งผลการประชุมโอเปกในวันที่ 25 พ.ค.

- BANPU ราคาถ่านหินรีบาวด์ขึ้นล่าสุด 74.3 US/Ton

- LST VPO ราคาปาล์ม + 13% MoM ล่าสุด 667 USD/Ton

- MSCI Thailand เพิ่มน้ำหนัก PTT PTTGC BEM ส่วน MSCI Small Cap เพิ่ม BCPG BIG FORTH PTL THANI เข้าคำนวน มีผลตั้งแต่ 31 พ.ค.

หุ้นแนะนำพิเศษ

GPSC Analyst Meeting (ราคาปิด 34.00 Bloomberg Consensus 38.70)

- โครงการระหว่างก่อสร้างยังเป็นไปตามแผนโดยโรงไฟฟ้า IRPC Clean เฟส 2 โรงไฟฟ้าบางประอินโคเจน และโรงไฟฟ้าโซลาร์ญี่ปุ่นคาดว่าทยอยรับรู้รายได้ภายในครึ่งปีหลังกำลังการผลิตรวม 149 MW ส่งผลให้บริษัทมีกำลังการผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้นสู่ 1,530 MW

- เตรียมตั้งโรงงานผลิตแบตเตอร์รี่ลิเทียมในประเทศไทยโดยใช้เทคโนโลยีการผลิตจาก 24M ซึ่งสามารถผลิตได้เร็วขึ้น ต้นทุนถูกลง และสามารถนำแบตเตอร์รี่กลับมารีไซเคิลใหม่ได้ซึ่งดีกว่ากระบวนการผลิตแบบเติมที่ไม่สามารถนำแบตเตอร์รี่มารีไซเคิลได้ โดยคาดว่าใช้เวลา 2 ปีในการสร้างโรงงานจนกระทั่งขายเชิงพาณิชย์

- ความเห็น ฝ่ายวิจัยคาดว่าผลประกอบการQ2/60 จะอ่อนตัวลงเพราะไม่มีเงินปันผลรับจาก RPCL 120 ล้านบาท ขณะที่ผลประกอบการปกติมีแนวโน้มทรงตัวหลังโรงไฟฟ้า IRPC Clean เฟส 1 กลับมาเดินเครื่องได้เต็มกำลังการผลิต อีกทั้งราคาขายปรับตัวเพิ่มขึ้นตามค่า Ft ที่เพิ่มขึ้น 12.52 สตางค์เพื่อชดเชยต้นทุนก๊าซธรรมชาติที่เริ่มปรับตัวขึ้น

หุ้นมีข่าว

CK Analyst meeting (ราคาปิด 26.75 Bloomberg Consensus 35.57)

- คาดไตรมาส 3/60 พร้อมเข้าร่วมประมูลรถไฟรางคู่ประจวบฯ-หัวหิน(คาดประมูลปลาย ก.ค. นี้) และรถไฟฟ้าสายสีม่วงมูลค่า 1.3 แสนล้านบาทที่กำลังจะเสนอให้ ครม.อนุมัติการประมูล นอกจากนี้ทางบริษัทยังมีโอกาสเข้าร่วมประมูลในรูปแบบ PPP Fast track ในโครงการ EEC มูลค่ารวม 1.7 ล้านล้านบาทเมื่อรัฐบาลเปิดประมูล

- ความเห็น เราคาดว่ารายได้จะปรับตัวลงเพราะมีจำนวนวันทำงานน้อยและรับรู้รายได้จาก 2 โครงการหลักเขื่อนไซยะบุรีและรถไฟทางคู่จิระ-ขอนแก่น โดยคาดว่ารายได้จะเริ่มเพิ่มขึ้นใน 2H เพราะจะรับรู้รายได้จากานสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย (คาดว่าได้สัญญาจ้างจากBEM มิ.ย.นี้) ขณะที่กำไรใน 2Q60 มีแนวโน้มอ่อนตัวลงตามรายได้ที่ลดลง(ไม่ได้รวมกำไรจากการขายเงินลงทุน)

- SYNTEC (ราคาปิด 4.64 Bloomberg Consensus 5.20) ส่งซิกผลงานครึ่งปีแรกโตแรง หลังตุนงานในมือแล้วกว่า 1.5 หมื่นล้านบาท คาดรับรู้ปีนี้ 50% แถมยังได้รับงานใหม่ต่อเนื่องกว่า 6,000 ล้านบาทแล้ว ขณะที่ครึ่งปีหลังยังเข้าประมูลงานไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นล้านบาท จ่อบุ๊ก "เอท ทองหล่อ" เต็มปี รับทรัพย์ 350 ล้านบาท หนุนผลงานทั้งปีตามเป้า เล็งซื้อกิจการต่อเนื่อง (ที่มาทันหุ้น)

- SEAFCO (ราคาปิด 11.70 Bloomberg Consensus 13.62) ได้งานใหม่ 2 โครงการในเดือนพ.ค. มูลค่ารวม 200 ลบ.

- BR (ราคาปิด 6.35 Bloomberg Consensus 8.02) ทุ่มงบ 275 ลบ.เข้าซื้อรง.ชำแหละเป็ด-ผลิตอาหารแปรรูปในเนเธอร์แลนด์ คาดแล้วเสร็จก.ย.60 (SET news)

- PLAT (ราคาปิด 7 Bloomberg Consensus 7.72) คาดแนวโน้ม Q2 โตไม่หยุด มั่นใจปีนี้รายได้ทะลุ 2,000 ล้านบาท โบรกฯคาด Q2 เติบโตจากการปรับขึ้นค่าเช่าศูนย์การค้าแพลทินัม บุ๊ครายได้ส่วนเพิ่มจากตลาดนีออน (ที่มา ข่าวหุ้น)

- HARN ยังเชื่อรายได้ปีนี้โตแม้ H1/60 ทรงตัว วางเป้าเพิ่มเป็น 1.57 พันลบ.ในปี 62,เล็งขยายเข้าลาว

- OTO รับงานบริหารศูนย์ดูแลลูกค้าในกลุ่มอาคเนย์ 3 โครงการ มูลค่ารวม 66.40 ลบ.

- THL เพิ่มทุน 4.08 พันล้านหุ้น เสนอขาย ผถห.เดิม (RO) อัตราส่วน 5:1 ที่ราคา 0.35 บ./หุ้น XR 5 มิ.ย. วันจองซื้อ 3-7 ก.ค.



ตลาดหุ้นดาวโจนส์ +141.82 จุด

- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 141.82 จุด หรือ 0.69% ปิดที่ 20,804.84 จุด ดัชนี S&P 500 บวก 16.01 จุด หรือ 0.68% ปิดที่ 2,381.73 จุด ดัชนี Nasdaq เพิ่ม 28.57 จุด หรือ 0.47% ปิดที่ 6,083.70 จุดหลังจากที่ตลาดคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับการเมืองสหรัฐ โดยมีการมองกันว่า นักลงทุนวิตกมากเกินไปเรื่องประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

ตลาดน้ำมัน NYMEX +0.98 USD/Barrel

- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 98 เซนต์ หรือ 2.0% ปิดที่ 50.33 ดอลลาร์/บาร์เรลเนื่องจากเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง ส่งผลให้ราคาน้ำมันถูกลงและมีความดึงดูดมากขึ้นสำหรับผู้ที่ถือเงินสกุลอื่นๆ นอกจากนั้นยังได้รับแรงหนุนจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า กลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันจะจับมือกันขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตต่อไป

ส่องหุ้น

- LST แนวรับ 6.70-6.60 , 6.35 บาท แนวต้าน 7.40 , 7.60 บาท

- ระดับราคาดีดกลับขึ้นมาทำ New high ในรอบ 2 สัปดาห์ โดยผ่านขึ้นมาปิด GAP ที่ 6.80 บาทได้แล้วอีกทั้งยังปิดเหนือได้อีกด้วย ประกอบวอลุ่มซื้อเพิ่มสูงขึ้นมาก หากวันนี้ระดับราคาไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่าแถวๆ 6.70-6.60 บาทซะก่อน มีโอกาสที่ระดับราคาจะดีดกลับผ่านแนวต้าน ที่ 7.40 บาท ก่อนผ่านขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 7.60 บาทได้ต่อไป

- ABICO แนวรับ 10.70-10.60 บาท แนวต้าน 11.00-11.10 , 11.50-11.60 บาท

- ระดับราคาดีดกลับขึ้นมาทดสอบจุดสูงสุดเดิมในรอบ 2 สัปดาห์ และปิดได้ในระดับสูงของวัน ซึ่งเป็นระดับเดียวกับเส้นค่าเฉลี่ย 25 วันอีกด้วย ทำให้ MACD เริ่มดีดกลับขึ้นใกล้ทะลุระดับศูนย์ พร้อมด้วยวอลุ่มซื้อขายที่เริ่มจะสูงขึ้นเล็กน้อย หากวันนี้ระดับราคาไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่าแถวๆ 10.70-10.60 บาทซะก่อน มีโอกาสที่ระดับราคาจะดีดกลับขึ้นต่อได้ โดยมีแนวต้านถัดไปบริเวณเส้น BollingerTop ที่ 11.00-11.10 บาท

- GREEN แนวรับ 1.60 , 1.56 บาท แนวต้าน 1.68 , 1.71-1.73 บาท

- ระดับราคาดีดกลับขึ้นมาได้ต่อเนื่องแม้ว่าจะมีการพักตัวเล็กน้อยในช่วงกลางสัปดาห์ แต่ก็สามารถผ่านขึ้นมาปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 25 วันได้แล้ว ในขณะที่วอลุ่มซื้อขายเพิ่มสูงขึ้นอีกเล็กน้อย และ MACD ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นใกล้ทะลุระดับศูนย์ หากวันนี้ระดับราคาไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่าแถวๆ 1.60 บาทอีก หรือเต็มที่ไม่หลุด 1.56 บาท ระดับราคาจึงจะมีลุ้นดีดกลับขึ้นต่อได้แถวๆ 1.68 บาท และ 1.71-1.73 บาทได้ต่อไป