ลูกชายห้ามพ่อจะทำร้ายแม่ พ่อเสียหลักล้มใช้ไม้ตีซ้ำดับ

ลูกชายห้ามพ่อจะทำร้ายแม่ พ่อเสียหลักล้มใช้ไม้ตีซ้ำดับ

หนุ่มเห็นพ่อวัย 82 เมาถือมีดจะทำร้ายแม่ จึงเข้าห้าม พ่อเสียหลักล้มหัวฟาดท่อนไม้ ก่อนบันดาลโทสะใช้ไม้หน้าสามตีลำตัวซ้ำจนเสียชีวิต ยืนรอมอบตัวกับตำรวจ

ร.ต.อ.อภิญญา ภัณฑะประทีป พนักงานสอบสวน สภ.เมืองบุรีรัมย์ ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีเหตุลูกทำร้ายพ่อบาดเจ็บสาหัส ที่บ้านหนองมะค่า ม.12 ต.บัวทอง อ.เมืองบุรีรัมย์ และเสียชีวิตขณะนำส่งโรงพยาบาล จึงได้รายงานผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนจะเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อม พ.ต.อ.บัณฑิต อ่อนสาคร ผกก.สภ.เมืองบุรีรัมย์ และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบ ที่เกิดเหตุพบชาวบ้านยืนจับกลุ่มพูดคุยถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่บริเวณรั้วหน้าบ้านเลขที่ 33 หมู่ 12 บ้านหนองมะค่า เป็นบ้านชั้นเดียว เมื่อเข้าไปตรวจสอบร่องรอยคราบเลือดอยู่บนท่อนไม้หน้าบ้าน จากการสอบถามชาวบ้านทราบว่าคราบเลือดเป็นของนายยนต์ ผลสุข อายุ 82 ปี เจ้าของบ้านซึ่งล้มศีรษะฟาดท่อนไม้ จากนั้นนายกมล ผลสุข อายุ 35 ปี ลูกชายใช้ไม้หน้าสามตีตามลำตัวจนบาดเจ็บสาหัส ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลบุรีรัมย์ แต่ทนพิษบาดแผลไม่ได้เสียชีวิตระหว่างนำส่งโรงพยาบาล ส่วนนายกมล ผู้ก่อเหตุไม่ได้หลบหนียืนรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่อยู่บ้านที่เกิดเหตุ

จากการสอบถามนายกมล ลูกชาย รับสารภาพว่า ก่อนเกิดเหตุพ่อมีอาการมึนเมาสุราแล้วเกิดมีปากเสียงกับแม่เรื่องขอเงินไปดื่มสุรา ทั้งได้ต่อว่าแม่รุนแรงและถือมีดจากในครัวจะมาทำร้ายแม่ จึงพยายามห้ามเพราะเกรงพ่อจะทำร้ายแม่ จนเกิดการยื้อยุดฉุดกระชากจนพ่อเสียหลักล้มลงศีรษะฟาดกับท่อนไม้ที่พื้นจนเลือดอาบ ก่อนที่จะไปคว้าไม้หน้าสามมากระหน่ำตีที่ลำตัวของพ่อซ้ำอีกจนพ่อนอนแน่นิ่งไป แต่ไม่ได้มีเจตนาจะทำร้ายพ่อจนบาดเจ็บสาหัสและถึงขั้นเสียชีวิต เพียงต้องการจะเข้าห้ามปรามไม่ให้พ่อทำร้ายแม่เท่านั้น

ขณะที่นางทองสิน สืบสาย อายุ 58 ปี เพื่อนบ้าน เล่าว่า นายยนต์ มักดื่มสุราและทะเลาะมีปากเสียงกับภรรยาเป็นประจำ จนกลายเป็นเรื่องปกติ ก่อนเกิดเหตุก็ได้ยินเสียงทั้งสองทะเลาะกันเหมือนทุกครั้ง แต่ไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์รุนแรง และลูกชายจะทำร้ายพ่อเพื่อปกป้องแม่ จนทำให้พ่อบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิต ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวนายกมล ผลสุข ที่ก่อเหตุทำร้ายพ่อเสียชีวิตไปสอบสวน และดำเนินคดี โดยเบื้องต้นได้แจ้งข้อหา “ทำร้ายร่างกายเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และกระทำความรุนแรงในครอบครัว”