ททท.เจาะมิลเลนเนียลส์เอเชียชูตามรอย‘ก็อตเซเว่น’

ททท.เจาะมิลเลนเนียลส์เอเชียชูตามรอย‘ก็อตเซเว่น’

กลุ่มมิลเลนเนียลส์ เป็นตลาดศักยภาพสำหรับอุตสาหกรรมทุกแขนงที่มุ่งขยายฐานช่วงชิง “อำนาจการจับจ่าย” ของลูกค้ากลุ่มนี้ที่กำลังเติบโตทั้งในไทยและภูมิภาคเอเชีย 

ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า แผนกระตุ้นฐานตลาดมิลเลนเนียลส์ หรือ กลุ่มเจเนอเรชั่นวาย ทั้งในไทยและต่างประเทศให้เดินทางท่องเที่ยวมากขึ้น วางแนวทางใช้กิจกรรม “บันเทิง” เป็นแม่เหล็กส่งเสริม เริ่มด้วยการเปิดตัวโครงการสำหรับตลาดในประเทศ “เมืองไทยใต้จมูก” ภายใต้กลยุทธ์มิวสิค มาร์เก็ตติ้ง โดยร่วมกับ “แกรมมี่” นำศิลปิน 12 คนที่มีชื่อเสียง เดินทางใน 12 เมืองต้องห้ามพลาด...พลัส ด้วยการใช้เสียงเพลงถ่ายทอดความประทับใจและสะท้อนเอกลักษณ์ของพื้นที่ ผลิตเป็น “รายการวาไร้ตี้” เผยแพร่ทางช่องวัน 31 เริ่มตั้งแต่วันพุธที่ 17 พ.ค.เป็นต้นไป

พร้อมกันนี้ จะใช้ “มิวสิค มาร์เก็ตติ้ง”  เจาะตลาดต่างประเทศมากขึ้น ด้วยการเข้าสนับสนุนการจัดกิจกรรมบันเทิงที่มีศักยภาพในการดึงดูด “ฐานแฟนคลับ” ขนาดใหญ่ “ตามรอย” มาไทย โดยเฉพาะอีเวนท์ที่จะสร้างโอกาสกระจายรายได้ไปสู่ต่างจังหวัด ซึ่งเป็นแนวทางหลักที่ ททท.ให้ความสำคัญในขณะนี้ 

กรณีกิจกรรมบันเทิงจากเกาหลีเป็นกระแสที่ได้รับความนิยมและน่าสนใจ แต่การเข้าสนับสนุนทุกรายการ ย้ำว่าจะต้องมีมิติที่เป็นประโยชน์ด้านการสร้างรายได้ท่องเที่ยว ไม่ใช่แต่การส่งเสริมวัฒนธรรมต่างชาติเท่านั้น

สุปราณี ป้องปัด ผู้อำนวยการฝ่ายโฆษณาและประชาสัมพันธ์ ททท.กล่าวว่า ร่วมสนับสนุนกิจกรรมทัวร์ของ “ก็อตเซเว่น” ในไทย เพราะเห็นว่าครั้งนี้มีการจัดกิจกรรมกระจายทั้ง 4 ภาค คาดว่าจะดึงดูดให้เกิดการเดินทางเชื่อมโยงของนักท่องเที่ยวต่างภูมิภาคได้ สอดคล้องกับโครงการท้าเที่ยวข้ามภาคของ ททท.ในขณะนี้ 

จากการประสานงานกับผู้จัดคอนเสิร์ต พบว่ามีโอกาสในการทำแพ็คเกจทัวร์นำเสนอก่อนและหลังกิจกรรมของศิลปินด้วย เพื่อให้แฟนคลับใช้จ่ายและมีเวลาเดินทางท่องเที่ยวภายในพื้นที่ด้วย”

สำหรับราคาบัตรในกิจกรรมของก็อตเซเว่นครั้งนี้ มีตั้งแต่ 1,800 บาท ถึง 5,800 บาท ขณะที่กิจกรรมทั้ง 4 ภาค ได้แก่ นครราชสีมา เชียงใหม่ กรุงเทพฯ และภูเก็ต ซึ่งมีการจำหน่ายบัตรเข้าร่วมกิจกรรมกว่า 50,000 ที่นั่ง เบื้องต้นคาดแบ่งโควตาราว 20% เป็นการจำหน่ายให้ผู้ชมต่างประเทศ อย่างไรก็ดีขณะนี้ยังไม่เปิดจำหน่ายบัตรที่ ภูเก็ต แต่ 3 รอบแรกใน 3 พื้นที่แรก จำหน่ายเกือบเต็มความจุแล้ว

ในการจำหน่ายบัตรให้ผู้ชมต่างชาติ สำหรับการจัดกิจกรรมแฟนปาร์ตี้ ที่กรุงเทพฯ 2 รอบการแสดง ที่อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี  ปีที่ผ่านมา มีผู้ชมชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาราว 18% โดยชาวเวียดนาม สิงคโปร์ ฮ่องกง  มาเลเซีย และจีน เดินทางเข้ามามากที่สุด ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยสำหรับแฟนคลับอยู่ที่  35,000 บาท/คน/ทริป ที่ผ่านมาฐานแฟนคลับของก็อตเซเว่นจากต่างชาติ ที่ตามรอยกิจกรรมศิลปินมายังไทยมีราว 2,175 คน ดังนั้น เม็ดเงินสะพัดโดยตรงจากการจัดงานที่ผ่านมา ไม่ต่ำกว่า 70 ล้านบาท

ศรีสุดา วนภิญโญศักดิ์ รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า แผนส่งเสริมตลาดมิลเลนเนียลส์ส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มตลาดตะวันตก เช่น ยุโรป หรือ สหรัฐ  สำหรับเอเชียยังอยู่ในช่วงการขยายฐาน โดยจะกระตุ้นการรับรู้ก่อนมีการจัดคอนเสิร์ตระดับนานาชาติในไทยแต่ละรายการ

เริ่มเห็นศักยภาพการจับจ่าย เพราะกลุ่มที่ตามรอยศิลปินมักมีฐานะทางการเงินดี  นอกจากจะมีค่าใช้จ่ายในการเดินทางและที่พักแล้ว ต้องมีกำลังในการซื้อบัตรมาชมคอนเสิร์ตด้วย”

 โดยเฉพาะตลาดซีแอลเอ็มวี (กัมพูชา ลาว เมียนม่า เวียดนาม) ที่เริ่มเห็นวัยรุ่นจากครอบครัวที่มีฐานะดี นิยมมาชมคอนเสิร์ตศิลปินเกาหลีในไทยมากขึ้น เป็นกลุ่มเดินทางซ้ำ (Repeater) และพร้อมเข้ามาสม่ำเสมอ หากมีการจัดกิจกรรมหรือคอนเสิร์ตที่ตัวเองชื่นชอบ

ทั้งนี้ ททท. มีแผนการสร้างการรับรู้นักท่องเที่ยวทั่วไปในตลาดจีนต่อเนื่อง โดยร่วมมือกับ บริษัท เทนเซนต์ ซึ่งดูแล “วีแชท โปรแกรม” สังคมออนไลน์ที่ได้รับความนิยมสูงสุด จัดทำโครงการ โครงการพีเพิลส์ ชอยส์ อวอร์ดส ไทยแลนด์ โหวต บาย ไชนีส ทัวริสต์ 2017 เป็นปีที่ 3  

ปีนี้ตั้งเป้ามีนักท่องเที่ยวจีน ร่วมลงคะแนนบริการท่องเที่ยวใน 14 ประเภทที่อยู่ในไทยที่ตัวเองชื่นชอบกว่า 3.5 ล้านคน และสร้างการรับรู้โครงการถึงนักท่องเที่ยวทั่วประเทศมากกว่า 35 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปีทีที่แล้ว มีผู้ร่วมลงคะแนน 3.2 ล้านคน

ได้จดลิขสิทธิ์การทำโครงการนี้แล้ว เพราะเห็นศักยภาพด้านการประชาสัมพันธ์รับรู้สินค้าด้านท่องเที่ยวเข้าถึงฐานตลาดกว้าง ซึ่งผู้ที่ลงคะแนน จะต้องอ่านข้อมูลของธุรกิจบริการในสาขาต่างๆ ที่ร่วมนำเสนอ ก่อนตัดสินใจให้คะแนน"

โดยเตรียมเปิดตัวกิจกรรมที่เซี่ยงไฮ้วันที่ 26 พ.ค.นี้ พร้อมให้เริ่มลงคะแนนในวันแรกต่อเนื่อง 2 สัปดาห์ ก่อนประกาศผลและมอบรางวัล วันที่ 12 มิ.ย.ที่ประเทศไทย