นายกฯ ห่วงประชาชนเดือนร้อนจาก ฝนตกหนักน้ำท่วม

นายกฯ ห่วงประชาชนเดือนร้อนจาก ฝนตกหนักน้ำท่วม

"นายกรัฐมนตรี" ห่วงประชาชนเดือนร้อนจาก ฝนตกหนักน้ำท่วม สั่งกองทัพ ระดมกำลังช่วยดูแลเต็มที่ ขณะที่ ผบ.ทบ.ให้ทุกหน่วย เข้าคลี่คลายสถานการณ์ทุกพื้นที่

พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษก คสช. เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ ฝนตกหนักต่อเนื่องใน2-3วัน ทำให้เกิดน้ำท่วมในหลายพื้นที่ หลายจังหวัด รวมถึงบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายจากลมกรรโชกแรง

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ มีความกังวลและห่วงใยต่อสภาวะฝนตกหนักที่อาจสร้างความเดือดร้อนให้พี่น้องประชาชน ได้มีบัญชาให้ ทุกหน่วยงานร่วมกันดูแลช่วยเหลือประชาชนอย่างดีที่สุดโดยทันที เน้นการป้องกันมิให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สิน โดยเฉพาะได้สั่งการให้กองทัพส่งหน่วยทหารเข้าดูแลช่วยเหลือประชาชนในทุกด้าน พร้อมให้ระดมเครื่องมือหนักเข้าสนับสนุนการทำงานของส่วนราชการต่างๆ เพื่อคลี่คลายสถานการณ์น้ำท่วมในทันที

พ.อ.หญิงศิริจันทร์ กล่าวว่า จากความห่วงใยของนายกรัฐมนตรีดังกล่าว พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก ได้สั่งการให้หน่วยทหารในทุกพื้นที่ส่งกำลังพลพร้อมเครื่องมือบรรเทาสาธารณะภัย รถยนต์บรรทุก เรือท้องแบนและเครื่องมือหนักทางด้านงานช่าง เข้าคลี่คลายสถานการณ์น้ำท่วมในทุกพื้นที่แล้ว 

พ.อ.หญิงศิริจันทร์ กล่าวว่า โดยตลอด 2-3 วันนี้หน่วยทหารของกองทัพบก โดยชุดบรรเทาสาธารณภัย ได้ทำงานร่วมกับทางจังหวัด คลี่คลายสถานการณ์ในทุกเรื่องอย่างเต็มที่ ทั้งการอพยพคนและสิ่งของไปที่ปลอดภัย ดูแลการใช้ชีวิตประจำวัน เครื่องอุปโภคบริโภค การใช้เครื่องมือหนักเข้าซ่อมแซมสะพานหรือเส้นทางต่างๆที่เสียหายจากการถูกน้ำกัดเซาะเพื่อให้ประชาชนใช้สัญจรในเบื้องต้น. การเร่งระบายและผลักดันน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วมโดยเฉพาะในย่านการค้า บ้านเรือนประชาชน แหล่งชุมชน และสถานที่สำคัญของจังหวัด 

พ.อ.หญิงศิริจันทร์ กล่าวว่า ในขณะเดียวกันได้ใช้รถแบคโคเข้าเคลื่อนย้ายสิ่งกีดขวางทางน้ำต่างๆอาทิ เศษขยะกิ่งไม้ที่ลอยมากับกระแสน้ำและไปปิดหรือรวมตัวอยู่บริเวณฝายประตูน้ำเป็นอุปสรรคต่อการระบายน้ำ ส่วนในพื้นที่ กทม. ได้ประสานการปฏิบัติกับกรุงเทพมหานครอย่างใกล้ชิด ในเรื่องประสิทธิภาพการระบายน้ำ  มีการส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบการทำงานของเครื่องสูบน้ำตามสถานีสูบน้ำ และหากพื้นที่ใดมีน้ำท่วมขังรอการระบาย นอกจากจะเข้าช่วยเหลืออพยพคนสิ่งของแล้ว ยังได้เข้าช่วยอำนวยความสะดวกด้านการสัญจรเพื่อลดอุบัติเหตุต่างๆที่อาจจะเกิดขึ้นด้วย

พ.อ.หญิงศิริจันทร์ กล่าวว่า สำหรับพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากฝนตกต่อเนื่อง น้ำท่วม ยังมีอยู่ในหลายจังหวัด คือ กำแพงเพชร, เพชรบูรณ์, สุโขทัย,อุตรดิตถ์, พิษณุโลก, เลย, ตาก ,อุดรธานี ซึ่งกองทัพภาคที่1,2,3 จะให้การดูแลและช่วยเหลือให้พี่น้องประชาชนได้รับความสะดวกและผ่านพ้นสถานการณ์อุทกภัยในครั้งนี้ไปโดยเร็วที่สุด พ.อ.หญิงศิริจันทร์ กล่าวว่า ส่วนการช่วยเหลือในพื้นที่ต่างๆในวันนี้ ที่สำคัญมีดังนี้

 จ.กำแพงเพชร อ.พรานกระต่าย มณฑลทหารบกที่ 28 และกรมทหารราบที่ 4 ร่วมจัดกิจกรรมบิ๊กคลีนนิ่ง โรงพยาบาล พร้อมนำถุงยังชีพไปมอบให้กับประชาชน  ซึ่งขณะนี้น้ำจาก อ.พรานกระต่ายได้ไหลเข้าไปท่วมพื้นที่ต.หนองจิก อ.คีรีมาศ ทำให้รถเล็กไม่สามารถผ่านเส้นทางหมู่3 บ้านหนองบัวเขาดิน ถึง หมู่9 บ้านดงอิขาว เจ้าหน้าที่ได้เข้าดูแลเส้นทางดังกล่าวแล้วพ.อ.หญิงศิริจันทร์ กล่าวว่า จ.เชียงใหม่ สถานการณ์น้ำท่วมใน ตัวเมืองกลับเข้าสู่ภาวะปกติ เหลือแต่เพียงถนนที่ใช้สัญจรในชุมชนที่มีน้ำท่วมขัง มณฑลทหารบกทหารที่ 33 ยังคงช่วยเหลือประชาชนต่อเนื่อง พร้อมจัดหน่วยแพทย์ออกเดินตรวจรักษาโรค และยังได้เตรียมกระสอบทราย 130,000 ถุง เพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน  โดยตลอดวันนี้ มทบ.33 ร่วมกับ ทางจังหวัดและเทศบาล ได้ทำความสะอาดถนน ในตัวเมืองและสถานที่สาธารณะให้กลับคืนสภาพเดิมแล้ว

พ.อ.หญิงศิริจันทร์ กล่าวว่า จ.เลย มณฑลทหารบกที่ 28 เข้าช่วยวางกระสอบทรายกั้นน้ำเนื่องจากมีฝนตกหนักต่อเนื่องและไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนใน ต.นาอ้อ อ.เมือง ,ต.นาหอ อ.ด่านซ้าย และ ต.วังสะพุง อ.วังสะพุงส่วน จ. เพชรบูรณ์ ในอำเภอหล่มเก่า กองพันทหารช่างที่ 8 ได้นำเครื่องมือช่างและเรือเข้าช่วย เร่งระบายน้ำพร้อมกำจัดเศษขยะกิ่งไม้ที่อุดตันตามฝ่ายต่างๆที่ทำให้น้ำเอ่อล้นเข้าที่ทำกินและบ้านเรือนของประชาชน 

พ.อ.หญิงศิริจันทร์ กล่าวว่า ขณะที่ จ. สุโขทัย ในอำเภอสวรรคโลก เกิดน้ำท่วมฉับพลันที่โบราณสถาณวัดโบสถ์ และโรงเรียนวัดโบสถ์ ต.เมืองบางขว้า  เจ้าหน้าที่ ใช้เรือท้องแบน เข้าขนย้ายคนและสิ่งของ ไปยังพื้นที่ปลอดภัยเนื่องจากระดับน้ำสูงถึง 120 เซนติเมตรและ จ. จันทบุรี ในอำเภอแหลมสิงห์ น้ำจากน้ำตกพลิ้วไหลเข้าท่วมบ้านเรือนและสวนผลไม้ในเขตเทศบาลตำบลพลิ้ว เจ้าหน้าที่ได้เข้าให้การช่วยเหลือแล้ว