เคลียร์บนโรงพัก! ปม 'ลุงกูเป็นอัยการ' กรณี2สาวรถเฉี่ยวชนกัน

เคลียร์บนโรงพัก! ปม 'ลุงกูเป็นอัยการ' กรณี2สาวรถเฉี่ยวชนกัน

ไม่จบ! เคลียร์บนโรงพัก ปม "ลุงกูเป็นอัยการ" กรณี2สาวรถเฉี่ยวชนกัน ผู้การนครบาล4 ช่วยไกล่เกลี่ย ขณะที่เจ้าทุกข์ไม่ยอมความ แจ้ง3ข้อหา ดูหมิ่นซึ่งหน้า ทำให้ผู้อื่นตกใจโดยการขู่เข็ญ และขับรถโดยประมาท

จากกรณีเพจเฟซบุ๊กแหม่มโพธิ์ดำโพสต์คลิป พร้อมระบุว่า เหตุเกิดเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม เวลา 10.10 น. หน้าเซ็นทรัลฯ เลียบทางด่วน กรณีของ รถเก๋งยี่ห้อฮอนด้ารุ่นซิตี้ สีเทา ที่น.ส.ธันยกานต์ สาเจริญ เป็นคนขับชนท้ายรถเก๋งมาสด้า สีแดง ของน.ส.น้ำทิพย์ ทองดี ขณะรอประกันคู่กรณีบอกรีบมาก ไม่สามารถอยู่รอประกันได้ จึงขึ้นรถไป ทำให้น.ส.น้ำทิพย์เดินไปขวางหน้ารถ เพื่อที่จะไม่ให้ขับรถไป แต่น.ส.ธันยกานต์ก็ออกรถอย่างแรงเกือบจะเฉี่ยวนั้น 

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 18 พฤษภาคม 2560 พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ผบก.น.4 พร้อมด้วย พ.ต.อ.ธวัช วงศ์สสง่า รองผบก.น.4, พ.ต.อ.สุพล ค้ำชู ผกก.สน.โชคชัย พ.ต.ท.อลงกรณ์ ศิริสงคราม รองผกก.(สอบสวน) สน.โชคชัย ร่วมกันแถลงข่าวกรณี น.ส.น้ำทิพย์ ทองดี อายุ 33 ปี ผู้กล่าวหา ซึ่งขับรถยนต์ เก๋งมาสด้า สีแดง หมายเลขทะเบียน 6กข 7454 กทม. และ น.ส.ธันยกานต์ สาเจริญ อายุ 26 ปี ขับรถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้ารุ่นซิตี้ สีเทาหมายเลขทะเบียน 5กฮ 3906 กทม. เป็นผู้ขับรถชนท้าย และไม่ยอมหยุดจอดในที่เกิดเหตุ

พล.ต.ต.นันทชาติ กล่าวว่า กรณีดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคมที่ผ่านมา บริเวณหน้าเซ็นทรัลเลียบทางด่วน โดยรถยนต์ของน.ส.ธันยกานต์ ได้ขับมาชนท้ายของรถยนต์ของน.ส.น้ำทิพย์ จนได้รับความเสียหาย

ภายหลังเกิดเหตุ น.ส.น้ำทิพย์ จึงได้เรียกประกันให้เดินทางมาตรวจสอบ แต่ทางด้าน น.ส.ธันยกานต์ กลับไม่หยุดรถรอ จนกระทั่งเกิดปากเสียงกันขึ้น ซึ่งในเบื้องต้นได้มีการพูดคุยไกล่เกลี่ยกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

โดยทางน.ส.ธันยกานต์ ได้ขอโทษและยอมรับผิด ต่อกรณีดังกล่าวที่เกิดขึ้น ขณะที่น.ส.น้ำทิ้พย์ ไม่ยอมความจึงได้แจ้งข้อหาแก่น.ส.ธันยกานต์ จำนวน 3 ข้อหาคือ ดูหมิ่นซึ่งหน้า ทำให้ผู้อื่นตกใจโดยการขู่เข็ญ และขับรถโดยประมาท ซึ่งทางพนักงงานสอบสวนจะทำการส่งฟ้องศาลต่อไป

อย่างไรก็ตาม อยากฝากไปถึงประชาชนที่ใช้รถบนท้องถนนว่า อุบัติเหตุรถชนเป็นเรื่องปกติ เมื่อมันเกิดขึ้นแล้วต้องใจเย็นๆ ทำใจให้สงบ คุยกับด้วยเหตุผล และอย่าใช้อารมณ์ สำหรับกรณีดังกล่าวเป็นเพียงแค่รถชน และไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต

ด้านน.ส.น้ำทิพย์ กล่าวว่า ในวันเกิดเหตุนั้น ตนขับรถมาและมีรถจักรยานยนต์ขับตัดหน้าตนจึงเบรครถ และรถของ น.ส.ธันยกานต์ จึงได้มาชนท้าย จากนั้นตนจึงได้โทรศัพท์เรียกประกัน แต่น.ส.ธันยกานต์ บอกว่ารีบจึงได้ให้บัตรประชาชนและเบอร์ศัพท์เอาไว้ เมื่อประกันมาถึงตนจึงได้โทรศัพท์กลับไป โดยน.ส.ธันยกานต์ บอกให้ไปเจอที่คอนโด ตนจึงไปพร้อมกับเจ้าหน้าที่ประกัน เมื่อไปถึงคอนโด น.ส.ธันยกานต์ เกิดความไม่พอใจ จึงได้มีการด่าทอโดยอ้างว่าตนเองเป็นลูกอัยการ พร้อมทั้งเตะรถของตน แต่ไม่ได้รับความเสียหาย และตนก็ไม่ได้ติดใจเอาความที่เตะหน้ารถ

น.ส.ธันยกานต์ เปิดเผยว่า ตนขอโทษและยอมรับผิดต่อสิ่งที่ทำลงไป เพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ขณะเกิดเหตุตนรีบต้องไปทำธุระกับมารดา ซึ่งต้องพามารดาไปจังหวัดสุพรรณบุรี จึงได้ลงจากรถและกล่าวขอโทษแล้ว พร้อมให้ถ่ายบัตรประชาชนและเบอร์โทรศัพท์ ตนจึงขับรถมาที่คอนโดเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า สำหรับต้นเหตุที่ทะเลาะนั้น ตนไม่อยากพูดถึง ทั้งนี้ขอยืนยันว่าตนไม่ได้มีการกล่าวอ้างถึงอัยการ อาจจะเป็นการเข้าใจผิด หรือฟังผิดพลาดของคู่กรณี ตนพูดกับเพื่อนว่า หากไม่ยอมความเรื่องจะไปถึงอัยการ

ผู้สื่อข่าวจึงได้สอบถามไปยัง น.ส.น้ำทิพย์ ว่า วันนั้นได้ยินอย่างไร น.ส.น้ำทิพย์ กล่าวว่า "อีด_กมึงรู้จักกูน้อยไป รู้ไหมกูเป็นใคร ลุงกูเป็นอัยการ"