15 ประเทศประชุม ดันพระธาตุพนมสู่มรดกโลกทางศาสนา

จากที่มีคณะรัฐมนตรี มีมติเห็นชอบ เมื่อ24มกราคม2560ให้เสนอบรรจุพระธาตุพนมไว้ในบัญชีรายชื่อเบื้องต้น เพื่อพิจารณาเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม ซึ่งจะต้องจัดทำเอกสาร เพื่อเสนอขึ้นทะเบียนบัญชีรายชื่อเบื้องต้นไปยังศูนย์มรดกโลก กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ให้คณะกรรมการมรดกโลกในการประชุมสมัยสามัญครั้งที่41เดือนกรกฎาคม2560 ที่เมืองคราเคาสาธารณรัฐโปแลนด์พิจารณา

จังหวัดนครพนมจึงจัดประชุมเชิงปฏิบัติการนานาชาติ ว่าด้วยการจัดการมรดกโลกทางศาสนาในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก เรื่องมรดกทางวัฒนธรรมด้านศาสนา ในวันที่17-19พ.ค. 60 โดยมีผู้เชี่ยวชาญด้านบริหารจัดการมรดกโลกที่เกี่ยวกับศาสนาจาก15ประเทศ ร่วมระดมความคิดเห็น แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ศึกษาดูสถานที่สำคัญของวัดพระธาตุพนมฯ จากนั้นเป็นการนำเสนอกรณีศึกษาเทียบพระธาตุพนมกับคุณค่าสากลของมรดกทางศาสนา รวมถึงแนวทางการอนุรักษ์ การบริหารจัดการตามแนวทางสากลของคณะกรรมการมรดกโลกในแต่ละประเทศ เพื่อนำข้อมูลและข้อเสนอแนะจากผู้เชี่ยวชาญแต่ละประเทศมาประกอบการจัดทำเอกสารข้อมูล เกี่ยวกับพระธาตุพนมให้ครบถ้วนสมบูรณ์รอบด้าน ก่อนที่จะนำเสนอต่อยูเนสโก อีกทั้งเพื่อพัฒนาศักยภาพของเจ้าหน้าที่ภาครัฐและภาคการศึกษาในจังหวัดนครพนมที่จะต้องดูแลรักษาพระธาตุพนมให้เป็นไปตามหลักการของยูเนสโกด้วย

ผู้แทนจากองค์การการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติหรือยูเนสโก ผู้แทนสถานเอกอัครราชทูตจากกลุ่มประเทศเอเชียแปซิฟิก ผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรม คุณใหม่ สิริกิติยา เจนเซ่น กลุ่มงานวิชาการการอนุรักษ์ สำนักสถาปัตยกรรม กรมศิลปากร รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ผู้แทนจังหวัดนครพนมร่วมรับฟังและแสดงความคิดเห็น

สำหรับพระธาตุพนมนั้นตั้งอยู่ในบริเวณวัดพระธาตุพนม จังหวัดนครพนม ห่างจากแม่น้ำโขงประมาณ600เมตร ไปทางทิศตะวันตก ซึ่งคนในท้องถิ่นเชื่อว่าพระธาตุพนมสร้างโดยพระมหากัสสปะ เพื่อเป็นที่ประดิษฐานพระอุรังคธาตุ (กระดูกส่วนหน้าอก) ของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าภายหลังจากปรินิพพานแล้ว8ปี เป็นศูนย์กลางและศูนย์รวมจิตใจของประชาชนทั้ง2ฟากฝั่งแม่น้ำโขง ไทย ลาว ญวน กัมพูชามาตลอดนับพันปี มีความเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทยและในลุ่มแม่น้ำโขงตอนกลาง เป็นศาสนสถานที่มีคุณค่าโดดเด่นเป็นสากล มีคุณสมบัติในการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกของยูเนสโก ในหลัก3เกณฑ์ คือเป็นตัวแทนที่แสดงถึงผลงานชิ้นเอกที่ทำขึ้นด้วยอัจฉริยภาพในการสร้างสรรค์ของมนุษย์ เป็นสิ่งที่มีอิทธิพลยิ่งในการผลักดันให้เกิดการพัฒนาสืบต่อในด้านการออกแบบสถาปัตยกรรมอนุสรณ์สถาน ประติมากรรม ตลอดจนการพัฒนาศิลปกรรมที่เกี่ยวข้องหรือการพัฒนาการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์ และมีความคิดหรือความเชื่อที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับเหตุการณ์หรือบุคคลที่มีความสำคัญหรือความโดดเด่นในประวัติศาสตร์