หนุ่มล้างปืน กระบอกละ100บาท แต่ช่วยชีวิตตร.ได้

หนุ่มล้างปืน กระบอกละ100บาท แต่ช่วยชีวิตตร.ได้

อดีตหนุ่มรับจ้าง ผันตัวเองเป็นช่างล้างปืน ตามโรงพักกระบอกละ 100 บาท เผยสามารถช่วยชีวิตตำรวจ ขณะออกปฎิบัติหน้าที่ได้มากกว่า

เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 18 พค ผู้สื่อข่าวได้พบกับ นายสมชาย ผลลำไย อายุ 45 ปี ชาว อำเภอป่าโมกข์ จ.อ่างทอง ช่างล้างปืนให้กับตำรวจข้าง สภ.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ตนมี อาชีพรับล้างอาวุธปืนพก ขนาดต่างๆ มานานกว่า 10 ปี แล้ว โดยจะรับล้างอาวุธปืนทั้งแบบรีวอลเวอร์ แบบลูกโม่ และ แบบกึ่งอัตโนมัติ โดยจะตระเวนไปตามโรงพักต่างๆ เพื่อหารายได้เลี้ยงครอบครัว 

นายสมชาย บอกว่าเมื่อก่อน ตนมีอาชีพรับจ้างทั่วไป แต่ด้วยความชอบเรื่องของอาวุธปืนเป็นชีวิตจิตใจ จนได้ไปเป็นลูกมือเจ้าหน้าที่ซึ่งทำหน้าที่ล้างอาวุธปืนตามสนามยิงปืน ต่างๆ หลายแห่ง ด้วยความที่เป็นคนชอบเรียนรู้เกี่ยวกับชิ้นส่วนของอาวุธปืน บวกกับโอกาสได้ใกล้ชัดกับการถอดชิ้นส่วนต่างๆและประกอบตัวปืนเป็นประจำ จึงใช้วิธีครูพักลักจำ และศึกษาตามหนังสือ นิตยสารอาวุธปืน จนเกิดความชำนาญ สามารถที่จะถอดประกอบอาวุธปืนพกหลักๆได้ จึงได้หันมาประกอบอาชีพ รับล้างอาวุธปืนด้วยตนเอง ซึ่งอาชีพนี้มีต้นทุน เป็นน้ำมันดีเซล แส้ล้างปืน ขนาดต่างๆ เท่านั้น ที่สำคัญต้องประกอบอย่างพิถีพิถัน ในแต่ละวัน จะขับขี่รถจักรยานยนต์ตระเวนไปตามโรงพักต่างๆ เพื่อเปิดบริการล้างอาวุธปืนให้กับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั่วไป โดยคิดราคา ค่าบริการเพียง กระบอกละ 100 บาท ทุขนาด ทุกชนิด ซึ่งก็ได้รับการตอบรับจาก เจ้าหน้าที่ตำรวจแต่ละโรงพักได้เป็นอย่างดี 

นายสมชายยังกล่าวต่อด้วยว่า อาวุธปืนเป็นอาวุธประจำกายที่สำคัญของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เปรียบเสมือนเพื่อนคู่กาย เวลาออกไปปฎิบัติหน้าที่ ต้องมั่นใจว่าอาวุธปืนที่พกอยู่นั้นสามารถทำงานได้อย่างดี มีประสิทธิภาพ ก็จะสามารถรักษาชีวิตให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ โดยเฉพาะตนเคยมีพี่ๆ ที่เป็นตำรวจชุดสืบสวนออกไปปฎิบัติหน้าที่ ต้องยิงต่อสู้กับคนร้ายมาเล่าให้ฟังว่า เวลาไปทำงาน สิ่งที่ฝากชีวิตเอาไว้คือปืนนี่แหละ และหากกระบอกไหน ไม่สามารถที่จะถอดประกอบเพื่อทำความสะอาดได้ ก็อย่าไปอวดเก่ง ตำรวจบางนายบอกว่าทำได้ ให้บอกไปตรงๆว่า ทำไม่ได้ ไม่ต้องกลัวอาย เพราะถ้ามีการถอดประกอบชิ้นส่วนสำคัญผิด จะทำให้ระบบปฏิบัติการของอาวุธปืนขัดข้องใช้การไม่ได้ ซึ่งเป็นเหตุการณ์นำไปสู่ความสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ได้ นายสมชายกล่าวด้วยความเป็นห่วง