พิษรักแรงหึง!! หนุ่มกระหน่ำยิงแฟนสาวดับคาโต๊ะทำงาน

พิษรักแรงหึง!! หนุ่มกระหน่ำยิงแฟนสาวดับคาโต๊ะทำงาน

พิษรักแรงหึง!! แฟนหนุ่มกระหน่ำยิงพนักงานบัญชีบริษัทประกันดับคาโต๊ะทำงาน หลังฝ่ายหญิงขอเลิกรา

ศูนย์วิทยุกู้ภัยสมาคมสว่างกตัญญูธรรมสถานจันทบุรี ได้รับแจ้งว่ามีเหตุยิงกันภายในบริษัทประกันภัยแห่งหนึ่ง บริเวณหน้าวัดใหม่เมืองจันทบุรี ที่อยู่ตรงข้ามร้านข้าวแกงเจ๊น้อง ถนนสายทาแฉลบ ตำบลวัดใหม่ และมีผู้เสียชีวิตทันที 1 ราย

เบื้องต้นพ.ต.ต.จรัล จิตเจือจุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่กู้ภัยสมาคมสว่างกตัญญูธรรมสถาน เดินทางตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ พบว่าเป็นหญิงหนึ่งราย สวมเสื้อสีดำ กางเกงขายาวสีดำ ตามร่างกายมีบาดแผลจากคมกระสุนปืนหลายแห่ง บริเวณศีรษะ แก้ม ขมับ และลำตัว รวม 8 รู นอนเสียชีวิตอยู่ภายในบริษัทประกันภัยแห่งหนึ่งกลางเมืองจันทบุรี

ในที่เกิดเหตุยังพบปลอกกระสุน ขนาด 9 มิลิเมตร ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ จำนวน 9 ปลอก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน

ทั้งนี้ ได้ทำการสอบสวนเบื้องต้นกับพนักงานบริษัท ทราบว่า ผู้เสียชีวิตคือ นางสาวปภัสรา มิตรภัคดี อายุ 26 ปี เป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบัญชีของบริษัทดังกล่าว ทราบข้อมูลว่าการก่อเหตุครั้งนี้น่าจะเป็นเรื่องชู้สาว เนื่องจากผู้ก่อเหตุเป็นอดีตแฟนเก่า ชื่อว่านายบดินทร์ พ่วงพี หรือ โบ๊ท อายุ 28 ปี ได้คบหากับผู้เสียชีวิตอยู่หลายปี และช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมาฝ่ายหญิงได้ขอเลิกราจึงทำให้มีปัญหาทะเลาะวิวาทและฝ่ายชายเกิดความหึงหวง พร้อมกับได้ข่มขู่ฝ่ายหญิงที่ขอแยกทาง ฝ่ายหญิงคงรู้ว่าฝ่ายชายเป็นคนมีอารมณ์ร้อน ได้มาลงบันทึกประจำวันไว้ที่สภ.เมืองจันทบุรี เพื่อหวังให้ฝ่ายชายเกรงกลัว แต่แฟนหนุ่มเกิดอารมณ์ชั่ววูบ เพราะพิษรักแรงหวง จึงบุกเข้ามาหานางสาวปภัสรา เดินผ่าน รปภ.ของบริษัท ตรงเข้าไปกระหน่ำยิงผู้เสียชีวิตถึงในที่ทำงาน แบบไม่ยั้งมือ ก่อนจะเดินกลับออกไปขึ้นรถยนต์ออกไป

ด้าน พล.ต.ต.จรัล จิตเจือจุน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี บอกว่า ทางตำรวจได้ข้อมูลของผู้ก่อเหตุและรถที่ก่อเหตุแล้ว ซึ่งเป็นรถวีออส สีบรอนเงิน ทะเบียน กค5277 ตราด โดยได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกพื้นที่ ตรวจสอบรถที่ต้องสงสัย พร้อมทั้งได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ร้อยเวร ทำการบันทึกภาพ และสอบปากคำพยานแวดล้อมอย่างละเอียด เพื่อรีบดำเนินการจับกุมผู้ก่อเหตุให้ได้เร็วที่สุด เพราะเหตุการณ์ครั้งนี้ ถือว่าเป็นการก่อเหตุที่อุกอาจอย่างมาก