‘ดุสิต’เล็งลงทุนแบรนด์ใหม่ปักธงญี่ปุ่น

‘ดุสิต’เล็งลงทุนแบรนด์ใหม่ปักธงญี่ปุ่น

ดุสิตเตรียมลงทุนแบรนด์ใหม่ หวังต้นแบบธุรกิจจับกลุ่มคนรุ่นใหม่ ก่อนขยายการรับบริหารต่อเนื่องรูปแบบแฟรนไชส์ เล็งทำเลญี่ปุ่น ไทย พม่า ฟิลิปปินส์ เผยมีโครงการพร้อมเปิดตัวปีนี้ 3 แห่ง

นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่าจากการวางกลยุทธ์การขยายธุรกิจให้เติบโตอย่าวรวดเร็ว ภายในปีนี้เตรียมเปิดตัวแบรนด์ใหม่ภายใต้กลุ่มดุสิต ซึ่งจะเป็นครั้งแรกที่หันมาจับตลาดระดับกลางด้วยแนวคิดการสร้างเครือข่ายความสัมพันธ์ชุมชนของผู้เข้าพัก เน้นความใกล้ชิดกับชุมชนโดยรอบ 

ทั้งนี้ การพัฒนาแบรนด์ใหม่ ไม่ใช่การลงมาจับตลาดบัดเจ็ต โฮเต็ล หรือโรงแรมราคาประหยัดอย่างแน่นอน ขณะนี้ มีการตกลงการรับบริหารแล้วอย่างน้อย 3 ทำเล ที่เปิดตัวไปแล้วได้แก่ โครงการที่เซ็นสัญญากับ บริษัท ธนสารสมบัติพัฒนา เพื่อสร้างโรงแรมในโครงการมิกซ์ จตุจักร

สำหรับการวางรากฐานแบรนด์ใหม่ดังกล่าว เบื้องต้นมองการลงทุนเองเพื่อเป็นต้นแบบนำร่องควบคู่ไปด้วย โดยพิจารณาทำเลในโตเกียว ญี่ปุ่น ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศเป้าหมายหลักที่จะเข้าไปเปิดตลาดมากขึ้น หลังจากเพิ่งเซ็นสัญญาร่วมทุนกับบริษัท คัลเลอร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล จัดตั้งบริษัท ดุสิต คัลเลอร์ส ขึ้นเพื่อลงทุนสร้างโรงแรมในเกียวโต

“แบรนด์ใหม่ของดุสิต จะมีศักยภาพในด้านการเติบโตมาก เนื่องจากเหมาะกับโครงการโรงแรมที่ใช้งบลงทุนต่ำกว่าแบรนด์อื่นๆ ทำให้กลุ่มดุสิต มีแบรนด์ที่ตอบโจทย์หลากหลายในเชิงประชากรศาสตร์ เพราะจับเซ็กเมนท์ต่างจากแบรนด์อื่นที่เคยมี” 

โดยหลังจากที่ได้นำเสนอให้กับนักลงทุน และได้รับความไว้วางใจเซ็นสัญญาใช้แบรนด์ดังกล่าวกับโครงการที่จตุจักรไปแล้ว ยังมีทำเลอีก 2 แห่งต่างประเทศที่น่าจะเกิดขึ้นได้ และเป็นการลงทุนของตัวเอง คือ โตเกียว, ฟิลิปปินส์ และย่างกุ้ง

หลังจากรับบริหารภายใต้แบรนด์ใหม่แล้ว 5 แห่ง และเห็นผลความสำเร็จที่ชัดเจนก่อน จึงจะขยายแบรนด์ในรูปแบบแฟรนไชส์ต่อไป ซึ่งจะนับเป็นแบรนด์ที่ 2 ต่อจากดุสิต ปริ๊นเซส ที่นำร่องใช้รูปแบบแฟรนไชส์เต็มตัวตั้งแต่ปีนี้

นางศุภจี กล่าวด้วยว่านอกจากการขยายธุรกิจด้านการรับบริหารและแฟรนไชส์แล้ว ล่าสุดกลุ่มดุสิต ยังเข้าร่วมลงทุนกับ บริษัท เฟฟสเตย์ จำกัด ซึ่งเป็นผู้ให้บริการนำเสนอบริการที่พักตากอากาศในหัวเมืองท่องเที่ยวของไทย ในรูปแบบธุรกิจแนวแบ่งปัน (แชริ่งอีโคโนมี) ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างสูง และมั่นใจว่าจะเป็นโมเดลธุรกิจที่มีโอกาสเติบโตในอนาคตอีกมาก ซึ่งการลงทุนครั้งนี้ เป็นหนึ่งในแผนการของดุสิตที่จะกระจายการสร้างรายได้จากหลายทาง โดยมีเป้าหมายว่า การลงทุนไปยังธุรกิจอื่นๆ ในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง จะต้องสร้างรายได้สัดส่วนประมาณ 10% ของรายได้รวมภายในปี 2565

ด้านนางสาวสุชาดา เตโชติรส ผู้ก่อตั้งร่วมและซีอีโอบริษัท เฟฟสเตย์ จำกัด กล่าวว่า ได้รับเงินสนับสนุนจำนวน 1 ล้านดอลลาร์ จากดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล ในการระดมทุนในรอบซีรีส์เอ ส่งผลให้ดุสิตฯ ถือครองหุ้นสัดส่วน 9.24% ในบริษัท

สำหรับเงินทุนที่ได้รับจากการระดมทุนในรอบซีรีส์เอ จะถูกนำมาใช้ในการขยายตลาด การพัฒนาเทคโนโลยี และจัดหาบุคลากร เพื่อตอบโจทย์คอนเซปต์ของการเป็นทางเลือกในการเป็นผู้ให้บริการที่พักแบบแบ่งปัน ทั้งบ้านพัก หรือคอนโด ที่แตกต่างจากผู้ให้บริการรายอื่นๆ ที่มีอยู่ในตลาด โดยรูปแบบธุรกิจของเฟฟสเตย์ คือ การนำเสนอบริการที่ส่งเสริมประสบการณ์ในการพักผ่อนให้ตรงกับรูปแบบการใช้ชีวิตของคนไทยมากขึ้น แต่จุดเด่นที่ต่างจากแชริ่งอีโคโนมีรายอื่นๆ คือ ให้บริการต้อนรับเป็นการช่วยอำนวยความสะดวกให้กับเจ้าของบ้านและแขกผู้เข้าพักด้วย เช่น การทำความสะอาดและตรวจบำรุงรักษาห้องพัก การดูแลเรื่องการเข้าพัก (เช่น การเช็คอินและเช็คเอาท์ การรับส่งกุญแจ) ตลอดจนการบริการถ่ายภาพบ้านพักหรือคอนโด และการบริหารจัดการทรัพย์สิน

ทั้งนี้ หลังจากจดทะเบียนในปี 2558 ปัจจุบันมีรายการสินทรัพย์ที่เป็นบ้านพักหรือคอนโดมากกว่า 1.1 หมื่นรายการที่ขึ้นทะเบียนกับบริษัทไว้แล้ว และวางแผนที่จะเพิ่มรายการสินทรัพย์ที่มีอยู่อีก 6 เท่าตัว และจะขยายธุรกิจไปยังประเทศเวียดนาม พม่า อินโดนีเซียและกัมพูชา ภายในปี 2560 นี้ ก่อนเปิดตลาดที่เหลือในเอเชียในปีถัดไป