อึ้ง!!!ยอดผลิตรถยนต์เม.ย.ต่ำสุดรอบ64เดือน

อึ้ง!!!ยอดผลิตรถยนต์เม.ย.ต่ำสุดรอบ64เดือน

ส.อ.ท.เผยยอดผลิตรถยนต์เดือนเม.ย. อยู่ที่ 120,473 คัน ลดลงจากปีก่อน 12.85% ต่ำสุดในรอบ 64 เดือน หลังยอดผลิตเพื่อส่งออก-ขายในประเทศลดลงทิศทางเดียวกัน

นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ยอดผลิตรถยนต์เดือนเม.ย.2560 เทียบช่วงเดียวกับปีก่อนลดลง 12.85% อยู่ที่ 120,473 คัน ต่ำสุดในรอบ 64 เดือน เนื่องจากเดือนเม.ย.มีวันทำงานน้อย ทั้งนี้ เป็นการลดลงจากทั้งการผลิตเพื่อขายในประเทศลดลง 4.46% สามารถ ผลิตได้ 55,007 คัน และการผลิตเพื่อส่งออก 18.84% ที่สามารถผลิตได้ 65,466 คัน สอดคล้องกับยอดการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปเดือนเม.ย.2560 ส่งออกได้ 68,927 คัน ต่ำสุดในรอบ 48 เดือน ลดลงจากเดือนเม.ย.ปีก่อน 14.37% โดยส่งออกลดลงเกือบทุกตลาด ยกเว้นตลาดเอเชีย และออสเตรเลีย คิดเป็นมูลค่าการส่งออกรถยนต์ 38,167.16 ล้านบาท ลดลงจากเดือนเดียวกันของปีก่อน 11.41%

ขณะที่ ยอดขายรถยนต์ภายในประเทศของเดือนเม.ย.2560 มีจำนวนทั้งสิ้น 63,267 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้ว 15.1% จากกำลังซื้อที่ดีขึ้น ราคาสินค้าเกษตรมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น การแนะนำรถยนต์นั่งรุ่นใหม่หลายรุ่นและการจัดงานมอเตอร์โชว์เมื่อช่วงปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา ช่วยกระตุ้นการเติบโตของตลาดรถยนต์ แต่ลดลงจากเดือนก่อนหน้า 25.4% เนื่องจากจำนวนวันทำงานน้อยกว่า

"จากยอดขายรถยนต์ในประเทศที่เพิ่มขึ้นในเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา สะท้อนกำลังซื้อจากประชาชนในประเทศปรับตัวดีขึ้น ส่งผลให้ยอดขายในประเทศ 4 เดือนที่ผ่านมามียอดขายเพิ่มขึ้นช่วงเดียวกันของปีก่อน 15.7% รวมอยู่ที่ 273,757 คัน อีกทั้งมองว่าเศรษฐกิจไทยในช่วงที่เหลือของปีนี้มีแนวโน้มดีขึ้น จากการการลงทุนทั้งของภาครัฐและเอกชนที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศให้ดีขึ้นได้ ทำให้มีความหวังว่ายอดขายโดยรวมในประเทศปีนี้ที่ตั้งเป้าหมายไว้ 8 แสนคันจะเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้" นายสุรพงษ์ กล่าว

นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ส.อ.ท.ยังคงเป้าหมายประมาณการณ์ยอดขายรถยนต์ปีนี้อยู่ที่ 2 ล้านคัน จากเป้าหมายส่งออกรถยนต์ปีนี้ที่ไว้อยู่ที่ 1.2 ล้านคัน และยอดขายในประเทศอยู่ที่ 8 แสนคัน เพราะเชื่อว่าการส่งออกรถยนต์ในช่วงที่เหลือของปีนี้จะปรับตัวดีขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจโลกที่เร่ิมฟื้นตัว โดยเฉพาะเศรษฐกิจสหรัฐที่ค่อนข้างฟื้นตัวอย่างแข็งแรง ช่วยสนับสนุนให้ประเทศอื่นที่ส่งออกสินค้าไปสหรัฐดีขึ้นตามไปด้วย

อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามผลจากการดำเนินนโยบายกีดดันการค้าของสหรัฐ ว่าจะมีผลต่อสินค้าที่สหรัฐนำเข้าจากไทยหรือไม่ โดยปัจจุบันสหรัฐนำเข้าชิ้นส่วนรถยนต์จากไทยเพียง 2% ซึ่งถือว่าไม่มาก จึงไม่น่าจะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมรถยนต์ของไทยอย่างที่หลายฝ่ายกังวล แต่ขณะที่อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจจีนที่เติบโต 6.9% สะท้อนกำลังซื้อจากจีนที่กลับมาดีขึ้นช่วยให้กลุ่มประเทศในภูมิภาคอาเซียนส่งออกได้มากขึ้น