'ศานิตย์' แถลงจับแก๊งล้วงกระเป๋าชาวกัมพูชา

'ศานิตย์' แถลงจับแก๊งล้วงกระเป๋าชาวกัมพูชา

สืบเนื่องจากมีแก๊งค์คนร้าย ก่อเหตุล้วงกระเป๋าเกิดขึ้นบ่อยครั้ง ฝ่ายสืบสวนสน.ทองหล่อจึงได้ออกสืบสวนติดตาม จากกล้องวงจรปิด ประกอบกับการสอบปากคำผู้เสียหาย วิเคราะห์พฤติกรรมคนร้าย พบว่ากลุ่มคนร้ายเป็นชาวกัมพูชาประมาณ 5 คน

พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. พ.ต.อ.ขจรพงศ์ จิตต์ภาคภูมิ ผบช.น. พ.ต.ท.จิรกฤต จารุนภัทร์ รองผกก.สส.สน.ทองหล่อ พ.ต.ต.ทองเปลว หาญไพบูลย์ สว.สส.สน.ทองหล่อ ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมนายนวล รัดทา อายุ 35 ปี นายส่วน กัมพูชา อายุ 35 ปี นายเจิ๊ด ยึกวีเจิ๊ด อายุ 31 ปี นายคง ซีวุดธี อายุ 37 ปี และนายโลน ทีโลน อายุ 27 ปี ทั้งหมดเป็นชาวกัมพูชา พร้อมของกลางเงินสด 7,780 บาท เงินตราต่างประเทศจำนวนหนึ่ง กระเป๋าสตางค์ 7 ใบ นาฬิกา 1 เรือน และโทรศัพท์มือถือจำนวน 4 เครื่อง ในข้อหาซ่องโจร และร่วมกันลักทรัพย์โดยวิธีล้วงกระเป๋า โดยจับกุมได้ที่ริมถนนซอยสุขุมวิท 30 แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กรุงเทพฯ ห้อง 408 เลิศถาวรอพาร์ทเม้นต์ ซ.สันตินคร 1/6 ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ และบ้านเช่าไม่มีเลขที่ ซอยเทศบาลสำโรงใต้ 8 ต.สำโรงกลาง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ

พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากมีแก๊งค์คนร้ายก่อเหตุล้วงกระเป๋าชาวไทย และชาวต่างชาติเกิดขึ้นบ่อยครั้ง ฝ่ายสืบสวนสน.ทองหล่อจึงได้ออกสืบสวนติดตามรวบรวมภาพจากกล้องวงจรปิด ประกอบกับการสอบปากคำผู้เสียหายวิเคราะห์พฤติกรรมคนร้าย พบว่ากลุ่มคนร้ายเป็นชาวกัมพูชาประมาณ 5 คนมีการวางแผนแบ่งหน้าที่กัน จึงได้จัดกำลังเฝ้าสังเกตการณ์ตามจุดเสี่ยงจุดล่อแหลมที่มักเกิดเหตุอยู่เป็นประจำ จนสามารถติดตามจับกุมคนร้ายได้ยกแก็งค์ พร้อมของกลางดังกล่าว

พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวอีกว่า แก๊งค์นี้มีนายโลนชาวกัมพูชาเป็นหัวหน้าขบวนการได้รวมกลุ่มกัน มาจากประเทศกัมพูชาและมีการแบ่งหน้าที่กันทำงาน โดยในโลนจะเป็นผู้ลงมือล้วงกระเป๋าเหยื่อจากนั้น จะมีผู้ทำหน้าที่เดินประกบคอยบางสายตาของผู้อื่นอีกประมาณ 2-3 คน และจะมีอีก 1 คน คอยรับทรัพย์สินที่ล้วงเอามาได้หลบหนี โดยจะเลือกก่อเหตุกับเหยื่อที่สะพายกระเป๋าเป้ หรือใช้กระเป๋าสะพาย ส่วนใหญ่จะใช้การรูดซิปแล้วจึงล้วงเอาทรัพย์สินไป มักเลือกก่อเหตุตามสถานที่ที่มีคนพลุกพล่าน เช่น ถนนสุขุมวิท ถนนพระราม 2 ย่านประตูน้ำ หรือตามห้างสรรพสินค้า โดยจะก่อเหตุวันละ 2-3 ครั้ง ไม่เลือกช่วงเวลา ส่วนใหญ่จะก่อเหตุช่วงกลางวัน อย่างไรก็ตามโทรศัพท์ที่ได้จากผู้เสียหายจะนำไปขายที่ตลาดปอยเปตฝั่งประเทศกัมพูชา ส่วนเงินตราต่างประเทศจะนำไปแลกที่ร้านรับแลกเงินย่านซอยนานา รายได้ต่อเดือนเฉลี่ยเดือนละ 4-5 หมื่นบาท เมื่อเก็บเงินได้เป็นก้อนแล้วก็จะนำเงินสดที่ได้กลับไปใช้จ่าย และฝากเงินที่ประเทศกัมพูชาแล้วกลับมาก่อเหตุอีก

ทั้งนี้ผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพว่า ได้ก่อเหตุในพื้นที่กรุงเทพมหานครร่วมกันกว่า 100 ครั้ง และผู้ต้องหาทุกคนเคยต้องโทษในเรือนจำประเทศไทยในฐานความผิดลักษณะล้วงกระเป๋า มาแล้วหลายครั้ง ทั้งนี้นายนวล เคยถูกจับ 2 ครั้ง ครั้งแรกที่สน.พญาไท ปี 46 ในข้อหาลักทรัพย์(ล้วงกระเป๋า) และสภ.รัตนาธิเบศร์จ.นนทบุรี ปี 60 ในข้อหาลักทรัพย์ นายส่วน ถูกจับ 1 ครั้ง ที่สน.ทองหล่อ ปี 56 ในข้อหาลักทรัพย์(ล้วงกระเป๋า) นายเจิ๊ด เคยถูกสน.พระโขนงจับเมื่อ ปี 57 ในข้อหาพยายามลักทรัพย์ นายคง ถูกจับ 1 ครั้งที่สน.ท่าข้ามเมื่อปี 57 ในข้อหาวิ่งราวทรัพย์และนายโลนเคยถูกจับ 1 ครั้งที่สน.ทองหล่อ เมื่อปี 56 ในข้อหาลักทรัพย์ (ล้วงกระเป๋า)