มาร์เก็ตแคปหุ้นไทย 'จ่อนิวโลว์'

มาร์เก็ตแคปหุ้นไทย 'จ่อนิวโลว์'

มาร์เก็ตแคปหุ้นไทยจ่อนิวโลว์ ตลาดรับ “เจ้าสัวเสจริญ” เพิกถอน 3 กองทุน-บิ๊กซีสูญ 3 แสนล้าน ด้านเฟทโก้เผยดัชนีเชื่อมั่นตลาดทุน 3 เดือนข้างหน้าเพิ่มขึ้น 11%

มาร์เก็ตแคปตลาดหุ้นไทยใกล้ต่ำสุดรอบ6เดือน หลัง“กลุ่มเจริญ สิริวัฒนภักดี”ขอเพิกถอน3กองทุนอสังหาฯกับหุ้นบิ๊กซี ตลาดหลักทรัพย์ยอมรับหายไปราว 3 แสนล้านจากปัจจุบันอยู่ที่ 15.2 ล้านล้านบาท ยันกำไรบจ.ไตรมาสแรกโตเกิน20% ด้านสภาธุรกิจตลาดทุนไทย เผยดัชนีเชื่อมั่นนักลงทุน3เดือนข้างหน้าเพิ่มขึ้น 11%

ภาพรวมตลาดหุ้นไทยในรอบ6เดือนที่ผ่านมามูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (มาร์เก็ตแคป) จะยืนเหนือระดับ 15 ล้านล้านบาท โดยเดือนธ.ค.2559 อยู่ที่ 15.07ล้านล้านบาท เดือนม.ค.2560 อยู่ที่ 15.5 ล้านบาท เดือนก.พ.อยู่ที่ 15.34 ล้านล้านบาท เดือนมี.ค.อยู่ที่ 15.40 ล้านล้านบาท เดือนเม.ย.อยู่ที่ 15.47 ล้านล้านบาท และเดือนพ.ค.อยู่ที่ 15.25 ล้านล้านบาท ดังนั้นหากกลุ่ม“เจริญ สิริวัฒนภักดี”เพิกถอน3กองทุนอสังหาริมทรัพย์ และ บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน)ฺ BIGC จะทำให้มาร์เก็ตแคปลดลงเหลือ 14.9 ล้านล้านบาท ซึ่งต่ำสุดในรอบ 6 เดือน

นางเกศรา  มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากกรณีที่กลุ่มบริษัทของนายเจริญ สิริวัฒนภักดี ประธานกรรมการ บริษัทไทยเบฟเวอเรจ ขอเพิกถอนกองทุนอสังหาริมทรัพย์ 3 แห่งจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน ประกอบด้วย กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าไทยคอมเมอร์เชียลอินเวสเม้นต์ (TCIF), กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าไทยโฮเทลอินเวสเมนท์ (THIF) และกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าไทยรีเทล อินเวสเมนท์ (TRIF) และ บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) BIGC จะมีผลทำให้มูลค่าหลักทรัพย์ตลาดราคาตลาด (มาร์เก็ตแคป ) หายไป ประมาณ 3 แสนล้านบาท

ส่วนภาพรวมของการประกาศผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 1 ประจำปี 2560 ที่ประกาศออกมา 252 บริษัท หรือคิดเป็น 40% ของทั้งหมดนั้น มีกำไรเติบโตที่ดี โดยเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนขยายตัว 27%   และเทียบกับไตรมาสที่ 4 ของปี 2559 ขยายตัว 24% โดยกลุ่มบริษัทขนาดใหญ่ยังมีผลประกอบการที่ดี

ทั้งนี้ ตลาดหุ้นไทยหลังจากนี้มองว่าปัจจัยต่างประเทศยังเป็นปัจจัยหลักที่เข้ามากระทบกับตลาดหุ้น ทั้งปัญหาคาบสมุทรเกาหลี และปัญหาด้านการเมืองในกลุ่มสหภาพยุโรปที่เริ่มคลายตัว ส่วนมูลค่าการซื้อขายของตลาดหุ้นไทยอาจปรับตัวลดลง โดยในเดือนเม.ย.อยู่ที่ 4 หมื่นล้านบาท

  นายคเณศ  วังส์ไพจิตร เลขาธิการ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน ประจำเดือนพ.ค. คาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้า (ก.ค.) อยู่ที่ 100.89 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากการสำรวจครั้งก่อน 11.69% โดยความเชื่อมั่นปรับตัวเพิ่มขึ้นในทุกกลุ่ม โดยกลุ่มนักลงทุนต่างชาติอยู่ที่ 125 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 25% กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์ อยู่ที่ 100.00 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 33% กลุ่มนักลงทุนรายบุคคล อยู่ที่ 90.20 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 3.02% กลุ่มนักลงทุนสถาบันในประเทศอยู่ที่ 95.00 จุด ไม่เปลี่ยนแปลงจากครั้งก่อน 

 โดยจากการสำรวจพบว่าปัจจัยหนุนที่มีอิทธิพลต่อตลาดหุ้นไทยมากที่สุด คือการเติบโตของเศรษฐกิจภายในประเทศ ส่วนปัจจัยฉุดของตลาดหุ้นไทย คือ สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างประเทศ  โดยหมวดอุตสาหกรรมที่น่าลงทุนมากที่สุด คือ กลุ่มธนาคาร ส่วนกลุ่มที่ไม่น่าสนใจลงทุนคือ กลุ่มเหล็ก