“พฤกษา”ออกแรงฮึด ปั๊มรายได้แตะ 5 หมื่นล้าน

“พฤกษา”ออกแรงฮึด ปั๊มรายได้แตะ 5 หมื่นล้าน

พฤกษาฯ เผยผลประกอบการไตรมาสแรก “รายได้-กำไร”ลด หลังคอนโดยังรอรับรู้รายได้ ฉุดรายได้ลด 21.5% รุกหนักไตรมาส 2-3 กำแบ็คล็อกคอนโดปั๊มยอดขาย

นายทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ ประธานกรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด(มหาชน) เปิดเผยผลประกอบการไตรมาสแรกว่า มียอดขาย 13,303 ล้านบาท เติบโต 35.6% มีรายได้จากการโอน 8,072 ล้านบาท ลดลง 21.5%  มีอัตรากำไรสุทธิ 681 ล้านบาท ลดลง 45.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

ทั้งนี้ รายได้ที่ลดลง เกิดจากการบริหารจัดการ และพอร์ตโฟลิโอของบริษัท โดยไตรมาสแรกรายได้หลักมาจากกลุ่มธุรกิจบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮ้าส์ ขณะที่คอนโดมิเนียมยังไม่มีการโอนมากนัก อย่างไรก็ตาม คาดว่าแนวโน้มไตรมาส 2 และ 3 จะสามารถทำรายได้ให้เติบโตมากขึ้น เนื่องจากช่วงดังกล่าวจะเป็นช่วงที่ธุรกิจคอนโดเริ่มรับรู้รายได้

ส่วนภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ไตรมาส 1 มีมูลค่า 97,478 ล้านบาท เติบโต 13.6% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และคาดว่าทั้งปีตลาดจะมีมูลค่า 379,000 ล้านบาท เติบโต 5%

นายปิยะ ประยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริการ กลุ่มธุรกิจพฤกษา เรียลเอสเตท กล่าวว่า รายได้ที่ลดลงเกิดจากการขับเคลื่อนของเครื่องยนต์หลักเพียง 2 กลุ่มคือธุรกิจบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮ้าส์ แต่ไตรมาส 2 และ 3 คาดว่าจะมีรายได้จากกลุ่มคอนโดมากขึ้น และการขับเคลื่อนธุรกิจจากนี้ไปจะต้องผลักดันรายได้ให้อยู่ที่ระดับ 4,000-5,000 ล้านบาทต่อเดือน เพื่อสร้างรายได้รวมให้เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 50,200 ล้านบาท

สำหรับกลยุทธ์ในไตรมาส 2-3 จะเร่งก่อสร้างบ้านพร้อมอยู่เพื่อขายมากขึ้น โดยจะไม่เน้นขายเฉพาะใบจอง ทำการประเมินศักยภาพผู้กู้(พรีแอ๊พพรูฟ)ก่อน เพื่อให้ลูกค้าขอสินเชื่อกับสถาบันการเงินผ่าน ส่วนทาวเฮ้าส์จะเร่งเปิดตัวโครงการใหม่ เฉพาะไตรมาส 2 จะเปิดตัว 15 โครงการ ส่วนคอนโด มีปัจจัยบวกจากการมียอดขายรอรับรู้รายได้(แบ็คล็อก)อยู่แล้ว 5,509 ล้านบาท

ด้านนายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจพฤกษา เรียลเอสเตท-พรีเมียมกล่าวว่า ตลาดที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดขยายตัวดี โดยเฉพาะระดับราคา 10 ล้านบาทขึ้นไป ซึ่งไตรมาส 1 เติบโต 71% 

โดยพฤกษามีส่วนแบ่งทางการตลาดคอนโดพรีเมียม 7% จากโครงการเดอะ รีเซิร์ฟ ทองหล่อ มีมูลค่า1,699 ล้านบาทเป็นอันดับ 4 ของตลาด โดยมีโครงการไนน์ตี้เอท ไวร์เลส ของแสนสิริ เป็นอันดับ 1 ยอดขาย 4,779 ล้านบาท ส่วนแบ่งการตลาด 19% ตามด้วยโครงการดิ เอส อโศกของสิงห์ เอสเตท ยอดขาย 2,820 ล้านบาท ส่วนแบ่งการตลาด 11% และโครงการศุภาลัย โอเรียนทัล สุขุมวิท39 มียอดขาย 2,073 ล้านบาท ส่วนแบ่งทางการตลาด 8%