บุกตรวจโรงโม่หิน ยึดไม้ชิงชัน-ไม้สักที่ร้องกวาง

นายอรรถพล เจริญชันษา ผอ.สำนักป้องกันรักษาป่า หัวหน้าศูนย์ปฎิบัติการพิทักษ์ป่า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สนธิกำลังร่วมกับ พ.อ.จักเรศ ศิริพงศ์ ผบ.ม.พัน 12 และพ.อ.ชินทัศน์ หมวกละมัย รอง ผอ.กอ.รมน. แพร่ นำกำลังทั้งตำรวจ ทหาร ป่าไม้ และฝ่ายปกครอง เข้าตรวจค้นโรงโม่หินที่หมู่ที่ 3 ต.ไผ่โทน อ.ร้องกวาง จ.แพร่ หลังจากได้รับการยืนยันจากสายข่าวว่า มีการนำไม้ชิงชัน มาเก็บไว้ ในบริเวณโรงโม่หิน

จาการตรวจสอบโดยรอบโรงโม่ พบว่าเป็นโรงโม่เก่าไม่มีการดำเนินการ เป็นที่รกร้าง เข้าออกได้ง่าย จึงกระจายกำลังโดยรอบ พบว่าที่ป่าละเมาะ ซึ่งอยู่ห่างจากจุดที่เป็นโรงโม่หินประมาณ 500 เมตร มีเศษกองไม้ชิงชันและไม้สักกองอยู่ประมาณ 20 ท่อน และพบว่ามีกองขี้เลื่อยกระจายอยู่ จึงทำการยึดไว้เป็นหลักฐาน

จากนั้นได้นำกำลังทั้งหมดเข้าตรวจค้นบ้านพักคนงาน ภายในห้องไม่พบไม้แต่พบ เขากวาง 2 อัน จึงได้ยึดไว้เป็นของกลาง และควบคุมตัวนายกำแหง อุ่นกอง อายุ 65 ปี ชาวต.บ้านเวียง อ.ร้องกวาง จ.แพร่ ซึ่งเป็นคนงานนอนเฝ้าอยู่ส่งให้ ร.ต.อ.สุทรพจน์ ทนันชัย รอง สว.สอบสวน สภ.ไผ่โทน อ.ร้องกวางไว้ดำเนินคดี และนำกำลังเข้าตรวจสอบพื้นที่โรงโม่แพร่ศิลา 2 ซึ่งเป็นจุดที่มีการดำเนินการโม่หินอยู่

นายอรรถพล เจริญชันษา ผอ.สำนักป้องกันรักษาป่า หัวหน้าศูนย์ปฎิบัติการพิทักษ์ป่า (ศปก.พป.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า เบื้องต้นพบไม้ชิงชันจำนวนไม่มาก ซึ่งเป็นเพียงเศษไม้ แต่ก็สามารถเป็นคดีได้ แจ้งข้อหาทั้งหมด 3 ข้อหา ใน 2 พื้นที่ของโรงโม่ พื้นที่ 1.ที่พบไม้ คือ โรงโม่เก่า คดีแรกจะเป็นเรื่องของการครอบครองไม้หวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งเป็นไม้ชิงชัน เป็นไม้ประเภท ก ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ ตามประกาศ คสช. ที่ 106 อีกคดีเป็นเรื่องของการครอบครองซากสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งได้มอบหมายให้กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พื้นดำเนินคดีแล้ว ในเบื้องต้นคงต้องดำเนินคดีกับผู้ที่ดูแลบริเวณดังกล่าว สำหรับในพื้นที่่ 2.จะต้องดำเนินคดีตามพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ

นายเอกชัย ชมภูมิ่ง ผู้จัดการโรงโม่ กล่าวว่า จุดที่พบไม้หวงห้ามนั้นเป็นจุดที่อยู่นอกเขตสัมปทานของโรงโม่ และได้ปิดกิจการไปแล้วโดยย้ายโรงโม่ไปยังสำนักงานแห่งใหม่ ซึ่งพื้นที่ได้รับแจ้งว่ามีการรุกล้ำออกมานั้น เป็นส่วนที่อยู่ระหว่างดำเนินการขออนุมัติขยายพื้นที่