‘กลุ่มเครื่องดื่ม’ หวังรายได้เข้าเป้า

‘กลุ่มเครื่องดื่ม’ หวังรายได้เข้าเป้า

"กลุ่มเครื่องดื่ม" หวังรายได้เข้าเป้า ไตรมาสแรกกำไรโตน้อยผลกระทบ "เศรษฐกิจชะลอ" เน้นออกผลิตภัณฑ์ใหม่-เพิ่มช่องทางจำหน่าย

ธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่มเผยกำไรไตรมาสแรกโตน้อยและปรับลดลง เนื่องจากเศรษฐกิจชะลอตัว หวังทั้งปีผลประกอบการเป็นตามเป้าหมาย พร้อมปรับกลยุทธ์ออกผลิตภัณฑ์ใหม่และขยายช่องทางการจำหน่าย

จากการรวบรวมผลการดำเนินงานธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่ม พบว่าไตรมาส 1 ปี 2560 กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเล็กน้อย และบางบริษัทมีกำไรสุทธิลดลง โดยมากชี้แจงว่าเป็นไปตามสภาวการณ์เศรษฐกิจภายในประเทศที่ไม่ค่อยมีการเติบโตมากนัก ส่วนแนวโน้มผลการดำเนินงานทั้งปีนี้ ส่วนมากเชื่อว่าจะสามารถผลักดันได้ตามเป้าหมาย

นางสาวปิยจิต รักอริยะพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน) SAPPE กล่าวว่า แนวโน้มการดำเนินงานในไตรมาส 2 ปี2560 จะเติบโตดีอย่างต่อเนื่อง ส่งผลดีต่อภาพรวมผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ที่คาดว่าจะเติบโตได้ตามเป้าหมาย ปัจจัยความสำเร็จมาจากการออกผลิตภัณฑ์ใหม่สำหรับตลาดในประเทศ และการเร่งขยายช่องทางการจัดจำหน่ายในตลาดต่างประเทศ

สำหรับการขยายตลาดในประเทศนั้น ในปีนี้บริษัทได้เปิดตัวสินค้าใหม่ 7 รายการ ส่วนตลาดต่างประเทศยังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในไตรมาส 2 เพราะเป็นช่วงหน้าร้อนในหลายๆประเทศ

นางสาวรุ่งฉัตร บุญรัตน์ ประธานผู้บริหารฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท มาลีกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) MALEE กล่าวว่า ในไตรมาส 1 ปี2560 บริษัทและบริษัทย่อยมียอดขายรวม 1,515 ล้านบาท ปรับตัวลงเล็กน้อย 1% จากการลดลงของยอดขายในประเทศของธุรกิจพัฒนาผลิตภัณฑ์ตามสัญญาและรับจ้างผลิต (Contract Manufacturing Business: CMG) และยอดขายในประเทศของธุรกิจตราสินค้าของบริษัทโดยเฉพาะยอดขายกลุ่มผลไม้กระป๋องในประเทศ

อย่างไรก็ตาม ยอดขายต่างประเทศยังคงเติบโตโดดเด่นอย่างต่อเนื่อง ทั้งธุรกิจ Brand และ CMG ทั้งนี้ ถึงแม้ยอดขายโดยรวมในไตรมาส 1 ปี 2560 ปรับตัวลดลงเล็กน้อย แต่กำไรของกลุ่มบริษัทยังคงเติบโตได้ 8% โดยมีกำไรสุทธิเท่ากับ 118 ล้านบาท จากการบริหารจัดการภายในองค์กรและลดต้นทุน บริษัทจึงมั่นใจว่าปี2560 ยอดขายจะสามารถเติบโตได้10-15% ตามเป้าหมาย

นายชัชชวี วัฒนสุข ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ที.เอ.ซี.คอนซูเมอร์ จำกัด (มหาชน) TACC กล่าวว่า ในไตรมาส 1ปี 2560 นั้น ตลาดไม่เจริญเติบโตเท่าที่ควรสืบเนื่องจากเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ โดยบริษัทมีรายได้รวม 287.07 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 25.82 ล้านบาท แม้ว่ายอดขายจะไม่ได้เติบโตมากนัก โดยคาดว่าในช่วงที่เหลือของปีนี้ รายได้และกำไรจะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยได้รับปัจจัยหนุนจากบริษัทมีแผนส่งสินค้าใหม่เข้าทำตลาดอย่างต่อเนื่อง ทั้งในส่วนสินค้าที่วางจำหน่ายในร้านสะดวกซื้อเซเว่น 7-Eleven และสินค้าที่ส่งไปจำหน่ายในต่างประเทศ

นายเจริญ รุจิราโสภณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ส. ขอนแก่นฟู้ดส์ จำกัด (มหาชน) SORKON กล่าวว่า แนวทางดำเนินงานในปีนี้ บริษัทจะปรับกลยุทธ์ของธุรกิจ QSR ให้มีความแข็งแกร่งมากขึ้น โดยชูโมเดลเน้นขยายสาขาผ่านแฟรนไชส์ให้แก่นักลงทุนที่สนใจเข้ามาลงทุนขยายสาขาเพิ่มเติม จากเดิมบริษัทเป็นผู้ลงทุนเปิดสาขาเองทั้งหมด

ส่วนผลการดำเนินงานไตรมาส 1ปี2560 บริษัทมีรายได้รวม 661.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.7 % จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 632.5 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 29.4 ล้านบาท โดยการเติบโตดังกล่าวมาจากกลุ่มธุรกิจร้านอาหารบริการด่วน หรือ QSR ที่ทำยอดขายเพิ่มขึ้น 35% รองลงมาได้แก่ กลุ่มธุรกิจอาหารทะเลแปรรูป (กลุ่มลูกชิ้นปลา) เติบโต 4 % ขณะที่กลุ่มธุรกิจอาหารพื้นเมืองและธุรกิจขนมขบเคี้ยว มียอดขายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้โดยภาพรวมบรรยากาศกำลังซื้อของผู้บริโภคยังไม่คึกคักมากนักก็ตาม