ผู้ว่าฯลำพูนสั่งสนธิกำลังจนท. ลุยมูลนิธิฉาวต้มตุ๋นลวงโลก

ผู้ว่าฯลำพูนสั่งสนธิกำลังจนท. ลุยมูลนิธิฉาวต้มตุ๋นลวงโลก

หลังชาวบ้านบุกร้องกองปราบฯ ด้านผู้ว่าฯลำพูน สั่งสนธิกำลังจนท. ลงพื้นที่มูลนิธิฉาวลวงโลก ต้มตุ๋นทั้งไทย-ลาว ชี้บิดเบือนคำสอนพระพุทธศาสนา

นายวีระชัย ภู่เพียงใจ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน เปิดเผยว่า หลังจากที่ทราบข่าวว่า มีชาวบ้านในพื้นที่จังหวัดลำพูน เดินทางเข้าไปแจ้งความร้องทุกข์กับกองบังคับการปราบปราม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรณีที่มูลนิธิแห่งหนึ่ง มีพฤติกรรมการหลอกลวงขอรับบริจาคเงิน โดยอ้างว่าเป็นการไถ่ถอนพระอรหันต์ 28 องค์ ซึ่งพระพุทธรูปดังกล่าวได้รับการตรวจสอบจากกรมศิลปากรแล้วว่า เป็นพระพุทธรูปที่ปั้นขึ้นมาใหม่ ลักษณะร่วมสมัย ไม่ได้มีอายุพันกว่าปีตามที่กล่าวอ้างนั้น

ทางจังหวัดไม่ได้นิ่งนอนใจกับเรื่องดังกล่าวที่เกิดขึ้น ได้สั่งการให้เข้าตรวจสอบมูลนิธิดังกล่าว เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม ที่ผ่านมา โดยสนธิกำลังร่วมกับหลายฝ่ายเพื่อเข้าไปในพื้นที่แต่ไม่พบกับกรรมการมูลนิธิ พบแต่เพียงศรัทธาที่เข้ามาทำบุญ นอกจากนั้นยังพบคณะจากสปป.ลาวมีพระสงฆ์และญาติธรรมเดินทางเข้ามาทำบุญในมูลนิธิดังกล่าวตามความเชื่อและศรัทธา คาดว่าในเร็วๆ นี้จะต้องลงพื้นที่อีกครั้ง เพื่อเข้าตรวจสอบอย่างละเอียด โดยต้องมีกรรมการมูลนิธิอยู่ด้วย เพื่อจะได้มีการซักถามข้อมูล

ก่อนหน้านี้เมื่อปี 2558 ได้มีการออกหนังสือเตือนมูลนิธิในเรื่องของคำสอนของกรรมการมูลนิธิที่แอบอ้าง พระเจ้าอโศกกลับชาติมาเกิด และมีการบิดเบือนคำสอนของพระพุทธศาสนา ส่วนเรื่องการหลอกลวงที่มีการอ้างว่าพระพุทธรูปจำนวน 28 องค์ ว่าเป็นพระพุทธรูปเก่า ผุดขึ้นหรือลอยมาเองนั้นที่ผ่านมาได้มีการตรวจสอบแล้วว่ามีการขนเข้ามาในช่วงเวลากลางคืน และไม่ได้เป็นพระพุทธรูปเก่าแก่ตามที่กล่าวอ้าง นอกจากนั้นในเรื่องที่ดินของมูลนิธิจำนวนประมาณ 80 ไร่ จากการตรวจสอบพบว่ามีโฉนดถูกต้อง อย่างไรก็ตามเรื่องดังกล่าวนี้จะต้องมีการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่งว่ามีการบุกรุกพื้นที่ป่าหรือไม่

สำหรับเรื่องแชร์ลูกโซ่ที่มีความเชื่อมโยงกับการทำบุญในมูลนิธินั้น การที่จะดำเนินการได้นั้นจะต้องมีผู้กล่าวโทษร้องทุกข์ ผู้เสียหายต้องไปแจ้งความดำเนินคดี แต่เดิมได้ขอให้มีการแจ้งความดำเนินคดี แต่ไม่มีผู้เข้าแจ้งความดำเนินคดีในขณะนั้น เจ้าหน้าที่จึงไม่สามารถดำเนินการต่อไปได้ จนกระทั่งทราบข่าวว่ามีการไปแจ้งความร้องทุกข์กับกองบังคับการปราบปรามในกรุงเทพฯ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ดังนั้นต้องรอให้ทางกองปราบเข้ามาดำเนินการในเรื่องดังกล่าวนี้

ประเด็นในเรื่องของการฉ้อโกงต้องให้ผู้เสียหายไปแจ้งความ ที่ผ่านมาไม่มีญาติธรรมเข้าไปแจ้งความดำเนินคดี เรื่องการถูกหลอกลวง เจ้าหน้าที่จึงไม่สามารถดำเนินคดีได้ เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องของความเชื่อและศรัทธา การดำเนินการหลังจากที่ชาวบ้านไปร้องทุกข์ยังกองบังคับการปราบปรามนั้น คาดว่าจะเป็นไปตามขั้นตอนหลังจากนี้