'ซี’ เร่งดัน ช้อปปี้ ชิงอีคอมเมิร์ซไทย

'ซี’ เร่งดัน ช้อปปี้ ชิงอีคอมเมิร์ซไทย

'ซี' เร่งเครื่อง ดัน 'ช้อปปี้' ชิงตลาดอีคอมเมิร์ซไทย ระบุเป็นตลาดที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก

นางสาวมณีรัตน์ อนุโลมสมบัติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท การีนา ออนไลน์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า หลังบริษัท ซี ลิมิเต็ด (Sea Limited) หรือ “Sea” บริษัทแม่ของการีนา, แอร์เพย์ และช้อปปี้ ในไทย ได้ระดมทุนรอบใหม่เรียบร้อยเป็นจำนวนเงิน 550 ล้านเหรียญดอลลาร์ เพื่อการต่อยอดธุรกิจอย่างต่อเนื่อง พร้อมรีแบรนด์ชื่อบริษัทใหม่เป็น Sea แล้วนั้น โดยเม็ดเงินที่ระดมทุนได้ส่วนใหญ่ จะถูกนำไปลงทุนเพื่อสร้างการเติบโตของช้อปปี้แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซของบริษัท

การลงทุนรอบใหม่นี้ จะช่วยส่งเสริมกลยุทธ์เพื่อการเติบโตที่มีอยู่เดิมของช้อปปี้ และเป็นการเพิ่มแหล่งทุนการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ และการให้บริการในไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บริษัทมีแผนเพิ่มจำนวน ออฟฟิศ สโตร์ ในไทย และเพิ่มจำนวนผู้ขายในหมวดหมู่สินค้าใหม่ เพิ่มความหลากหลายของหมวดหมู่สินค้าให้มากยิ่งขึ้น ปัจจุบันช้อปปี้มีให้บริการอยู่ทั้งหมด 7 ประเทศ รวมถึงไทย ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศที่น่าลงทุนที่สุดของบริษัท

จากการศึกษาของฟรอสต์ แอนด์ซัลลิแวน พบว่า ตลาดอีคอมเมิร์ซในไทยมีมูลค่าสูงถึง 3.1 พันล้านดอลลาร์ในปี 2559 และคาดว่าจะโตถึง 10.1 พันล้านดอลลาร์ปี 2564 มีการเติบโตสะสมต่อปีที่ 27% ทำให้ไทยเป็นหนึ่งในตลาดอีคอมเมิร์ซที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก

"เราไม่สามารถเปิดเผยจำนวนผู้ซื้อและยอดขายบนช้อปปี้ได้ แต่โดยภาพรวมแล้ว ช้อปปี้ในประเทศไทยมีอัตราการเติบโตที่สูงมาก"

สำหรับภาพรวมของบริษัทในไทยจากนี้ นางสาวมณีรัตน์ กล่าวว่า บริษัท “Sea” สะท้อนความเป็นผู้นำในแพลตฟอร์มต่างๆ ทั้งด้านเกมออนไลน์ (การีนา) อีคอมเมิร์ซ (ช้อปปี้) การบริการทางการเงินรูปแบบดิจิทัล (แอร์เพย์) อีกทั้งยังสื่อความหมายถึงตลาดภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เราอยู่ ซึ่งไทยเป็นผู้เล่นสำคัญในภูมิภาคนี้ จึงตั้งเป้าพัฒนาการให้บริการทั้งสามแพลตฟอร์มนี้เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ลูกค้า

ขณะเดียวกัน จะพัฒนาให้แต่ละแพลตฟอร์มมาความเชื่อมโยงและสนับสนุนกันและกันอย่างต่อเนื่อง เช่นที่แอร์เพย์ได้กลายเป็นแพลตฟอร์มในการเติมเงินเกมสำหรับลูกค้าเกมของการีนา และเป็นช่องทางในการชำระเงินของลูกค้าที่ซื้อขายของออนไลน์ผ่านช้อปปี้