ลุยแจ้งความ 'รมว.ศึกษาฯ' เหตุสั่งเลิกนโยบายหนังสือเรียนฟรี

ลุยแจ้งความ 'รมว.ศึกษาฯ' เหตุสั่งเลิกนโยบายหนังสือเรียนฟรี

กลุ่มต้านโกงอีสาน แจ้งความเอาผิด "นพ.ธีระเกียรติ" รมว.ศึกษาฯ เหตุสั่งเลิกนโยบายหนังสือเรียนฟรี เป็นยืมเรียน ย้ำขัดแย้งคำสั่ง คสช.

เมื่อวันที่ 9 พ.ค. 60 พ.ต.ท.ปราโมทย์ ชื่นตา รอง ผกก.สอบสวน สภ.เมืองอุบล รับแจ้งความร้องทุกข์ จากนายจำรูญศักดิ์ จันทรมัย อายุ 47 ปี ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่นภาคอีสาน และนายพิชิต คำแก้ว ประธานเครือข่ายผู้ปกครองจังหวัดมุกดาหาร เพื่อดำเนินคดีกับ นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในความผิดตามมาตรา 157 เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและ มาตรา341ฉ้อโกง

นายจำรูญศักดิ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้ติดตามตรวจสอบ กรณี นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เลิกวิธีแจกหนังสือเรียนฟรีเด็กรายบุคคล เปลี่ยนเป็นให้ยืมเรียน เข้าข่ายการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 157 และตามมาตรา 341 ฉ้อโกง จึงเดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินคดีกับ นพ.ธีระเกียรติ

“ได้เห็นประกาศคำสั่งของ คสช. กรณีให้บุตรหลานได้เรียนฟรี แต่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้ดำเนินการขัดแย้งกับคำสั่ง คสช. ที่กำหนดให้เรียนฟรี แต่มีการเรียกเก็บเงินบำรุงการศึกษา โดยเฉพาะกรณีบุตรข้าราชการสามารถนำใบเสร็จค่าบำรุงการศึกษาไปเบิกค่าเล่าเรียนได้ ทั้งที่รัฐบาลได้ประกาศให้เรียนฟรี นอกจากนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการโละวิธีแจกหนังสือเรียนฟรีเด็กรายบุคคล เปลี่ยนเป็นให้ยืมเรียนอีก ซึ่งมีปัญหามาก เพราะเมื่อส่งหนังสือยืมเรียนคืนแล้วในการสอบ โอเน็ต บุตรหลานจะเอาตำราที่ไหนมาอ่านสอบ” นายจำรูญศักดิ์ กล่าว

ด้าน พ.ต.ท.ปราโมทย์ กล่าวว่า นายจำรูญศักดิ์แจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีกับ นพ.ธีระเกียรติ กรณีการปรับรูปแบบการจัดซื้อหนังสือเรียนฟรีใหม่ จากที่ซื้อให้นักเรียนเป็นรายบุคคล เป็นซื้อเข้าสถานศึกษาและให้นักเรียนยืมเรียน ซึ่งผู้แจ้งอ้างว่าไม่ปฏิบัติตามกฎหมายรัฐธรรมนูญและคำสั่ง คสช. ว่าให้นักเรียนเรียนฟรี โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการมีคำสั่งว่าให้มีการยืมหนังสือเรียน ทำให้ไม่ได้รับความเสมอภาคเท่าเทียมกัน ทำให้เกิดช่องว่างทางวิชาการ ซึ่งผิดวัตถุประสงค์ตามกฎหมาย ทำให้ประชาชนเสียประโยชน์

“ในส่วนของพนักงานสอบสวนเมื่อมีการร้องทุกข์กล่าวโทษ เจ้าหน้าที่จะรับคำร้องทุกข์ตามกฎหมาย และจะมีการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน ซึ่งในเรื่องนี้เป็นการกล่าวหาเจ้าหน้าที่ของรัฐ ที่มีตำแหน่งทางการเมืองจึงเข้าสู่ขบวนการการไต่สวนของ ป.ป.ช.เป็นอำนาจโดยเฉพาะ เว้นแต่ว่า ทาง ป.ป.ช.ได้พิจารณาแล้วเป็นคดีที่ไม่สลับซับซ้อนหรือเห็นว่าคดีไม่ยุ่งยาก หรือเห็นสมควรแก่พนักงานสอบสวนจะคืนให้พนักงานสอบสวนดำเนินการตาม ป. วิ อาญา เราก็จะดำเนินการสอบสวน แต่ถ้าทาง ป.ป.ช.เห็นว่าคดีควรจะเข้าสู่การดำเนินการในส่วนของ ป.ป.ช. ทาง ป.ป.ช.ก็จะทำการไต่สวนต่อไป ซึ่งในรูปแบบของกฎหมาย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมีหน้าที่สอบสวนข้อเท็จจริง รวบรวมพยานหลักฐาน เบื้องต้นภายใน 30 วันและส่งต่อให้ ป.ป.ช.พิจารณา เบื้องต้นเจ้าหน้าที่รับแจ้งความตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 เป็นการปฏิบัติหรือละเว้นหน้าที่โดยมิชอบ และความผิดฐานฉ้อโกง ในความผิด ตามมาตรา 341 เป็นไปตามที่ผู้แจ้งมีความประสงค์ ซึ่งข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้สอบปากคำและรวบรวมพยานหลักฐานและให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย”พ.ต.ท.ปราโมทย์ กล่าว