'ซีไอเอ็มบีไทย' 5ปีขึ้น 'แบงก์กลาง'

'ซีไอเอ็มบีไทย' 5ปีขึ้น 'แบงก์กลาง'

"ซีไอเอ็มบีไทย" 5 ปี ขึ้นแบงก์กลาง พร้อมควบรวม-ซื้อกิจการ "ดันไซต์ธุรกิจ" แผนธุรกิจปีนี้มุ่งคุมเอ็นพีแอลให้ต่ำ 5%เพิ่มผลตอบแทนสินทรัพย์

ซีไอเอ็มบีไทย เปิดโรดแมพ 5 ปี เปลี่ยนผ่านก้าวขึ้นเป็นธนาคารขนาดกลางระดับแถวหน้าในปี 2565 พร้อมหาโอกาสควบรวมและซื้อกิจการหวังเพิ่มไซส์ธุรกิจ ขณะที่ปีนี้รุกทั้งองคาพยพ หวังกลับมาทำกำไร คาดแผนเพิ่มทุน 5,500 ล้านบาทแล้วเสร็จมิ.ย.นี้ คุมเอ็นพีแอลปีนี้ไม่เกิน 5% สินเชื่อโต 5-10%

นายกิตติพันธ์ อนุตรโสตถิ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย กล่าวว่า ธนาคารวางโรดแมพ 5 ปี (ปี2560-2565) ตั้งเป้าหมายก้าวขึ้นเป็นธนาคารระดับกลางที่แข็งแกร่งที่สุดด้านอาเซียนในประเทศไทย โดยจำเป็นต้องปรับโครงสร้างพื้นฐานของธนาคาร

สำหรับแผนโรดแมพหลังจากนี้จะแบ่งเป็น 3 ช่วง ช่วงที่ 1 (ปี2560-2561) ปรับปรุงผลการดำเนินงานให้ดีขึ้น มุ่งบริหารจัดการคุณภาพสินทรัพย์ กระชับขั้นตอนการทำงาน เร่งสร้างการเติบโตของรายได้และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้เงินกองทุนเพื่อให้เกิดผลดีที่สุด ช่วงที่2 (ปี2562-2563) เพิ่มขีดแข่งขัน แสวงหาโอกาสใหม่ๆ จากธุรกิจหลัก เช่น ธุรกิจเอสเอ็มอี ไพรเวทแบงกิ้ง และดิจิทัลแบงกิ้ง ช่วงที่ 3 (ปี2564-2565) โครงการเปลี่ยนแปลงการทำงาน (Transformation Roadmap) สำเร็จตามแผนเข้าสู่เป้าหมายก้าวเป็นธนาคารระดับกลางที่แข็งแกร่ง พร้อมต่อการควบรวมและซื้อกิจการเมื่อมีโอกาสที่ดีเข้ามา

“ตอนนี้เราต้องทำให้ตัวเองอยู่ในจุดที่พร้อม หลังจากTransformation Roadmap สำเร็จแล้ว หากมีโอกาสที่ดีพร้อมควบรวมและซื้อกิจการ เพื่อทำให้ธนาคารมีขนาดใหญ่ขึ้น ด้วยฐานทุนมีขนาดแข็งแกร่งและต้องใช้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด จากก่อนหน้านี้ได้ขอเพิ่มทุน 5,500ล้านบาท คาดว่ากระบวนการอนุมัติจะแล้วเสร็จในเดือนมิ.ย.นี้”

สำหรับแผนยุทธศาสตร์ปี2560 ตั้งเป้าหมายกลับมาทำกำไรในปีนี้ โดยจะเพิ่มอัตราผลตอบแทนต่อส่วนผู้ถือหุ้น( ROE) เป็นมากกว่า6% สินเชื่อเติบโต5-10% และส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย(NIM) เพิ่มเป็น 3.8%

จุดหลักที่ต้องปรับปรุงในปีนี้ คือการบริหารจัดการคุณภาพสินทรัพย์ ความสามารถการทำกำไรและการใช้ผลประโยชน์จากเงินกองทุนให้มีประสิทธิภาพในปีนี้ธนาคารยังคงตั้งสำรองเพิ่มขึ้น อัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพ ของธนาคาร (Coverage Ratio) ในไตรมาสแรกปีนี้เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 81% จากปีก่อน78% และวางเป้าเพิ่มเป็น 95% โดยจะทยอยตั้งสำรองเพิ่มตามความเหมาะสม

ปีนี้ยังเห็นแนวโน้มหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ของทั้งระบบเพิ่มขึ้น  ส่วนธนาคารอาจเพิ่มขึ้นบ้าง จากหนี้เสียธุรกิจโรงสีเมื่อปีก่อนซึ่งธนาคารพยายามบริหารจัดการคุมเอ็นพีแอลให้ต่ำกว่า 5% ในปีนี้ จากไตรมาสแรกปีนี้อยู่ที่ 5.1% ทั้งระบบอยู่ที่3.5%

ด้านการเติบโตสินเชื่อในปีนี้มุ่งธุรกิจรายย่อย ลูกค้าขนาดใหญ่ ธุรกิจบริหารเงิน ขณะเดียวกันมีความพร้อมรุกลูกค้าเอสเอ็มอี หลังได้ปรับโครงสร้างภายในเมื่อปีก่อน 

สำหรับยุทธศาสตร์หลัก คือ การเดินหน้าลงทุนในโอกาสใหม่ๆ ที่จะเป็นตัวขับเคลื่อนธุรกิจในอนาคต เช่น ดิจิทัลแบงกิ้งและชะลอธุรกิจที่ไม่ทำกำไรควบคู่กับการให้ความสำคัญกับ 5Cs(Customer ,Culture,Compliance ,Cost และCapital) ภาพรวมสินเชื่อตั้งเป้าโต 5-10%