ดับเครื่องชนผู้ว่าฯ 'ปลัดบุญญฤทธิ์'แฉพิรุธไม่บันทึกปากคำเด็ก

ดับเครื่องชนผู้ว่าฯ 'ปลัดบุญญฤทธิ์'แฉพิรุธไม่บันทึกปากคำเด็ก

เปิดศึกแตกหัก..แม่ฮ่องสอน! "ปลัดบุญญฤทธิ์" ดับเครื่องชนผู้ว่าฯ แฉพิรุธไม่บันทึกปากคำเด็กสาวคดีค้าประเวณี เตรียมยื่นเรื่องต่อ ปปช.เอาผิดกราวรูด

นายบุญญฤทธิ์ นิปวณิชย์ ประธานสหพันธ์ปลัดอำเภอแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า จากกรณีเจ้าหน้าที่ของรัฐระดับสูงเกี่ยวข้องกับการค้าบังคับให้เด็กค้าประเวณีในจังหวัดแม่ฮ่องสอน และนำไปสู่การเข้าร้องเรียน ต่อ ปคม.ที่กรุงเทพฯ และได้มีการสั่งการในการแบบสัมภาษณ์เบื้องต้นสำหรับคัดแยกผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ ตามคำสั่งคณะอนุกรรมการศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ จังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่1/2560

ลงนามแต่งตั้งโดยนายสืบศักดิ์ เอี่ยมวิจารณ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เมื่อวันที่ 2 ก.พ.2560 โดยได้มีการสัมภาษณ์ ณ สำนักงานอัยการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เมื่อวันที่ 22 ก.พ.2560 ช่วงเช้า

โดยผู้เสียหายให้ถ้อยคำว่าเจ้าพนักงานได้กระทำในลักษณะช่วยเหลือปกปิดความผิดในทางที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายโดยละเว้นไม่จดข้อความซึ่งต้องจดอันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 162(3) จึงถือเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ให้เกิดความเสียหายต่อผู้หนึ่งผู้ใด ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ซึ่งเด็กได้การถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้ถูกออกหมายจับไปแล้ว ในการนำเด็กไปบริการบุคคล VIP ซึ่งเป็นผู้ที่ซื้อบริการคือ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน

โดยทางสหพันธ์ปลัดอำเภอแห่งประเทศไทย ได้เตรียมกล่าวโทษเจ้าหน้าที่ของรัฐที่กระทำผิดต่อ ปปช. ประกอบด้วย 1. ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน 2.พนักงานอัยการ ซึ่งเป็นประธานคณะทำงาน 3.นักพัฒนาสังคม เจ้าหน้าที่จาก พม. ซึ่งเป็นเลขานุการ สำหรับเหตุผลที่ไม่มีการลงข้อความผู้สัมภาษณ์ให้เหตุผลว่าเพื่อความปลอดภัยของเด็กและเจตนาที่แสดงถึงพิรุธคือเมื่อผู้เสียหายขอเทปบันทึก มีการอ้างว่าไม่ได้เสียบปลั๊กไฟ โดยคาดว่าภายในสัปดาห์นี้จะรวมรวมกล่าวโทษอาญาได้เพราะหลักฐานรวบรวมครบแล้ว

นายบุญญฤทธิ์ กล่าวว่า กรณีที่มีกลุ่มบุคคลหลายกลุ่มออกมาต่อต้านตน จากการตรวจสอบในเชิงลึกพบว่า กลุ่มเหล่านั้น มีการจัดตั้งขึ้นมาเพื่อดิสเครดิตของตน และต้องการช่วยเหลือสร้างภาพลักษณ์ให้ผู้บริหารระดับสูงพ้นผิด ซึ่งในกลุ่มบุคคลเหล่านั้น มีรายหนึ่งถูกดำเนินคดีเกี่ยวกับการทุจริตอีกด้วย

จากการสอบสวนพบว่ามีท่อน้ำเลี้ยงเดินพุ่งเข้าหากลุ่มแกนนำ ที่เป็นอดีตสมาชิกพรรคการเมืองรายหนึ่ง ที่ออกมาเป็นแกนนำ ซึ่งการกระทำดังกล่าว กลุ่มเหล่านั้นน่าจะรวมตัวกันและหาทางแก้ไขปัญหาการค้าประเวณี และการทุจริตในวงราชการใน จ.แม่ฮ่องสอน ให้หมดไป แต่กลับมาขับไล่ คนที่คอยจับผิดและดำเนินคดีต่อข้าราชการผู้กระทำผิดกฎหมายแทน เสมือนยอมรับสิ่งที่ไม่ดีให้อยู่คู่แม่ฮ่องสอนต่อไป

นอกเหนือไปจากการพยายามขับไล่ตนแล้ว ในส่วนของภาคราชการ ยังมีการกระทำผิดกฎหมายอาญา จะซึ่งตนกำลังจะดำเนินคดี มาตรา 309 ประกอบ 157 กระทำการนอกขอบเขตแห่งอำนาจขัดรัฐธรรมนูน และร้องต่อศาลปกครองให้ยกเลิกคำสั่ง ต่อนายเพิ่มศักดิ์ ฉวีรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน

กรณีที่ได้มีการออกหนังสือ คำสั่งทางราชการ ที่ มส 0018.1/ 1876 ลงวันที่ 1 พฤษภาคม 2560 เรื่องการให้ข่าวหรือให้สัมภาษณ์ ต่อสื่อมวลชนของข้าราชการ เกี่ยวกับการดำเนินคดีผู้เกี่ยวข้องการค้าประเวณี ในแม่ฮ่องสอน โดยมีการให้ข่าว ให้สัมภาษณ์การค้าประเวณีและค้ามนุษย์ไม่พิจารณาไตร่ตรองให้รอบคอบ หรือไม่มีข้อมูลข้อเท็จจริงเพียงพอ ก่อให้เกิดความเสียหายต่อรูปคดี และความสามัคคีในหมู่คณะ

ซึ่งข้อเท็จจริง ตนเป็นผู้ออกให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน ในฐานะประชาชนคนหนึ่ง ที่ออกความคิดเห็นต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนอยู่ที่ อ.แม่สะเรียง ไม่ได้อยู่ในตัวจังหวัดแม่ฮ่องสอน และไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่ ที่มีหน้าที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับคดีค้ามนุษย์และค้าประเวณีแต่อย่างใด