BBL - ซื้อ

BBL - ซื้อ

ราคาหุ้นถูกกำไรทยอยฟื้นตัว

ประเด็นการลงทุน

เราคาดกำไรจะค่อยๆฟื้นตัวขึ้นในช่วง 3 ไตรมาสที่เหลือของปีนี้ โดยได้แรงหนุนจากสภาพเศรษฐกิจโดยรวมที่ปรับตัวดีขึ้น, สินเชื่อที่กลับมาเติบโต, ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยที่ทรงตัวและคุณภาพสินทรัพย์ปรับตัวดีขึ้น ดังนั้นเราคงประมาณการกำไรปี 2560 ของ BBL ที่ 3.7 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 16% YoY อ้างอิงจากสินเชื่อที่เติบโต 4% YoY, สมมติฐานส่วน
ต่างอัตราดอกเบี้ยเชิงอนุรักษ์นิยมที่ 2.2% (ลดลง 10 bps YoY) และการตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สูญฯปี 2560 อยู่ที่ 1.6 หมื่นล้านบาท ทรงตัว YoY ในปัจจุบันซื้อขายหุ้นกันอยู่ในระดับที่ถูกมากจากค่า PBV ณ สิ้นปี 2560 ที่ 0.9 เท่า (ค่าเฉลี่ยระยะยาวอยู่ที่ 1.2 เท่า) เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ


อุปสงค์สินเชื่อปรับตัวเพิ่มขึ้นในครึ่งหลังปี 2560

แม้ว่า BBL รายงานสินเชื่อหดตัว QoQ อยู่ที่ 0.9% สำหรับไตรมาส1/60 แต่เราคาดว่าสินเชื่อทั้งปี 2560 จะเติบโตที่ 4% (ซึ่งเป้าหมายในกรอบล่างของผู้บริหารอยู่ในช่วง 4-6%) ตามอุปสงค์สินเชื่อจะปรับตัวเพิ่มขึ้นในครึ่งหลังปี 2560 จากโครงการสาธารณูปโภคที่เริ่มดำเนินการก่อสร้าง และการลงทุนของรัฐวิสาหกิจ เราประมาณการส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยเชิงอนุรักษ์นิยม 2560 ที่ 2.2% (ต่ำกว่าเป้าหมายของธนาคารที่ 2.3%) เนื่องจากเราคาดว่าการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้น เราคงประมาณการค่าธรรมเนียมเติบโตที่ 6.8% (สูงกว่าเป้าหมายของ BBL ที่ 5%) ซึ่งได้แรงหนุนจากยอดขายประกันภัยและการบริหารจัดการสินทรัพย์, การปริวรรตเงินตราต่างประเทศ, และค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้องกับสินเชื่อ


NPL ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยปี 2560...และยังอยู่ในระดับควบคุมได้

จากการคาดการณ์สภาพเศรษฐกิจโดยรวมที่ปรับตัวดีขึ้นในครึ่งหลังปี 2560 เราคาด BBL จะยังคงระดับสัดส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ต่อสินเชื่อรวมสูงกว่าปี 2559 ไม่มากนัก โดยสัดส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ต่อสินเชื่อรวมอยู่ที่ 3.5% ในปลายเดือนมี.ค. 2560 เพิ่มขึ้นจาก 3.2% จากสิ้นปี 2559 ในขณะที่อัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อหนี้ที่
ไม่ก่อให้เกิดรายได้ในปลายเดือนมี.ค. 2560 ยังคงอยู่ในระดับสูงที่ 160% เราไม่ได้กังวลในเรื่องของคุณภาพสินทรัพย์ของ BBL เนื่องจาก 60% ของพอร์ตการลงทุนประกอบด้วยสินเชื่อบรรษัทและสินเชื่อต่างประเทศที่มีงบการเงินและสภาพคล่องเข้มแข็งกว่าสินเชื่อเอสเอ็มอีและสินเชื่อรายย่อย


พร้อมขยายฐานธุรกิจหากเศรษฐกิจดีขึ้นครึ่งหลังปี 2560

หาก GDP ปรับตัวเพิ่มขึ้นในครึ่งหลัง BBL น่าจะได้ประโยนช์มากสุดในกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่เนื่องจากธนาคารมีเครือข่ายต่างประเทศมากสุดและยังมีความสามารถในการอำนวยความสะดวกลูกค้าไทยที่จะลงทุนต่างประเทศ โดยปัจจุบันธนาคารมีความสามารถในการปล่อยสินเชื่อสูงสุด/ราย (Single lending limit) มากสุดในบรรดาสถาบันการเงินไทย

นอกจากนี้ BBL ยังเน้นพัฒนาการลงทุนในระบบดิจิตอลแบงค์กิ้ง ทั้งนี้เราคาดว่าจะมีค่าใช้จ่ายปีในการพัฒนาระบบต่อเนื่องปีละ 3 พันล้านบาท ในช่วงปี 2560-2561 เพื่อขยายระบบดิจิตอลแบงค์กิ้ง/ฟินเทค ดังนั้นเราคาดอัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้ปี 2560 อยู่ที่ 49% ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายของผู้บริหารที่ 45% (แต่ต่ำกว่าปีก่อนเล็กน้อยที่อยู่ที่ 50%)