'ต่างชาติ' ตุนแอดวานซ์ ดักกำไร

ตามที่บริษัทแอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) รายงานผลประกอบการงวดไตรมาสแรกของปีนี้ออกมา มีกำไรอยู่ที่ 7,692 ล้านบาท เพิ่มขึ้น18.9% จากไตรมาส 4 ปี2559 และลดลง 4.7% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และถือว่าดีกว่าที่นักวิเคราะห์ในตลาดได้คาดการณ์ไว้ ส่งผลให้มีแรงซื้อหุ้นเข้ามาต่อเนื่อง

ทั้งนี้ หากพิจารณาข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์พบว่าช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา นอมินีต่างชาติได้ทยอยเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นแอดวานซ์อย่างต่อเนื่อง ประกอบด้วย ลิตเติ้ลดาวน์ นอมินี ถือหุ้นเพิ่ม 54.64 ล้านหุ้น ส่งผลให้ถือเพิ่มเป็น 92.69 ล้านหุ้น จีไอซี ถือเพิ่มขึ้น 3.20ล้านหุ้น ทำให้ถือหุ้นเพิ่มเป็น 42.83 ล้านหุ้น เชส นอมินี ถือเพิ่ม 0.75ล้านหุ้นทำให้ถือหุ้นเป็น41.35ล้านหุ้น สเตรท สตรีทแบงก์ยุโรป ถือเพิ่ม 1.16 ล้านหุ้นทำให้ถือหุ้นเพิ่มขึ้นเป็น 36.73 ล้านหุ้น สเตรท สตรีท แอนด์ ทรัสต์ ถือเพิ่ม 1.08 ล้านหุ้น ทำให้ถือหุ้น26.30 ล้านหุ้น และ เอชเอสบีซี(สิงคโปร์)นอมินี ถือเพิ่ม 0.27ล้านหุ้นทำให้ถือหุ้นเพิ่มเป็น 19.99 ล้านหุ้น

ส่วนความเคลื่อนไหวราคาหุ้นในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ราคาหุ้นแอดวานซ์ เพิ่มขึ้น 10% จากราคา 158 บาทเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 175 บาท ขณะที่ราคาสูงสุดอยู่ที่ 181 บาท ซึ่งเป็นราคาสูงสุดในรอบ 7เดือนขณะที่หุ้นกลุ่มไอซีทีปรับตัวขึ้นเพียง 2.45%

นอกจากนี้ เมื่อพิจารณาในเชิงพื้นฐานพบว่า นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ ยังคงแนะนำให้ซื้อหรือถือลงทุน หลังจากรายงานผลประกอบการงวดไตรมาสแรก แม้ราคาจะปรับตัวเพิ่มขึ้นมายืนในระดับสูง

บล.บัวหลวง ประเมินว่ากำไรไตรมาส 1 ปี2560 ออกมาสูงกว่าที่คาดก่อนหน้าเนื่องจากค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่ต่ำกว่าคาด (โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายด้านการตลาด) แต่เห็นปัจจัยลบในแง่ของรายได้ในไตรมาส 1 ปี2560 ซึ่งได้แก่ รายได้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ต่ำกว่าคาด (ซึ่งเติบโตในอัตราที่ชะลอตัวลงจากปีก่อน) การพลิกกลับไปเป็นจำนวนผู้ใช้บริการรายใหม่สุทธิที่ติดลบ การลดลงของส่วนแบ่งตลาดของทั้งรายได้บริการและจำนวนผู้ใช้บริการ และจำนวนผู้ใช้บริการรายใหม่สุทธิของธุรกิจบรอดแบนด์ประจำที่ซึ่งชะลอตัวลง ถึงแม้ว่าบริษัทจะเปลี่ยนกลยุทธ์โดยหันมาเน้นทำตลาดลูกค้าโพสต์เพด (จากก่อนหน้าที่มุ่งไปยังลูกค้าพรีเพด) แต่ยังคงไม่แน่ใจว่าADVANC จะสามารถดึงกลับส่วนแบ่งรายได้บริการโพสต์เพดกลับมาได้ในระยะสั้นจนถึงระยะกลางหรือไม่ เนื่องจากการแข่งขันลูกค้าโพสต์เพดที่จะกลับมารุนแรงมากขึ้น ยังคงคำแนะนำ “ถือ” เพื่อรอรับอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ 4%

ด้านบล.เคทีบี(ประเทศไทย) ระบุว่า ฝ่ายวิจัยได้ปรับคาดการณ์กำไรสุทธิปีนี้ขึ้นเป็น 29,400 ล้านบาท จากเดิม 28,700 ล้านบาท จากแนวโน้มค่าใช้จ่ายด้านการตลาดที่ลดลง หลังผลประกอบการในไตรมาส 1 สะท้อนถึงการควบคุมค่าใช้จ่ายของ ADVANC ที่ดีขึ้น อีกทั้งการทำแคมเปญส่วนลดค่าเครื่องมีน้อยลง ด้านรายได้จากการให้บริการ คาดยังคงสามารถเติบโตได้เล็กน้อยที่ประมาณ เพิ่ม2%จากปีก่อนเนื่องจากเทรนด์การใช้งาน data (non-voice revenue) ที่เพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ ADVANC ยังคงมีแรงกดดันจากต้นทุนการให้บริการที่เพิ่มขึ้นจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม ฝ่ายวิจัย ยังคงมีมุมมองในเชิงบวกต่อการดำเนินงานระยะยาวของ ADVANC จากเทรนด์การใช้งานอินเทอร์เน็ตที่สูงขึ้น