HMPRO - ซื้อ

HMPRO - ซื้อ

มีแนวโน้มขยับขึ้นไปซื้อขายที่ PER ที่สูงขึ้น

ประเด็นการลงทุน

แม้ยอดขายชะลอตัว แต่ปี 2560 จะเป็นอีกหนึ่งปีที่ HMPRO จะสามารถทำกำไรเติบโตได้สูงถึง 17% หนุนโดยอัตรากำไรขั้นต้นที่ขยายตัว เราคาดกำไรเฉลี่ยต่อปีในช่วงสามปีข้างหน้าอยู่ที่ 18.6%, ปี 2560-62 ซึ่งสูงกว่าในช่วงปี 2557-59 ที่ขยายตัวเพียง 10.4% ดังนั้น เรามองว่าบริษัทควรจะซื้อขายที่ระดับ PER ที่สูงกว่าในช่วงปี 2557-59 ที่อยู่ที่ 29 เท่า ทั้งนี้ ปัจจุบัน HMPRO ซื้อขายที่ PER 26.4 เท่าปี 2560 เราจึงมองว่าค่อนข้างถูก


ยอดขายสาขาเดิมชะลอตัว

ผู้บริหารมีมุมมองว่าการบริโภคในประเทศยังไม่ฟื้นตัว และคาดว่าจะชะลอตัวต่อเนื่องในปีนี้แม้ความมั่นใจของผู้บริโภคขยับขึ้นมาติดต่อกันถึงสี่เดือน และสูงสุดในรอบ 24 เดือนในเดือนมีนาคมก็ตาม ยอดขายสาขาเดิมยังคงชะลอตัวและคาดจะยังไม่ดีขึ้นจนถึงครึ่งหลังปี 2560 เนื่องจากการจับจ่ายชะลอตัวและการแย่งยอดขายกันเองจากการเปิดสาขาใหม่ในกรุงเทพฯ แม้ตลาดอาจปรับลดยอดขายสาขาเดิมตามมุมมองของผู้บริหาร แต่เราคาดอาจมีการปรับประมาณการลงเพียงเล็กน้อย เนื่องจากตลาดประเมินต่ำอยู่แล้ว เราคาดยอดขายสาขาเดิมลดลง 0.4% และยอดขายรวมเติบโต 8% ในปี 2560 ขณะที่ตลาดคาดเติบโต 11%


อัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้นแข็งแกร่ง

สินค้าเฮาส์แบรนด์เป็นปัจจัยหลักหนุนให้อัตรากำไรขั้นต้นขยายตัวในปีนี้ แม้ในไตรมาส 1/60 ที่สัดส่วนสินค้าเฮาส์แบรนด์ยังไม่เปลี่ยนแปลง YoY ที่ 19.1% แต่อัตรากำไรขั้นต้นสูงขึ้น 0.97% YoY เนื่องจากอัตรากำไรขั้นต้นของสินค้าเฮาส์แบรนด์ใหม่ที่มีคุณภาพดีขึ้นสูงกว่าอัตรากำไรขั้นต้นของสินค้าเฮาส์แบรนด์เดิม 5% ดังนั้น การขยายตัวของอัตรากำไรขั้นต้น
ในช่วงไตรมาส 2/60-4/60 ดูน่าตื่นเต้น เนื่องจากสัดส่วนสินค้าเฮาส์แบรนด์ที่เพิ่มขึ้นและอัตรากำไรขั้นต้นของสินค้าเฮาส์แบรนด์ใหม่ที่สูงกว่าเดิมจะเป็นสองปัจจัยหลักหนุนกำไรขั้นต้นเติบโต โดย HMPRO มั่นใจว่า สัดส่วนสินค้าเฮาส์แบรนด์เฉลี่ยอยู่ที่ 20% ในปี 2560 ซึ่งหมายถึงว่า สัดส่วนดังกล่าวจะมากกว่า 20% ในครึ่งหลังปี 2560 อย่างไรก็ตาม เรา
ประเมินอย่างอนุรักษ์นิยมว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะสูงขึ้น 0.9% YoY สำหรับไตรมาส 2/60-3/60 และสูงขึ้น 0.6% YoY สำหรับไตรมาส 4/60


คาดอัตรากำไรขั้นต้นเป็นขาขึ้นต่อเนื่อง

คุณภาพสินค้าเฮาส์แบรนด์ที่ดีขึ้นช่วยเพิ่มความจงรักภักดีต่อตราสินค้าและส่งผลให้ลูกค้ากลับมาซื้อใหม่มากขึ้นตามคาด เนื่องจากสินค้าเหมาะกับความต้องการของลูกค้าโฮมโปรซึ่งส่วนใหญ่เป็นลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูง เราคาดสัดส่วนสินค้าที่บริษัทเป็นเจ้าของแบรนด์เองจะสูงขึ้น 1% ต่อปี และจะบรรลุเป้าหมายระยะยาวที่ 25% ในปี 2565 ซึ่งน่าจะช่วยให้อัตรากำไร
ขั้นต้นของโฮมโปรขยายตัวขึ้นปีละ 0.15% นอกจากนี้มีโอกาสที่อัตรากำไรขั้นต้นจะเพิ่มได้เร็วกว่าที่คาด เนื่องจากบริษัทมีแผนที่จะอัพเกรดสินค้าเฮาส์แบรนด์เดิม (ปัจจุบันคิดเป็น 75% ของสินค้าเฮาส์แบรนด์ทั้งหมด หรือคิดเป็น 14% ของยอดขายรวม) ให้เป็นสินค้าที่มีคุณภาพที่ดีขึ้นทั้งหมด อย่างไรก็ตาม เนื่องจากบริษัทยังไม่ระบุระยะเวลาในการปรับ
เราจึงใช้สัดส่วนเฮาส์แบรนด์เดิมที่ 14% ในประมาณการของเรา