(สกู๊ป) "หมู ปากน้ำ"ความหวังใหม่แห่งวงการสอยคิวไทย

(สกู๊ป) "หมู ปากน้ำ"ความหวังใหม่แห่งวงการสอยคิวไทย

จบไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับการแข่งขันสนุกเกอร์ชิงแชมป์โลกรายการ เบตเฟรด เวิลด์ สนุกเกอร์ แชมเปียนชิพ 2017 ที่ครูซิเบิล เธียเตอร์ เมืองเชฟฟิลด์ ประเทศอังกฤษ

     ซึ่งผลปรากฏว่าแชมป์ตกเป็นของ มาร์ค เซลบี มือ 1 โลกเจ้าถิ่นที่เฉือนเอาชนะ ติง จวิ้นฮุย นักสอยคิวจากจีน 17-15 เฟรม
     อย่างไรก็ตามในการแข่งขันทัวร์นาเมนต์ดังกล่าว มีนักกีฬาไทยรายหนึ่งซึ่งเชื่อว่าก่อนหน้านี้หลายคนไม่รู้จักเขา ได้ไปสร้างชื่อเสียง นั่นก็คือ “หมู ปากน้ำ” หรือ นพพล แสงคำ ด้วยการนำเพลง “แสงสุดท้าย” ของวงบอดีสแลม มาเป็นเพลงเปิดตัวก่อนการแข่งขันกับ นีล โรเบิร์ตสัน อดีตแชมป์โลกปี 2010 พร้อมก้มกราบผู้ชมทั้งสนามด้วย
     โดยถึงแม้ว่าผลการแข่งขัน นักกีฬาชาวไทยจะพ่ายไป 4-10 เฟรม ยุติเส้นทางเพียงแค่รอบ 32 คนสุดท้ายเท่านั้น แต่เขาก็สร้างประวัติศาสตร์ เป็นนักสนุกเกอร์ไทยคนที่ 4 ต่อจาก ต๋อง ศิษย์ฉ่อย (รัชพล ภู่โอบอ้อม), ต่าย พิจิตร (ชูชาติ ไตรรัตนประดิษฐ์) และ แจ็ค สระบุรี (เดชาวัต พุ่มแจ้ง) ที่ได้มีโอกาสเข้าไปเล่นใน ครูซิเบิล เธียเตอร์ สังเวียนสอยคิวที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก
     แต่ถึงกระนั้นกว่าจะมาถึงจุดนี้ หมู ปากน้ำ ต้องผ่านอุปสรรคมามากมาย ทั้งการเอาชนะคู่ต่อสู้ รวมถึงเอาชนะตัวเองเพื่อก้าวขึ้นมาเป็นนักสนุกเกอร์ระดับอาชีพ
เริ่มต้นเส้นทางสอยคิว
     นพพล เป็นคนตำบลปากน้ำ จังหวัดสมุทรปราการโดยกำเนิด โดยพ่อทำกิจการโต๊ะสนุกเกอร์ แต่เจ้าตัวไม่เคยสนใจในกีฬานี้ กระทั่งอายุ 13 ปี ก็เริ่มฝึกซ้อม ซึ่งก็ประสบความสำเร็จได้เป็นตัวแทนการแข่งขันสนุกเกอร์นักเรียนภาคกลางได้เข้าไปแข่งขันในรอบสุดท้ายพร้อมกับคว้ารองแชมป์มาครองในปี 2551 จากนั้นก็เข้าสู่วงการสนุกเกอร์อาชีพอย่างเต็มตัวในเวลาต่อมา
     การที่เลือกเป็นนักสนุกเกอร์อย่างเต็มตัว ทำให้ หมู ต้องเลิกเรียนตั้งแต่ชั้นมัธยมต้น เพื่อทุ่มเทเวลาให้กับการฝึกซ้อมอย่างจริงจัง ซึ่งส่งผลให้เขาต้องละทิ้งชีวิตวัยรุ่น อย่างไรก็ตาม เขาก็ก้าวผ่านจุดนั้นมาได้ และมุ่งสมาธิกับการสอยคิวเต็มที่โดยมีไอดอลในดวงใจ คือ รอนนี โอซุลลิแวน นักสนุกเกอร์ชาวสหราชอาณาจักร และอดีตมือ 1 โลก
แชมป์เยาวชนโลก
     หลังจากนั้น หมู ปากน้ำ ภายใต้การสอนของ อาจารย์ หยิก สำโรง (พิสิษฐ์ จันทร์ศรี) และอาจารย์ ต่าย พิจิตร (ชูชาติ ไตรรัตนประดิษฐ์) ก็ทำการแข่งขันอย่างต่อเนื่องในระดับประเทศ จนกระทั่งในปี 2009 เจ้าตัวได้ลองชิมลางในการแข่งขันระดับทวีป เริ่มที่รายการเยาวชนชิงแชมป์เอเซีย ที่ประเทศอินเดีย ซึ่งผลปรากฏว่า หมู คว้าตำแหน่งรองแชมป์มาครอง ซึ่งในปีเดียวกัน นักสอยคิววัย 17 ปี ได้ลงแข่งขันในระดับโลกเป็นครั้งแรก คือรายการ เยาวชนชิงแชมป์โลก ที่ประเทศอิหร่าน และปรากฏว่า เจ้าตัวทำผลงานได้สุดยอดด้วยการเอาชนะ โซฮิว วาฮิดี นักสนุกเกอร์เจ้าถิ่นแบบสุดมันส์ 9-8 เฟรม คว้าแชมป์เยาวชนโลกมาครอง และเป็นนักสอยคิวชาวไทยคนแรกที่คว้าแชมป์รายการนี้ได้
     นอกจากนั้นจากผลงานดังกล่าวทำให้หลายคนเชื่อว่า หมู ปากน้ำ จะเป็นตัวแทนของ ต๋อง ศิษย์ฉ่อย ที่จะพาวงการสนุกเกอร์ไทยกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง
     โดย หมู ให้สัมภาษณ์หลังคว้าแชมป์โลกว่า ไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะไปได้ไกลขนาดเป็นแชมป์โลก ก่อนการแข่งขันตั้งเป้าไว้แค่ผ่านรอบแรกเท่านั้น แต่ทุกครั้งที่ผ่านเข้ารอบก็มีความมั่นใจเพิ่มด้วยเช่นกัน
ก้าวสู่“ครูซิเบิล เธียเตอร์
     หลังจากคว้าแชมป์เยาวชนโลก หมู ปากน้ำ ก็เริ่มเทิร์นโปรเป็นนักสนุกเกอร์อาชีพ โดยครั้งแรกซีซั่น 2010-2011 แต่ไม่ประสบความสำเร็จ จนกระทั่งในปี 2013 เขาได้เริ่มเทิร์นโปรอีกครั้ง และประสบความสำเร็จจนได้
     นักสอยคิวดาวรุ่งคนนี้ ตระเวนแข่งขันสนุกเกอร์ทั้งในระดับประเทศ และระดับโลกเรื่อยมาในฐานะมือโปร จนกระทั่งเมื่อช่วงเดือน มี.ค. ของปีนี้ เขาได้ลงแข่งขันในรายการ “ไชน่า โอเพ่น” ที่โรงยิมเนเซียม มหาวิทยาลัยปักกิ่ง ประเทศจีน ชิงเงินรางวัลรวม 510,000 ปอนด์ หรือกว่า 2.7 ล้านบาท ซึ่งในรอบ 64 คน หมู ที่ตอนนั้นเป็นมืออันดับ 102 ของโลก ต้องพบกับ นีล โรเบิร์ตสัน แชมป์โลก ปี 2010 จากออสเตรเลีย ซึ่งก่อนหน้านี้เคยเจอกันมา 2 ครั้ง ปรากฏว่า หมู แพ้ทั้งสองครั้ง ในรอบ 64 คนสุดท้าย แต่ผลปรากฏว่าในครั้งนี้ นักสนุกเกอร์ดาวรุ่ง พลิกล็อค เอาชนะไปได้ 5-3 เฟรม และผ่านเข้าไปถึงรอบ 8 คนสุดท้ายของรายการนี้ ซึ่งถือว่าเป็นผลงานที่ดีที่สุดของ หมู ในการเป็นนักสนุกเกอร์อาชีพอีกด้วย
     และเมื่อช่วงต้นเดือนที่แล้ว หมู ปากน้ำ ก็ได้ลงแข่งขันสนุกเกอร์ชิงแชมป์โลกรายการ เบตเฟรด เวิลด์ สนุกเกอร์ แชมเปียนชิพ 2017 รอบคัดเลือก ซึ่งก่อนการแข่งขันนั้น เจ้าตัวได้ขอคำปรึกษาจากจิตแพทย์มาตลอดช่วง 6 เดือนก่อนหน้านี้ ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย และมีความมั่นใจมากยิ่งขึ้น ซึ่งในรอบคัดเลือกรอบสุดท้าย ที่นักสอยคิวมือ 72 โลกชาวไทย พบกับ ลี วอล์คเกอร์ จากเวลส์ ซึ่งผลปรากฏว่า หมู พลิกสถานการณ์หลังจากพ่ายไปก่อนในเซสชันแรก กลับมาเอาชนะได้ 10-8 เฟรม พร้อมผ่านเข้ารอบ 32 คนสุดท้ายของรายการดังกล่าวได้สำเร็จ และได้เข้าแข่งขันในสังเวียน ครูซิเบิล เธียเตอร์ เป็นครั้งแรก จนกระทั่งพ่าย นีล โรเบิร์ตสัน ตกรอบในที่สุด
    นักสอยคิววัย 24 ปี กล่าวหลังตกรอบว่า “บางท่านบอกว่ามันอาจจะเป็นเวทีใหญ่เกินไปสำหรับผม มันก็จริงครับ ผมยอมรับ ผมจะถือเป็นประสบการณ์ล้ำค่าที่สุดในชีวิตที่ต้องบอกว่าหาโอกาสแบบนี้ได้ยากมากๆ วันนี้คุณอาจจะไม่ยอมรับในตัวผมและสิ่งที่ผมทำ แต่ผมจะพิสูจน์ให้คุณเห็นนิยามของคำว่า “ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น” มันมีอยู่จริงๆ ครับ”
     และทั้งหมดนี้ คือเส้นทางการเป็นนักสนุกเกอร์อาชีพของ หมู ปากน้ำ หรือ นพพล แสงคำ ที่ต้องแลกมาด้วยหยาดเหงื่อ และหยาดน้ำตา กว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ ซึ่งในอนาคตต้องมาติดตามดูว่าเขาจะสามารถพาตัวเองไปสู่คำว่า “ระดับโลก” ที่เป็นความใฝ่ฝันของเจ้าตัวได้หรือไม่?