'กรุงไทย' จ่อขายหนี้หมื่นล้าน

'กรุงไทย' จ่อขายหนี้หมื่นล้าน

กรุงไทย "จ่อขายหนี้" หมื่นล้าน บอร์ดกังวลเอ็นพีแอลพุ่งให้ศึกษาตั้งเอเอ็มซี มั่นใจทั้งปีสินเชื่อขยายตัวตามเป้าหมายที่ 4-6% ระบุสัญญาณสินเชื่อฟื้นตัวดีขึ้น 

บอร์ดกรุงไทยกังวลเอ็นพีแอลอยู่ในระดับสูงให้หาแนวทางบริหารเพิ่มโดยเฉพาะการขายหนี้เสียให้ศึกษาว่าควรตั้งเอเอ็มซีหรือไม่ด้านผู้บริหารเผยมีแผนขายหนี้ในช่วงไตรมาส 3 ประมาณ 1 หมื่นล้านบาทคาดเอ็นพีแอลขึ้นได้อีกและสูงสุดช่วงไตรมาส 2 แต่ทั้งปีไม่สูงกว่าปัจจุบันที่อยู่ที่ 4.28%

นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะกรรมการ ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า ได้มอบหมายให้ฝ่ายบริหารธนาคารไปบริหารจัดการเรื่องหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้หรือเอ็นพีแอลที่ปัจจุบันยังอยู่ในระดับสูงกว่า 1 แสนล้านบาท โดยให้ไปศึกษาว่าควรจะมีการจัดตั้งบรรษัทบริหารสินทรัพย์หรือเอเอ็มซีขึ้นมาเองหรือไม่หรือขายให้รายอื่นจะต้องดูตามความเหมาะสม

ส่วนเรื่องการจ่ายเงินปันผลที่ผู้ถือหุ้นต้องการให้เพิ่มสัดส่วนการจ่ายเงินปันผลสูงขึ้นนั้น การจ่ายเงินปันผลสามารถเพิ่มและลดได้โดยต้องดูสถานการณ์ของธนาคารเรื่องสภาพคล่องผลการดำเนินงานและเรื่องการลงทุนว่าจะมีการลงทุนเพิ่มขึ้นหรือไม่

ด้านนายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า แนวโน้มเอ็นพีแอลยังคงปรับขึ้นอยู่แต่ปรับขึ้นในอัตราที่ลดลงโดยคาดว่าจะปรับขึ้นไปอยู่ในระดับสูงสุดในช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้ หลังจากนั้น จะปรับลดลงโดยทั้งปีจะพยายามบริหารจัดการไม่ให้อยู่ในระดับที่ต่ำกว่าปัจจุบันซึ่งอยู่ที่ระดับ 4.28%

ทั้งนี้เอ็นพีแอลที่ปรับขึ้นในช่วงไตรมาส 1  ที่ผ่านมานั้น เป็นเอ็นพีแอลในกลุ่มโรงสีข้าวสูงถึง 7 พันล้านบาท โดยปัญหาที่เกิดขึ้นเกิดจากลูกค้าไม่ระบายสินค้าออกมาสู่ตลาด ทำให้ชำระหนี้ให้กับธนาคารไม่ได้ ซึ่งในขณะนี้ธนาคารได้ให้สินเชื่อกับผู้ส่งออกเพื่อมาซื้อข้าวของลูกค้ากลุ่มดังกล่าวโดยตอนนี้ธนาคารกำลังดำเนินการเจรจาและปรับโครงสร้างให้กับลูกค้าซึ่งต้องยอมรับว่าการเจรจาและปรับโครงสร้างต้องใช้เวลา

นายผยงกล่าวว่า ในส่วนการบริหารหนี้ ธนาคารได้ศึกษาขายหนี้ออกไปเหมือนกับธนาคารพาณิชย์เพื่อลดเอ็นพีแอลลงแต่ธนาคารในฐานะเป็นรัฐวิสาหกิจเวลาที่จะดำเนินการสิ่งใด ต้องศึกษาให้รอบคอบเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาหรือข้อผิดพลาดเนื่องจากมีกฎระเบียบข้อบังคับเช่นการขายหนี้ออกไปราคาต้องไม่ต่ำกว่าหลักประกันเป็นต้น

นอกจากนี้ธนาคารยังคงต้องนโยบายระดับสูงต่อไปเพื่อรองรับความผันผวนของภาวะเศรษฐกิจและรักษาอัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพ (coverate ratio) ในปีนี้ให้อยู่ในระดับ 120% จากปัจจุบันอยู่ที่ 112%

ขณะที่สินเชื่อปีนี้ยังมั่นใจว่าจะเป็นไปตามเป้าเติบโต 4-6% หลังเดือนมี.ค.เห็นสัญญาณการฟื้นตัวของสินเชื่อเป็นบวกในเดือนแรกหลังเดือนม.ค.และ ก.พ.หดตัวไปโดยมาจากความต้องการสินเชื่อของภาครัฐที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนแต่ในเดือนเม.ย.มีวันหยุดหลายวันอาจจะชะลอลงไปบ้างแต่โดยรวมแล้วความต้องการสินเชื่อยังมีอยู่ซึ่งยังเป็นสินเชื่อรายใหญ่รายย่อยและเอสเอ็มอี

ด้านนายปริญญา พัฒนภักดี รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส ผู้บริหารสายงานปรับโครงสร้างหนี้และบริหารทรัพย์สิน ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่าธนาคารอยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมการขายหนี้เสีย เพื่อลดเอ็นพีแอลโดยมีแผนจะขายประมาณ 1 หมื่นล้านบาท ช่วงไตรมาส 3 ปีนี้ ซึ่งจะจัดแบ่งขายเป็นกองๆ และเปิดขายให้กับเอเอ็มซีทั่วไป

 “บอร์ดค่อนข้างกังวลกับเอ็นพีแอลจึงให้ศึกษาเรื่องการขายหนี้ซึ่งที่ผ่านมาธนาคารมีการขายหนี้ออกไปบ้างแต่ไม่ค่อยขายจำนวนมากเหมือนครั้งนี้เนื่องจากเป็นรัฐวิสาหกิจ จะต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ของรัฐวิสาหกิจด้วย ซึ่งจะมีกระบวนที่มากกว่าการขายหนี้ของธนาคารพาณิชย์ ในส่วนการจัดตั้งเอเอ็มซีนั้นจะต้องมีการศึกษาข้อดีข้อเสียก่อน โดยเปรียบเทียบกับการขายให้กับเอเอ็มซีรายอื่น ซึ่งยังบอกไม่ได้ว่าอย่างไหนดีกว่ากันต้องรอผลการศึกษาก่อน”