แฉเงื่อนงำ! ส่อแห้ว8หมายจับ 'ตร.-ครู-แม่เล้า' คดีซื้อกามฉาว

แฉเงื่อนงำ! ส่อแห้ว8หมายจับ 'ตร.-ครู-แม่เล้า' คดีซื้อกามฉาว

เบื้องลึก..แฉเงื่อนงำ! แห้ว8หมายจับ "ตร.-ครู-แม่เล้า" คดีซื้อกาม-รุมโทรมที่แม่ฮ่องสอน ด้านเหยื่อเผยฤดูหนาวเป็นช่วงไฮซีซั่น ขรก.แห่เสพกามฉาว

เมื่อวันที่ 30 เมษายน พล.ต.ต.ชูรัตน์ ปานเง่า รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 (รองผบช.ภ.5) ได้เดินทางโดยเครื่องบิน มาถึงท่าอากาศยานแม่ฮ่องสอน ในเวลา 09.30 น. จากนั้นได้เดินทางไปตรวจสอบสำนวนการสอบสวนที่ สภ.น้ำเพียงดิน ต.ผาบ่อง อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน และในภาคบ่ายจะเดินทางไป ตรวจสอบสำนวนสอบสวนที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยจากการสอบถามไปยัง พ.ต.อ.ศตศักดิ์ พิมลทิพย์ ผกก.สภ.เมืองแม่ฮ่องสอน ว่าได้มีการออกหมายจับแล้วหรือยัง ก็ได้รับคำตอบว่ายังไม่มีการออกหมายจับ แต่เชิญตัวมาสอบปากคำเท่านั้น

ความคืบหน้าเกี่ยวกับคดี ที่มีข้าราชการ คนมีสีเข้าไปพัวพันเรื่องซื้อบริการจากเด็กสาวค้าประเวณี ล่าสุดพบว่า ทางพนักงานสอบสวนตำรวจภูธรภาค 5 ได้มีการเรียกตัวผู้ถูกกล่าวหาและซัดทอดว่า ได้ร่วมซื้อประเวณีกับหญิงบริการ มาสอบสวนที่ห้องผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งคนที่ถูกเรียกสอบปากคำ ประกอบด้วย ตำรวจภูธรใน อ.แม่สะเรียง มี 6คน ยอมรับว่าได้ซื้อบริการจริง จำนวน 1 คน แล้วซัดทอดไปหาเพื่อนอีกจำนวน 2 คน ส่วนอีก 3 คนที่เหลือ ยังให้การปฏิเสธ (กรณีรุมโทรม) ในส่วนของตัวเมืองแม่ฮ่องสอน มีนาย อ., พ.ต.ท.ระดับรองผกก.,สิบเวรไม่ทราบชื่อ ส่วนครูให้การปฏิเสธ แต่เด็กจำแม่น และรวมไปถึงแม่เล้าอีก 2 คน คือ น้อง จ. กับ น้อง ต.

ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่า กรณีการออกหมายจับผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมด ซึ่งมีทั้งตำรวจ ข้าราชการพลเรือน ครูบาอาจารย์ และแม่เล้า ได้มีการประกาศออกสื่อจากส่วนกลางตั้งแต่เมื่อวันวานที่ผ่านมา (29 เม.ย.)

และล่าสุด เมื่อค่ำวานนี้ ห้วงเวลาเกือบ 2 ทุ่ม ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ก็ยืนยันต่อสื่อว่า จะมีการออกหมายจับผู้ถูกกล่าวหาจริง ภายในวันนี้ (30 เม.ย.) แต่กลับไม่มีการออกหมายจับแต่อย่างใด สิ่งที่น่าสังเกตอีกประการหนึ่งก็คือ ได้มีการพยายามปิดข่าวต่อสื่อมวลชนและไม่ยอมให้ข้อมูลใดใดต่อสื่อหรือไม่ คาดว่าเพื่อป้องกันสื่อติดตาม แต่จากการสืบทราบของสื่อมวลชน พบว่า ตั้งแต่เมื่อค่ำวานนี้ แม่เล้า ที่มีรายชื่อในการออกหมายจับ 2 คน คือ น้อง จ. และ น้อง ต. ได้มีเจ้าหน้าที่เดินทางไปหาและบอกให้รับทราบล่วงหน้าหรือไม่ ก่อนที่จะออกหมายจับไปแล้ว และเด็กแม่เล้า ทั้ง 2 คนยืนยันต่อเพื่อนสนิท ว่าทางเจ้าหน้าที่ได้มาคุยล่วงหน้าแล้ว และรับปากว่าจะช่วยเหลือไม่ให้ติดคุกหรือไม่

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่าสนใจในกรณีข้าราชการซื้อขายบริการทางเพศกับเด็กสาวในแม่ฮ่องสอน ก็คือ ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวออกมาตำรวจภาค5 ว่า อาจจะมีการขยายผลสอบไปถึง ตำรวจระดับผกก.นายหนึ่ง และรองผบก.อีกนายหนึ่งหรือไม่ ที่มีส่วนในการซื้อบริการเด็กสาวขายบริการหรือไม่ และรวมไปถึงข้าราชการระดับสูงของกระทรวงมหาดไทยนายหนึ่ง ที่ย้ายออกไปจากจังหวัดแม่ฮ่องสอนไปแล้วเมื่อปลายปี 2559

แต่จนถึงเที่ยงวันนี้ หมายจับยังไม่ได้ออกแต่อย่างใด และกลับมาการเรียกผู้ที่จะถูกออกหมายจับมาสอบปากคำ และแม่เล้า ในห้วงเวลาเดียวกัน ทำให้หลายฝ่ายรวมไปถึงประชาชนในเมืองแม่ฮ่องสอน มองว่า อาจจะพยายามมีการช่วยเหลือข้าราชการระดับสูง ของ สตช. และรวมไปถึงข้าราชการระดับสูงของกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทยหรือไม่ ด้วยการสั่งให้ผู้ถูกกล่าวหา ไม่ต้องเอ่ยชื่อไปถึงผู้ที่ใช้บริการทางเพศกับเด็กสาว ที่ร่วมหลับนอนด้วยกัน เพื่อกันคนเหล่านี้ออกจากสำนวนข้อเท็จจริงหรือไม่

ทั้งนี้ หากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสอบสวน ที่ได้รับการแต่งตั้งจาก ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ให้ควบคุมคดีนี้อย่างตรงไปตรงมา ผลการสอบสวนที่ได้ อาจจะทำให้สังคมต้องตกตะลึง เนื่องจากผู้ที่ใช้บริการทางเพศจะเต็มไปด้วย หัวหน้าส่วนข้าราชการระดับสูงแทบทั้งสิ้น ซึ่งการสอบปากคำเด็กสาวผู้ให้บริการ จะต้องสอบย้อนหลังไปตั้งแต่ปี 2556 เป็นต้นมา เนื่องจากเรื่องดังกล่าว เริ่มต้นจากคดีของ “ดาบยุทธ” ในปีดังกล่าว

อดีตเด็กสาวที่เคยค้าประเวณี (ขอสงวนนาม) เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวว่า ในห้วง 2-3 ปีที่ผ่านมา การค้าประเวณีจะรุ่งเรืองมาก และเด็กที่ขายบริการจะมีไม่ต่ำกว่า 30 คน ซึ่งเด็กเหล่านั้นจะวนเวียนคอยรองรับให้บริการแก่ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มที่เดินทางมาตรวจราชการ โดยเฉพาะฤดูหนาว ซึ่งเป็นช่วงไฮซีซั่น จะมีข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ หลายกระทรวง พากันเดินทางมาตรวจงานราชการ แต่แท้ที่จริง มาเพื่อเที่ยวตามแหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง อาทิ เมืองปาย, ปางอุ๋ง,ทุ่งบัวตอง เป็นหลัก ส่วนเรื่องตรวจงานราชการเป็นเรื่องรอง

โดยในการเดินทางมาตรวจราชการในครั้งนี้ มันจะมีธรรมเนียมอยู่แล้ว ว่า เมื่อมาถึงแม่ฮ่องสอน ต้องถึงแม่ฮ่องสอน โดยพุ่งไปที่การรับประทานขนมหวานเป็นอันดับแรก จึงมีการวิ่งจัดหาเด็กสาวไปบริการทางเพศให้แก่ข้าราชการเหล่านั้น และรวมถึงผู้ติดตาม

อดีตเด็กสาวที่เคยค้าประเวณี ระบุต่อไปว่า หากจะมีการสอบสวนผู้ถูกกล่าวหา โดยเฉพาะแม่เล้า และรวมไปถึงเด็กสาวที่ร่วมบริการทางเพศ อย่างตรงไปตรงมา ไม่ไว้หน้าใครทั้งสิ้น คิดว่า ข้าราชการระดับสูงและระดับกลางๆ ที่เดินทางมารับตำแหน่งในแม่ฮ่องสอน และ ที่เดินทางมาตรวจราชการในจังหวัดแม่ฮ่องสอน ร้อยละ 90 จะต้องเคยใช้บริการทางเพศกับเด็กสาวที่ค้าประเวณีทั้งสิ้น จึงมีทางเป็นไปได้ที่จะมีการพยายามช่วยเหลือกันหรือไม่

แต่ในเรื่องจะมีการใช้เงินมาปิดปากแม่เล้า และเด็กสาวขายบริการ ว่าไม่ต้องเอ่ยชื่อ หรือให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวนว่า มีข้าราชการชั้นผู้ใหญ่คนใดบ้างที่มาใช้บริการ เพื่อปกป้องไม่ให้ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่เหล่านั้น เสียชื่อและอนาคต จนต้องออกจากราชการ เรื่องดังกล่าว ไม่สามารถล้วงลึกไปถึงตรงนั้นได้ เพราะเป็นการตกลงกันระหว่างคนสองกลุ่มเท่านั้น