"พฤกษา"ชู4กลยทธ์ดิจิทัลรั้งแชมป์ยอดขาย

"พฤกษา"ชู4กลยทธ์ดิจิทัลรั้งแชมป์ยอดขาย

“พฤกษา” วางกลยุทธ์ 4.0 รับมือยุคดิจิทัล รั้งตำแหน่งผู้นำตลาดบ้าน ตั้งเป้าดันสินค้าไฮแวลู เฉียดหนึ่งในสามของมูลค่าขาย หารือ“ไลน์ ประเทศไทย” รุกแอพบริการหลังการขาย ตั้งเป้าไตรมาสสองเปิด 23 โครงการ 1.7 หมื่นล้าน

นายปิยะ ประยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจพฤกษา เรียลเอสเตท บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าปีนี้จะเดินหน้ากลยุทธ์ “พฤกษา 4.0” มุ่งนำนวัตกรรมใหม่ๆมานำเสนอ เพื่อรักษาความเป็นผู้นำยอดขายในตลาดอสังหาริมทรัพย์ 

ทั้งนี้ เพื่อตอบโจทย์ความสามารถในการแข่งขันยั่งยืน 4 ด้าน ได้แก่  1.Smart-Product พัฒนาสินค้าเพื่อเพิ่มมูลค่า เช่น การออกแบบฟังก์ชันการใช้งานภายในบ้านให้ลูกค้าได้รับความสะดวกสบาย ลดการใช้พลังงานช่วยให้ลูกค้าประหยัดค่าใช้จ่าย 2.Smart - Marketing เน้นการทำตลาดโดยใช้ Digital Marketing เพื่อให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้าในยุคดิจิทัล 3.Smart-Home Application พัฒนา Home Service Application ที่รวบรวมบริการต่างๆ แบบครบวงจร และ 4.Smart –Construction นำนวัตกรรมการก่อสร้างที่ทันสมัยระดับโลกมาใช้ในการก่อสร้าง เช่น นวัตกรรมพฤกษา พรีคาสท์ จากเยอรมนี

นอกจากนี้มีเป้าหมายเพิ่มสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่ม (high value) สัดส่วน 30-50% ของมูลค่าการขาย โดยปีนี้ตั้งเป้าสัดส่วนเพิ่มเป็น 15% ของมูลค่าการขายรวมที่ 5.2 หมื่นล้านบาท

ทางด้านสมาร์ท มาร์เก็ตติ้ง ตั้งเป้าที่จะเข้าถึงลูกค้ากลุ่มนี้เพิ่มจาก 18% เป็น 30% ของฐานลูกค้าที่ปัจจุบันในปีนี้ โดยจะใช้งบดิจิทัล มาร์เก็ตติ้งสัดส่วน 1% ของมูลค่าการขายทั้งปี

สำหรับสมาร์ท โฮม แอพพลิเคชั่น ขณะนี้อยู่ระหว่างหารือกับ ไลน์ ประเทศไทย เพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงบริการหลังการขายของพฤกษาผ่านแอพพลิเคชั่น ปัจจุบันมีลูกค้ากว่า 600 โครงการ จำนวน 2 แสนยูนิต หรือจำนวนลูกบ้านกว่า 6 แสนราย

นายปิยะ กล่าวว่าไตรมาสสองจะเปิดตัว 23 โครงการ มูลค่า 1.7 หมื่นล้านบาท ประกอบด้วย ทาวน์เฮ้าส์ 15 โครงการ บ้านเดี่ยว 6 โครงการ และคอนโดมิเนียม 2 โครงการ จากเป้าหมายการเปิดตัวปีนี้ 72โครงการ มูลค่าลงทุนกว่า 6 หมื่นล้านบาท

“มองว่ายอดขายไตรมาสสองจะปรับตัวดีขึ้น จากไตรมาสแรกเติบโต 10% ใกล้เคียงกับภาพรวมอสังหาฯที่เติบโต 14 % นอกจากนี้สถานการณ์ตลาดอสังหาฯไตรมาสสองและสาม มักจะมียอดขายมากกว่าไตรมาสแรก” 

ทั้งนี้ ไตรมาสแรกที่ผ่านมาเปิดตัวโครงการไปแล้ว 11 โครงการ ขณะที่ปีนี้คาดว่าจะมียอดโอน 1.5 หมื่นล้านบาท จากยอดขายที่รอรับรู้รายได้ (แบ็คล็อก) กว่า 2.4 หมื่นล้านบาท ส่วนยอดการปฏิเสธสินเชื่อจากสถาบันการเงินของพฤกษาปีนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ 8% จากความพยายามช่วยเหลือลูกค้าจับคู่สถาบันการเงินที่มีนโยบายปล่อยสินเชื่อให้แต่ละรายตามประวัติทางการเงินของลูกค้า และหันมาทำอสังหาฯกลุ่มพรีเมียมมากขึ้น