แบงก์สหรัฐเมินทำธุรกรรมธุรกิจกัญชา

แบงก์สหรัฐเมินทำธุรกรรมธุรกิจกัญชา

ผู้ประกอบการกัญชาสหรัฐครวญ ธุรกิจโตเร็ว แต่การจัดการต้องใช้เงินสดทั้งหมด สถาบันการเงินไม่อยากทำธุรกรรมด้วย

แม้สหรัฐจะอนุญาตให้ใช้กัญชาทางการแพทย์ได้ใน 29 รัฐ และใช้เพื่อสันทนาการได้ใน 8 รัฐ แต่กฎหมายรัฐบาลกลางยังไม่เห็นชอบ ดังนั้นธนาคารส่วนใหญ่จึงปฏิเสธทำธุรกรรมกับอุตสาหกรรมกัญชา ทำให้ร้านค้ากัญชาทั่วประเทศจำเป็นต้องดำเนินการด้วยเงินสดเท่านั้น และร้านค้าต้องเก็บเงินสดก้อนโตไว้หลังร้าน ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด

ผู้ปลูกกัญชารายหนึ่งทางตอนใต้ของแคลิฟอร์เนีย เล่าว่า เขาต้องเก็บเงินหลายพันดอลลาร์ไว้ในตู้เซฟ ภายใต้การเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง เช่นเดียวกับนายจัสติน คาลวิโน เกษตรกรผู้ปลูกกัญชาทางตอนเหนือของแคลิฟอร์เนีย ที่โอดครวญว่า เกษตรกรอย่างเขาไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากต้องใช้เงินสดอย่างเดียวซึ่งยุ่งยากมาก และก่อนหน้านี้ เขาเคยถูกลูกจ้างฉกเงิน 40,000 ดอลลาร์ที่ซุกไว้ใต้เตียงทำให้เสียใจมาก

สแตนดาร์ดแอนด์พัวร์ บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือ รายงานว่า สถาบันการเงินสหรัฐเกือบ 12,000 แห่งมีเพียง 300 แห่งเท่านั้น ส่วนใหญ่เป็นธนาคารและสหกรณ์ท้องถิ่นที่เต็มใจทำงานกับลูกค้าในธุรกิจกัญชา แม้ธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก ที่ต้องการทำธุรกรรมกับธนาคารหรือระบบการเงินออนไลน์มีมากขึ้นทุกที แต่ธนาคารก็ยังไม่มั่นใจเนื่องจากบริษัทเหล่านี้เสี่ยงที่จะถูกปิดได้ตลอดเวลา

บรรดาผู้ประกอบการกัญชาจึงพยายามหานวัตกรรมเอาตัวรอดจากข้อจำกัด ให้สามารถจัดการกับเงินก้อนโตได้ บางคนหันไปใช้บิตคอยน์สกุลเงินเสมือน ขณะที่อีกหลาย ๆ คนพัฒนาเครื่องมือการเงินที่ซับซ้อนขึ้น เช่น ตั้งบริษัทใหม่เป็นบริษัทบริการธุรกิจซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับกัญชาเลย

อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญมองว่า เร็ว ๆ นี้สถานการณ์ต้องเปลี่ยนแปลงไปอย่างแน่นอน นายทรอย เดย์ตัน ผู้ร่วมก่อตั้งอาร์ควิว กรุ๊ป บริษัทที่ปรึกษาชั้นนำด้านกัญชา กล่าวว่า รัฐบาลกลางและธนาคารจะไม่นิ่งดูดายอีกต่อไป แต่ตอนนี้ธุรกิจกัญชาโตเร็วเกินกว่าที่ธนาคารจะผลีผลามเข้ามารับความเสี่ยง