คปภ.สั่ง 'สัจจะประกันภัย' หยุดชั่วคราว

คปภ.สั่ง 'สัจจะประกันภัย' หยุดชั่วคราว

บอร์ด คปภ.สั่ง“สัจจะประกันภัย” หยุดรับประกันวินาศภัยเป็นการชั่วคราว กำหนดมาตรการคุมเข้มและห้ามรับลูกค้ารายใหม่ ย้ำบริษัทยังมีหน้าที่ต้องจ่ายค่าเคลมประกันสำหรับลูกค้าเดิม

ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (บอร์ดคปภ.) ครั้งที่ 4/2560 เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2560 ที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้บริษัท สัจจะประกันภัย จำกัด (มหาชน) หยุดรับประกันวินาศภัยเป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 28 เมษายน 2560 เป็นต้นไป

เนื่องจากปรากฏหลักฐานต่อนายทะเบียนว่า บริษัท สัจจะประกันภัย จำกัด (มหาชน) มีการดำเนินการที่ฝ่าฝืนกฎหมาย ดำรงสินทรัพย์สำหรับเงินสำรองสำหรับเบี้ยประกันภัยที่ยังไม่ตกเป็นรายได้ของบริษัท เงินสำรองค่าสินไหมทดแทน และเงินสำรองอื่นของบริษัทประกันวินาศภัย ตามมาตรา 23 แห่งพระราชบัญญัติประกันวินาศภัย พ.ศ. 2535 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติประกันวินาศภัย (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2551 และจัดสรรสินทรัพย์ไว้สำหรับหนี้สินและภาระผูกพันตามสัญญาประกันภัย ตามมาตรา 27/4 ไม่ครบถ้วนตามที่กฎหมายกำหนด ฝ่าฝืนคำสั่งพนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา 51 กรรมการผู้มีอำนาจกระทำการถอนเงินในบัญชีธนาคารของบริษัทให้กับกรรมการและบุคคลอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจของบริษัท มีการบันทึกบัญชีไม่ถูกต้องตรงต่อความเป็นจริง ผู้สอบบัญชีไม่แสดงความเห็นต่องบการเงินของบริษัท ทำให้รายงานทางการเงินของบริษัทขาดความน่าเชื่อถือ อีกทั้งบริษัทค้างชำระค่าปรับตามมติคณะกรรมการเปรียบเทียบ จึงเป็นกรณีที่บริษัท สัจจะประกันภัย จำกัด (มหาชน) มีฐานะการเงินหรือการดำเนินการอยู่ในลักษณะอันอาจเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ผู้เอาประกันภัยหรือประชาชน และมีเหตุสมควรที่จะสั่งให้หยุดรับประกันวินาศภัยเป็นการชั่วคราว

โดยบอร์ด คปภ. พิจารณาจากพฤติการณ์และหลักฐานต่างๆ โดยละเอียดแล้ว เห็นชอบให้นายทะเบียนใช้อำนาจตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติประกันวินาศภัย พ.ศ. 2535 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติประกันวินาศภัย (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2551 สั่งให้บริษัท สัจจะประกันภัย จำกัด (มหาชน) หยุดรับประกันวินาศภัยเป็นการชั่วคราว และให้บริษัทเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาฐานะการเงินและการดำเนินงาน โดยกำหนดเงื่อนไขต่างๆ ดังนี้

1. ให้บริษัทฯ แต่งตั้งกรรมการผู้จัดการ และคณะผู้บริหาร ที่มีความรู้ความสามารถ

2. ให้บริษัทฯ ปรับปรุงการบันทึกรายการบัญชีให้ถูกต้องตรงต่อความเป็นจริง เพื่อให้งบการเงินของบริษัทมีความน่าเชื่อถือ และผ่านการรับรองจากผู้สอบบัญชีรับอนุญาต

3. ให้บริษัทฯ จัดให้มีระบบควบคุมภายใน การสอบทาน และการคานอำนาจของคณะกรรมการบริษัท คณะกรรมการบริหาร คณะกรรมการชุดย่อย ให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด โดยจัดให้มีคู่มือการปฏิบัติงานชัดเจนอย่างเป็นลายลักษณ์อักษร พร้อมทั้งให้มีการทดสอบระบบให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

4. ให้บริษัทฯ จัดให้มีแผนธุรกิจ แผนบริหารความเสี่ยง และแผนการดำเนินงานที่สำนักงานเห็นชอบให้มีความน่าเชื่อถือ สามารถปฏิบัติได้ โดยมีการจัดให้มีการวิเคราะห์สถานการณ์ที่จะส่งผลกระทบในเชิงลบ

5. ให้บริษัทฯ ต้องดำรงทรัพย์สินสำหรับเงินสำรองสำหรับเบี้ยประกันภัยที่ยังไม่ตกเป็นรายได้ของบริษัทเงินสำรองค่าสินไหมทดแทนและเงินสำรองอื่นของบริษัทประกันวินาศภัย ตามมาตรา 23 และต้องจัดสรรสินทรัพย์ไว้สำหรับหนี้สินและภาระผูกพันตามสัญญาประกันภัย ตามมาตรา 27/4 ให้ครบถ้วนตามที่กฎหมายกำหนด

และ 6. บริษัทฯ ต้องชำระค่าปรับให้ครบถ้วนตามมติคณะกรรมการเปรียบเทียบ

ทั้งนี้ ให้บริษัทฯ แก้ไขและดำเนินการตามเงื่อนไขข้างต้นให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 31 กรกฎาคม 2560 หรือจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง สำหรับกรณีที่มีการฝ่าฝืนกฎหมาย เลขาธิการ คปภ. ได้สั่งการให้สายกฎหมายและคดีดำเนินการตามอำนาจหน้าที่แล้ว

เลขาธิการ คปภ. กล่าวว่า “การสั่งให้ บมจ. สัจจะประกันภัย หยุดรับประกันภัยจะไม่กระทบต่ออุตสาหกรรมประกันภัย เนื่องจากอุตสาหกรรมประกันภัยในภาพรวมยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี จึงขอให้ประชาชนผู้เอาประกันภัยไม่ต้องวิตกกังวล ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังต้องจ่ายค่าสินไหมทดแทนตามปกติ เพียงแต่ไม่สามารถรับลูกค้ารายใหม่ได้ ผมได้ย้ำให้สำนักงาน คปภ. เน้นการคุ้มครองผู้บริโภคเป็นประการสำคัญ

โดยได้สั่งการไปยังสายตรวจสอบและสายคุ้มครองสิทธิประโยชน์ ตลอดจนสำนักงาน คปภ. ภาค สำนักงาน คปภ. จังหวัด และสำนักงาน คปภ. เขต รวม 71 แห่งทั่วประเทศ เพื่อให้ทำการตรวจสอบสาขา/สำนักงานตัวแทนของ บมจ. สัจจะประกันภัย ที่ตั้งอยู่ในเขตรับผิดชอบและให้ดำเนินการแจ้งการสั่งหยุดรับประกันวินาศภัยเป็นการชั่วคราว เพื่อป้องกันไม่ให้บริษัทฯ ออกกรมธรรม์รายใหม่และในระหว่างการหยุดรับประกันวินาศภัยเป็นการชั่วคราว ทั้งนี้ ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะเจ้าหน้าที่เข้าไปประจำที่บริษัทฯ เพื่อควบคุมดูแลให้บริษัทฯ ดำเนินการตามเงื่อนไขที่นายทะเบียนกำหนดแล้ว”