‘หนังออนไลน์' แข่งดุ แห่ชิงตลาด 5 พันล้าน

‘หนังออนไลน์' แข่งดุ แห่ชิงตลาด 5 พันล้าน

ฮอลลีวู้ดทุ่ม 500 ล้านผนึกพันธมิตร-เน็ตฟลิกซ์ จัดเต็มเมนูไทย พากษ์ไทย ซับไตเติ้ลไทยสู้

ตลาดวีดิโอออนดีมานด์ในไทยแข่งเดือด ผู้ให้บริการระดับโลกแห่ชูกลยุทธ์หวังชิงตลาด 5 พันล้าน “ฮอลลีวูด ทีวี” ทุ่ม 500 ล้านบาท ผนึกพันธมิตรอินเตอร์ขยายธุรกิจไทย-ต่างประเทศ มั่นใจตลาดมีโอกาสโตก้าวกระโดด ตั้งเป้าปี 60 รายได้พุ่งพันล้าน ด้าน “เน็ตฟลิกซ์” รุกเปิดให้บริการเวอร์ชั่นไทยจัดเต็ม เมนูไทย ดูหนัง-ซีรี่ส์ได้ทั้งพากษ์ไทยและซับไตเติ้ล

นายพิรุฬห์ พิหเคนทร์ ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฮอลลีวูด มูฟวีส์ เอจี ผู้ให้บริการดูหนังออนไลน์ ภายใต้ชื่อ “ฮอลลีวูด ทีวี (HOLLYWOOD TV)” กล่าวว่า ภาพรวมตลาดดูหนังออนไลน์ (โอทีที) ในไทยปี 2560 จะมีมูลค่าไม่น้อยกว่า 4,000-5,000 ล้านบาท แนวโน้มเติบโตเป็นเท่าตัวทุกปี การแข่งขันทวีความรุนแรงทั้งราคา เทคโนโลยี และการพัฒนาประสบการณ์ลูกค้า บริษัทมีแผนขยายธุรกิจต่อเนื่อง มุ่งเป็นแพลตฟอร์มให้บริการดูหนังออนไลน์อันดับ 1 ของไทย และมีแผนขยายออกไปต่างประเทศ

ที่ผ่านมา ตั้งแต่ปี 2557 จนถึงปัจจุบันใช้งบลงทุนไปกว่า 1,000 ล้านบาท ปีนี้จะใช้ไม่น้อยกว่า 400-500 ล้านบาท ลงทุนด้านฮาร์ดแวร์ ซื้อลิขสิทธิ์คอนเทนท์ พัฒนาการให้บริการล่าสุด เตรียมจำหน่ายอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ “ดอท (DOT)” ตอบโจทย์การดูหนังบนจอทีวี คาดวางจำหน่ายภายในไตรมาสที่ 3 ปีนี้ ด้านราคายังไม่สามารถเปิดเผยได้

“ครั้งนี้ บริษัทจับมือเป็นพันธมิตรกับบริษัท อายไอโอ (eyeIO) ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ด้านสตรีมมิ่งจากซิลิคอลวัลเลย์สหรัฐอเมริกา อายไอโอจะเข้ามาช่วยนำเทคโนโลยีสตรีมมิ่งมาใช้บีบอัดข้อมูลบนอุปกรณ์สำหรับดูหนังบนจอโทรทัศน์ มาพร้อมความคมชัดของภาพและเสียงมาตรฐานระดับโลก"
“จุดเด่นเรามีทั้งคอนเทนท์แบบออนดีมานด์ ถ่ายทอดสด ออริจินัลคอนเทนท์ ใช้งานที่ง่าย ดาวน์โหลดเร็ว ภาพคมชัดแบบฟูลเอชดี เสียงคุณภาพสูง เชื่อมต่อได้แบบไร้สาย”

ทั้งนี้ บริษัทมั่นใจว่า สามารถขยายไปสู่ตลาดโลกได้ โดยที่เห็นว่ามีศักยภาพน่าสนใจ คือ ยุโรป เนื่องจากคนให้ความสนใจเรื่องเทคโนโลยี ให้ความสำคัญกับคอนเทนท์ที่ถูกลิขสิทธิ์

โดยอนาคตเตรียมเปิดตลาดที่เยอรมันประเทศแรก รวมถึงจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เยอรมันเพื่อระดมทุนขยายธุรกิจช่วงเดือนก.ย. จากนั้นขยายไปประเทศอื่นๆ ในยุโรปต่อไป

นายพิรุฬห์ กล่าวว่า หัวใจสำคัญที่ทำให้บริษัทก้าวขึ้นสู่ผู้นำตลาด มาจากการให้ความสำคัญกับการพัฒนาคุณภาพและประสบการณ์ลูกค้าในทุกๆ ด้าน คอนเทนท์ดี ที่ผ่านมาได้หาพันธมิตรด้านคอนเทนท์รายใหม่ๆ จากทั่วโลก เพื่อเพิ่มทั้งคุณภาพ ความหลากหลาย และจำนวนของภาพยนตร์ กลายเป็นผู้ให้บริการที่มีคลังหนังที่ใหญ่ที่สุดในไทย

ขณะเดียวกัน นําเทคโนโลยีส่งข้อมูลแบบ “Adaptive Bitrate” มาใช้ สามารถรับชมภาพยนตร์แบบเอชดีด้วยความเร็วเน็ตไม่เกิน 2 เมกกะบิตต่อวินาที
นอกจากนี้ เพิ่มความสะดวกให้กับลูกค้า เปิดทางให้สามารถเข้าถึงได้ทุกที่ ทุกเวลา ซื้อได้ทั้งออนไลน์ ร้านค้าตัวแทนกว่า 12,700 แห่งทั่วประเทศ สามารถเลือกจ่ายค่าบริการได้ทั้งแบบรายเดือน หรือแบบเลือกดูเฉพาะเรื่องที่ต้องการ โดยหลังเปิดให้บริการมาได้ 3 ปี ปัจจุบันมีสมาชิกแบบรายเดือน 150,000 คน มีการรับชมหนังไปแล้วกว่า 20 ล้านครั้ง

ความสำเร็จดังกล่าวเป็นผลมาจากการมีคอนเทนท์ที่ครบทุกความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นหนังจาก 6 ค่ายใหญ่จากฮอลลีวูด วอร์เนอร์ บราเธอร์ส, ทเวนตี้เซ็นจูรี่ฟ๊อกซ์, โซนี่พิคเจอร์ส, พาราเมาท์ พิคเจอร์ส, ซีบีเอส และเอ็นบีซี ยูนิเวอร์แซล ภาพยนตร์จีนคลาสสิค จาก ชอว์ บราเดอร์, เกาหลี, การ์ตูน จากดิสนีย์ ไทก้า โรส มีเดีย รวมถึงซีรี่ส์ฝรั่ง จีน เกาหลี คิดเป็นจำนวนภาพยนตร์กว่า 4,000 เรื่อง

ส่วนผลดำเนินงานปี 2559 ที่ผ่านมาธุรกิจเติบโตกว่า 20% รายได้กว่า 500 ล้านบาท สัดส่วนหลักๆ มาจากลูกค้าแบบสมาชิกรายเดือนและลูกค้าที่ซื้อหนังในสโตร์ ส่วนปีนี้ไปจนถึงปีหน้า คาดว่าผลประกอบการสามารถเติบโตได้เป็นเท่าตัว ปี 2560 มีรายได้ 1,000 ล้านบาท สมาชิกรายเดือนเพิ่มไปเป็น 3 แสนราย

ด้านนางเจสสิก้า ลี รองประธานฝ่ายสื่อสาร (เอเชีย แปซิฟิก) เน็ตฟลิกซ์ คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า ได้เปิดตัวอินเตอร์เฟซในเวอร์ชั่นภาษาไทยอย่างเต็มรูปแบบ ทั้งเมนูไทย พร้อมคำบรรยาย (ซับไตเติ้ล) พากษ์เสียงไทย โดยมองว่าไทยเป็นตลาดสำคัญมากในภูมิภาคนี้

ทั้งนี้ เน็ตฟลิกซ์ให้ลูกค้าทดลองใช้บริการฟรีเดือนแรก ส่วนราคาค่าแพคเก็จเดือนที่ 2 จะเริ่มต้นที่ 280 บาทร้บชมได้ครั้งละ 1 อุปกรณ์ ความละเอียดมาตรฐาน (เอสดี) แพคเก็จต่อมาอยู่ที่เดือนละ 350 บาท ชมได้ครั้งละ 2 อุปกรณ์ ความละเอียดสูง (เอชดี) และแพคเก็จสุดท้ายราคา 420 บาทรับชมได้ครั้งละ 4 อุปกรณ์ความละเอียดเอชดีและอัลตร้า เอชดี 4เค สามารถเลือกรับชมผ่านสมาร์ททีวี ระบบปฎิบัติการไอโอเอส สมาร์ทโฟน แทบเล็ตระบบปฏิบัติการวินโดว์ส แอนดรอยด์ เครื่องเล่น เพลย์สเตชั่น 3 รวมถึงกูเกิลโครมแคสต์

"ที่ผ่านมาเน็ตฟลิกซ์ใช้งบประมาณราว 60,000 ล้านดอลลาร์ลงทุนผลิตคอนเทนท์ซึ่งมีรายการกว่า 1,000 ชั่วโมง และมีภาพยนตร์กับซีรี่ส์กว่า 400 เรื่อง”

ทั้งนี้ บริษัทมีแผนลงทุนโลคอลคอนเทนท์ในไทย แต่ยังอยู่ในกระบวนการปัจจุบันได้ลงทุนโลคอลคอนเทนท์ในเอเชียบ้างแล้วเช่นใน เกาหลี อินเดีย กัมพูชา และ อนิเมะญี่ปุ่น