ราคาน้ำมันดิบโลกดิ่งกว่า1%

ราคาน้ำมันดิบโลกดิ่งกว่า1%

ขณะนักลงทุนกังวลน้ำมันล้นตลาดแม้โอเปกแสดงท่าทีว่าอาจขยายเวลาลดกำลังการผลิตออกไปอีก

สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าตลาดสหรัฐ ปิดตลาดวันพฤหัสบดี ตามเวลาท้องถิ่น ดิ่งลงกว่า 1% จากความกังวลเกี่ยวกับภาวะน้ำมันล้นตลาด ซึ่งบดบังการคาดการณ์ที่ว่าประเทศผู้ผลิตน้ำมันหลายรายจะเห็นพ้องกันที่จะขยายเวลาในการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันจนถึงสิ้นปีนี้

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือนพ.ค. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาดไนเม็กซ์ ลดลง 1.25 ดอลลาร์ ปิดตลาดที่ราคา 48.37 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ร่วงลง 1.22 ดอลลาร์ ปิดตลาดที่ราคา 51.17 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล 

ทั้งนี้ บ่อน้ำมันชาราราของลิเบีย ซึ่งมีกำลังการผลิตน้ำมันเกือบ 3 แสนบาร์เรลต่อวัน เริ่มทำการผลิตน้ำมันแล้ว หลังสิ้นสุดการประท้วง ขณะที่บ่อน้ำมันเอล ฟิล ซึ่งมีกำลังการผลิต 9 หมื่นบาร์เรลต่อวัน ก็เริ่มทำการผลิตเช่นกัน

ด้านเบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขุดเจาะบ่อน้ำมันสหรัฐ เปิดเผยรายงานแท่นขุดเจาะน้ำมันรายสัปดาห์ พบว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันที่มีการใช้งานในสหรัฐ มีจำนวนเพิ่มขึ้น 5 แท่น สู่ระดับ 688 แท่น และเป็นการเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 14 ติดต่อกัน ขณะที่มีแนวโน้มที่จะทำให้การผลิตน้ำมันจากชั้นหินดินดาน (shale oil) ของสหรัฐในเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบกว่า 2 ปี

ขณะนี้ สหรัฐผลิตน้ำมันดิบ 9.25 ล้านบาร์เรลต่อวัน เพิ่มขึ้นเกือบ 10% นับตั้งแต่กลางปี 2559 และใกล้เคียงระดับการผลิตน้ำมันของซาอุดิอาระเบีย

นักวิเคราะห์คาดว่า การผลิตน้ำมันจากชั้นหินดินดาน ของสหรัฐจะเพิ่มขึ้น 100,000 บาร์เรลต่อวันในปีนี้ และปีหน้า หากราคาน้ำมันอยู่ที่ระดับ 50-55 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

แหล่งข่าวระบุว่า คณะกรรมาธิการของโอเปก และผู้ผลิตน้ำมันบางราย เสนอให้มีการขยายเวลาในการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันออกไปอีก 6 เดือนจนถึงสิ้นปีนี้