'ตลาด' ชี้กำไรบจ.ไตรมาส1ฟื้น

'ตลาด' ชี้กำไรบจ.ไตรมาส1ฟื้น

ตลาดชี้ "กำไรบจ."ไตรมาส1ฟื้น รับอานิสงส์รายได้นอกหนุน

ตลาดหลักทรัพย์คาดกำไรบจ.ไตรมาสแรกเติบโตดี แม้เศรษฐกิจในประเทศโตช้า เพราะมีรายได้จากต่างประเทศหนุนถึง 46%ของรายได้รวม ชี้ตลาดหุ้นไทยยังแข็งแกร่ง วอลุ่มซื้อขายสูงต่างชาติยังซื้อ เลือกตั้งฝรั่งเศส-ปมขัดแย้งระหว่างประเทศ ยังไม่กระทบ ด้านบล.บัวหลวงหวั่นวอลุ่มหด

นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยกล่าวว่าภาพรวมตลาดหุ้นไทยในช่วงไตรมาส 1 ของปีนี้ยังแข็งแกร่ง ทั้งในด้านการเคลื่อนไหวของดัชนี นักลงทุน และมูลค่าการซื้อขายต่างอยู่ในเกณฑ์ที่ดี มีมูลค่าการซื้อขายสูงถึง 5 หมื่นล้านบาทต่อวัน รวมถึงผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ที่จะทยอยประกาศผลในเดือนพ.ค.นี้ คาดว่าจะมีการเติบโตต่อเนื่องจากปีก่อนหน้าที่มีการเติบโต30%

“แม้ว่าเศรษฐกิจอาจจะมีการเติบโตได้ช้ากว่าที่หลายฝ่ายคาดการณ์ แต่ก็ยังมีการเติบโต ซึ่งในส่วนของผลการดำเนินงานของบจ.คงไม่ได้เติบโตในระดับเดียวกับเศรษฐกิจในประเทศ แต่จะเติบโตได้ดีกว่า เนื่องจากบจ.ไม่ได้มีรายได้จากในประเทศเพียงทางเดียว แต่ยังมีรายได้จากการลงทุนในต่างประเทศด้วย โดยปีที่ผ่านมา มีรายได้จากการลงทุนต่างประเทศสูงถึง 46%”

นอกจากนี้โดยพื้นฐานของบริษัทจดทะเบียนไทยอยู่ในโหมดที่มีพื้นฐานดี และปีนี้ก็จะยังดีต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามการลงทุนนั้น นักลงทุนจะต้องดูข้อมูลให้รอบด้าน ทั้งปัจจัยพื้นฐานของบริษัทจดทะเบียน เศรษฐกิจไทย รวมถึงสถานการณ์ในต่างประเทศอย่างไรก็ตามแม้ว่าตลาดต่างประเทศจะมีความผันผวน แต่ต่างชาติยังซื้อสุทธิ

สำหรับนโยบายกีดกันทางการค้าของสหรัฐ ที่อาจเป็นปัจจัยกดดันผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน ยืนยันว่า เป็นเรื่องที่ติดตามอย่างใกล้ชิด แต่พบว่า ภาพรวมเศรษฐกิจสหรัฐค่อนข้างดี ขณะที่ภาพรวมของเศรษฐกิจโลกก็ดีขึ้นด้วย สะท้อนจากการส่งออกของไทยที่ขยายตัวได้ และทั้งปีคาดว่าจะขยายตัวได้5%

ส่วนปัจจัยเรื่องการเลือกตั้งในฝรั่งเศสนั้น ล่าสุดส่วนใหญ่ยังเชื่อว่านายมาครองจะชนะการเลือกตั้ง ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นก็ไม่น่าจะมีผลลบต่อตลาด ส่วนเรื่องเกาหลีเหนือนั้น เป็นเรื่องที่ต้องติดตาม 

นายพิเชษฐ สิทธิอำนวย กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง เปิดเผยว่า บริษัทวางเป้าหมายจะมีส่วนแบ่งรายได้จากค่าคอมมิชชั่นจากอุตสาหกรรมที่ระดับ 6-7 % จากปีก่อน 7.28 % ซึ่งยังถือว่าเป็นอันดับที่ 2 อุตสาหกรรมภาวะตลาดหุ้นในปีนี้ประเมินว่ายังไร้ปัจจัยใหม่ให้มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันเบาบางลง ซึ่งปัจจัยต่างประเทศยังคงกดดัน ทั้งนี้ประเมินดัชนีสิ้นปีที่1,627 จุด โดยมีราคาปิดกำไรต่อหุ้นที่ 15.8 เท่า

ทั้งนี้ธุรกิจหลักทรัพย์หลังจากนี้จะมีความท้าทายมากขึ้น หลังจากที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันปรับตัวลดลง อาจจะได้รับผลกระทบบ้าง แต่บริษัทมองว่าเป็นระยะสั้น กลยุทธ์ในปีนี้เน้นการขยายฐานนักลงทุน เป้าหมายจะต้องมียอดบัญชีเปิดใหม่ 4-5 หมื่นบัญชีจากปัจจุบัน 2.5 แสนบัญชี ณ.เมย.2560