ศาลแพ่งสั่ง 'ศิริโชค' ชดใช้2ล้านต่อนักธุรกิจตระกูลดัง

ศาลแพ่งสั่ง 'ศิริโชค' ชดใช้2ล้านต่อนักธุรกิจตระกูลดัง

ศาลแพ่งพิพากษาสั่ง "ศิริโชค โสภา" อดีต ส.ส.ปชป. ชดใช้2ล้าน คดีโพสต์เฟซบุ๊กหมิ่นโกงเงินกู้ นักธุรกิจตระกูลดัง "สีหนาทกถากุล"

ที่ศาลแพ่ง ถ.รัชดาภิเษก วันนี้ (27เม.ย.) ศาลมีคำพิพากษาในคดีที่นายอนุชา สิหนาทกถากุล นักธุรกิจตระกูลดัง เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายศิริโชค โสภา อดีตส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ เป็นจำเลยในคดีละเมิดเรียกค่าเสียหาย 20 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี จากกรณีหมิ่นประมาท

โดยฟ้องโจทก์ระบุว่า เมื่อวันที่ 22 ก.ค.-26 ต.ค.2558 นายศิริโชค จำเลยได้กล่าวหรือไขข่าวแพร่หลายฝ่าฝืนต่อความจริงด้วยการใส่ความนายมนตรี บิดาโจทก์ด้วยการโพสต์เฟซบุ๊ก ซึ่งเป็นการนำข้อมูลเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ และเป็นการแพร่หลายทั่วประเทศ ซึ่งการกระทำของจำเลยทำให้บุคคลอื่นและประชาชนทั่วไปเข้าใจว่า บิดาโจทก์กระทำผิดต่อกฎหมายและหลอกลวงโกงมารดาของจำเลย กับบุคคลอื่นๆ โดยการกระทำนั้นทำให้โจทก์และบุคคลในครอบครัวได้รับความเสียหายรวมทั้งกระทบต่อธุรกิจของโจทก์อย่างร้ายแรง จึงขอให้จำเลยชำระเงิน 20 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยนับถัดจากวันฟ้อง จนกว่าจะชำระเสร็จ
ขณะที่จำเลยให้การต่อสู้ว่าไม่ได้เป็นผู้ใส่ความหรือนำข้อมูลตามที่โจทก์กล่าวหา เข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์และบัญชีเฟซบุ๊กนั้นก็ไม่ใช่ของจำเลย

ศาลแพ่งพิเคราะห์แล้วเห็นว่า บัญชีเฟซบุ๊กชื่อ Sirichok Sopha มีที่อยู่ของเว็บไซต์บนอินเตอร์เน็ตหรือ URL เป็นของจำเลยและจำเลยเป็นผู้โพสต์ข้อความโดยนำเอกสารที่เขียนด้วยลายมือ มาลงประกอบ การที่จำเลยโพสต์ข้อความดังกล่าวโดยมีใจความสำคัญว่า บิดาโจทก์โกงมารดาจำเลย หลอกให้มารดาจำเลยกู้เงินแล้วไม่ได้รับเงินกู้ ทั้งที่จำเลยทราบเรื่องดีอยู่แล้วว่าข้อพิพาทระหว่างมารดาจำเลย กับ บิดาโจทก์ตามสัญญากู้เงินได้ยุติลงไปแล้วเนื่องจากมารดาจำเลยชำระเงินตามสัญญากู้ยืมเงินและศาลอุทธรณ์มีคำสั่งอนุญาตให้บิดาโจทก์ถอนฟ้องคดีแล้ว จึงเป็นการไขข่าวแพร่หลายซึ่งฝ่าฝืนต่อข้อความเป็นจริง ทำให้เกิดความเสียหายต่อชื่อเสียงและเกียรติยศของบิดาโจทก์ และโจทก์ซึ่งเป็นบุตร

แม้ข้อความบางส่วนที่จำเลยนำมาโพสต์ในเฟซบุ๊กจะนำมาจากข้อความในเอกสารที่จำเลยอ้างว่าเป็นลายมือเขียนของบุคคลอื่น แต่เมื่อข้อความนั้นฝ่าฝืนต่อความจริง การกล่าวหรือไขข่าวซ้ำก็เป็นการกระทำละเมิด อีกทั้งข้อความที่จำเลยโพสต์นั้นไม่ใช่เป็นการแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต ติชมด้วยความเป็นธรรมอันเป็นวิสัยของประชาชน การกระทำของจำเลยจึงเป็นการละเมิดต่อโจทก์ทำให้ได้รับความเสียหาย

ศาลแพ่งจึงมีคำพิพากษาให้จำเลยชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเป็นเงินจำนวน 2 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปีและให้จำเลยลงโฆษณาคำพิพากษาของศาลในหนังสือพิมพ์เป็นเวลา 7 วัน โดยจำเลยเป็นผู้ออกค่าใช้จ่าย