KKP - ซื้อ

KKP - ซื้อ

ปรับลดสำรองหนี้สูญฯลง; ปรับกำไรเพิ่ม

ประเด็นการลงทุน

เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2560 ขึ้น 5% มาอยู่ที่ 6 พันล้านบาท และ 6% สำหรับปี 2561 มาอยู่ที่ 6.5 พันล้านบาท เป็นผลจากการตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สูญฯของธนาคารที่ลดลงกว่าที่เราคาดการณ์ เราปรับลดสมมติฐานการตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สูญฯลง 15% สำหรับปี 2560 และ 2561 นอกจากนี้ KKP ยังบรรลุเป้าหมายการเติบโตของสินเชื่อที่ 1.3% QoQ
สำหรับไตรมาส1/60 ซึ่งอยู่ในแนวโน้มตามเป้าปี 2560 ที่ 5-6% โดยเราประเมินว่า KKP จ่ายเงินปันผลตอบแทนสูงสุดในกลุ่ม ซึ่งเราคาดว่าจะอยู่ที่ 8.5% สำหรับปี 2560 เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ ด้วยอัตราเงินปันผลที่ น่าสนใจ เราปรับเพิ่มราคาเป้าหมายใหม่ ณ สิ้นปี 2560 มาอยู่ที่ 78 บาท โดยยังคงอ้างอิงค่าเป้า PBV ณ สิ้นปี 2560 ที่ 1.6 เท่า

กระจายฐานสินเชื่ออื่นๆ...ดังนั้นเติบโตมีอัพไซด์

หลังจากสินเชื่อเติบโต 1.3% QoQ ในไตรมาส1/60 เราคงประมาณการสินเชื่อขยายตัวทั้งปีที่ 6% (KKP ระบุว่าเติบโต 5-6%) โดยสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ (69% ของสินเชื่อรวม) ปรับตัวลดลง 2.5% YTD ในไตรมาสแรก เนื่องจาก KKP เน้นสินเชื่อสำหรับรถยนต์ใหม่น้อยลง เราเชื่อว่า KKP จะเน้นไปที่สินเชื่อบรรษัทและสินเชื่อเอสเอ็มอีมากขึ้นในปีนี้ เราประมาณการเชิงอนุรักษ์นิยมว่าส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยของ KKP ปี 2560 อยู่ที่ 4.4% ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายที่ธนาคารตั้งไว้ในปีนี้ที่ 4.7-4.9% และส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยปี 2559 ที่ 4.8% เนื่องการแข่งขันที่สูงขึ้น รวมถึงต้นทุนเงินทุนน่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย หาก KKP ต้องการที่จะบรรลุเป้าหมายส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยตามเป้าธนาคารอาจมีอัพไซต์ต่อประมาณการกำไรปี 2560 ในปัจจุบัน

การตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สูญฯน้อยลง เนื่องจาก KKP บรรลุเป้าหมายการตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สูญฯ

ผู้บริหารพอใจต่ออัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ของธนาคารในปลายเดือนมี.ค.ที่ 110% เราปรับลดสมมติฐานการตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สูญฯลง 15% สำหรับในปีนี้เหลือ 2.2 พันล้านบาท และปี 2561 เหลือ 2.3 พันล้านบาท ตามลำดับ ทั้งนี้สัดส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ต่อสินเชื่อรวมในไตรมาสแรกคงตัวที่ 5.6% จากปลายปีแต่ธนาคารมีเป้าหมายที่จะรักษาอัตรานี้ไว้ที่ระดับต่ำกว่า 5.2% ในปลายปี 2560

กำไรขายสินทรัพย์และ ธุรกิจวาณิชธนกิจยังคงดี

สำหรับไตรมาส1/60 KKP KKP มียอดขายสินทรัพย์ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้รวมที่ 318 ล้านบาทและบันทึกกำไรที่ 186 ล้านบาท โดยมีผลตอบแทนจากการลงทุนที่ 58% สำหรับปี 2560 เราประมาณยอดขายสินทรัพย์ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ที่ 1 พันล้านบาทและมีผลตอบแทนที่ 45% เรายังคงประมาณการกำไรยอดขายสินทรัพย์ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ที่ 450 ล้านบาท ในปี 2560 และ 550 ล้านบาทในปี 2561 ในปัจจุบันต้นทุนสินทรัพย์ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ SAM ของ KKP มีมูลค่าอยู่ที่ 7 พันล้านบาท เทียบกับมูลค่าประเมินในปัจจุบันที่ 2 หมื่นล้านบาท นอกจากนี้รายได้ค่าธรรมเนียมวาณิชธนกิจน่าจะอยู่ที่มากกว่า 180 ล้านบาทในปี 2559 เนื่องจาก KKP มีดีล IPO ขนาดใหญ่รออยู่ในปีนี้ (กองทุนโครงสร้างพื้นฐานและพลังงาน) ไตรมาสแรก KKP มีรายได้จากธุรกิจ วาณิชธนกิจจำนวน 80 ล้านบาท