วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (26 เม.ย.60)

วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (26 เม.ย.60)

ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากตลาดคาดการณ์สต็อกน้ำมันปรับตัวลดลง

+ ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย จากการที่ตลาดคาดว่าปริมาณน้ำมันดิบคงคลังของสหรัฐ จะปรับตัวลดลง 1.6 ล้านบาร์เรล ต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ปรับลดลง 1.0 ล้านบาร์เรล เนื่องจากโรงกลั่นคาดจะเพิ่มกำลังการกลั่นสูงขึ้นเพื่อรองรับความต้องการใช้น้ำมันที่เพิ่มขึ้น

- นาย Arkady Dvorkovich รองนายกรัฐมนตรีของประเทศรัสเซียกล่าวว่า รัสเซียยังสามารถรักษาระดับกำลังการผลิตน้ำมันดิบให้คงที่ต่อไปได้ แต่อาจพิจารณาปรับเพิ่มกำลังการผลิตหากไม่ส่งผลกดดันต่อราคาน้ำมันดิบ โดยให้ความเห็นเรื่องการต่อระยะเวลาในลดกำลังการผลิตในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2560 ว่าจะขึ้นอยู่กับความเคร่งครัดในการปฏิบัติตามข้อตกลงของกลุ่มโอเปกและผู้ผลิตรายอื่นที่ร่วมทำข้อตกลง

+ ผู้จัดการกองทุนปรับเพิ่มสถานะการถือครองสุทธิ (Net Long Position) เป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกัน โดย Commodity Futures Trading Commission (CFTC) รายงานสถานะการลงทุนสัญญาน้ำมันดิบ WTI ในตลาดซื้อขายล่วงหน้า ICE ที่ลอนดอนและ NYMEX ที่ตลาดนิวยอร์ก สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 18 เม.ย. ปรับเพิ่มขึ้น 14,135 สัญญา มาอยู่ที่ระดับ 323,364 สัญญา

- อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากตลาดปิดการซื้อขาย สถาบันปิโตรเลียมด้านพลังงานสหรัฐ (API) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐ ประจำสัปดาห์ สิ้นสุดวันที่ 21 เม.ย. 60 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 897,000 บาร์เรล สวนทางกับคาดการณ์ และรายงานปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังสหรัฐ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.4 ล้านบาร์เรล หลังอุปสงค์ของน้ำมันเบนซินในสัปดาห์ก่อนหน้าต่ำกว่าคาดหมาย โดยสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าสต็อกน้ำมันเบนซินสหรัฐ จะปรับตัวลดลง 1 ล้านบาร์เรล จากการเข้าสู่ฤดูกาลขับขี่ในหน้าร้อน


ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากอุปทานที่ล้นตลาดในภูมิภาค อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันเบนซินได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์จากภูมิภาคตะวันออกกลางที่แข็งแกร่ง

ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงกดดันจากการส่งออกน้ำมันดีเซลจากประเทศจีน อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันดีเซลยังมีแรงหนุนจากอุปสงค์ในภูมิภาค ประกอบกับอุปทานที่ตึงตัวจากการปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่นในแถบตะวันออกกลาง


ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์หน้า

ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 47-52 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 49-54 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล 

ปัจจัยที่น่าจับตามอง

- จับตาการประชุมระหว่างผู้ผลิตน้ำมันดิบในและนอกโอเปคก่อนการประชุมอย่างเป็นทางการในวันที่ 24-25 พ.ค. 60 ว่าจะมีจะมีการขยายระยะเวลาของมาตรการปรับลดกำลังการผลิตหรือไม่ ภายหลังปริมาณน้ำมันคงคลังเชิงพาณิชย์ในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วยังอยู่ในระดับที่สูงกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีค่อนข้างมาก แม้ว่ากลุ่มโอเปคจะปรับลดกำลังการผลิตมากกว่าที่ได้ตกลงไว้ก็ตาม โดยล่าสุดซาอุดิอาระเบีย คูเวต และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ มีความเห็นไปพ้องกันว่าควรขยายระยะเวลาของมาตรการแต่ข้อตกลงดังกล่าวขึ้นกับเงื่อนไขว่าผู้ผลิตนอกกลุ่มจะต้องปรับลดกำลังการผลิตลงด้วยเช่นกัน ซึ่งทางด้านของรัสเซียยังไม่ได้มีการออกมาให้ความเห็นแต่อย่างใด

- ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐ คาดจะปรับตัวลดลงหลังโรงกลั่นน้ำมันดิบในสหรัฐ เพิ่มกำลังการกลั่นขึ้นมาอยู่ที่ระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือนที่ราวร้อยละ 93 เพื่อรองรับความต้องการใช้น้ำมันเบนซินที่เพิ่มขึ้นในช่วงฤดูกาลขับขี่ ซึ่งปัจจัยดังกล่าวช่วยลดผลกระทบของการผลิตน้ำมันดิบในประเทศที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องมาอยู่ที่ระดับ 9.25 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐ สำหรับสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 14 เม.ย. ปรับตัวลดลงเป็นสัปดาห์ที่สองติดต่อกัน โดยปรับลดลงราว 1.0 ล้านบาร์เรล

- การผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐ มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง หลังผู้ผลิตน้ำมันดิบในสหรัฐ เพิ่มการขุดเจาะน้ำมันดิบขึ้นต่อเนื่องมาสู่ระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี โดย Baker Hughes รายงานปริมาณแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบสหรัฐ สำหรับสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 13 เม.ย. ปรับเพิ่มขึ้น 11 แท่น มาอยู่ที่ระดับ 683 แท่น นับเป็นการปรับเพิ่มขึ้น 13 สัปดาห์ติดต่อกัน โดยกว่า 2 ใน 3 ของการปรับเพิ่มขึ้นมาจากแหล่งผลิต Permian ที่มีต้นทุนการผลิตที่ค่อนข้างต่ำ

-------------------------------------------------

ที่มา : บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน)

โทร.02-797-2999