MORNING CALL ACTION NOTES (25 เม.ย.60)

MORNING CALL ACTION NOTES (25 เม.ย.60)

ผันผวนในกรอบ

แม้ว่าจะมี sentiment เชิงบวกจากผลการเลือกตั้งฝรั่งเศสรอบแรก แต่วานนี้ตลาดหุ้นไทยกลับทรุดตัวลงเนื่องจากแรงขายกลุ่มธนาคารที่ประกาศงบ Q1/17 แล้ว ประกอบกับความกังวล NPL ที่พุ่งขึ้น ส่งผลให้ SET ปิดที่ 1,564.66 จุด (-5.36 จุด) ด้วย Volume 3.8 หมื่นลบ.โดย Foreign Net +409 ลบ. , TFEX Net +284 สัญญา ,ตราสารหนี้ไทย Net -4,345 ลบ.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

+ รฟม.คาดคมนาคมเตรียมชงรถไฟฟ้าสายสีชมพู-สายสีเหลือง ให้ครม.พิจารณาใน 1-2 สัปดาห์นี้

+ ตัวเลขการส่งออกเดือนมี.ค.ของไทย +9.2% ส่งผล Q1/60 + 4.9% สูงสุดในรอบ 4 ปี ส่วนการนำเข้า +19.3% เกินดุลการค้า 1,617 ล้านเหรียญ

+ ตลาดหุ้น DJ พุ่งขึ้นตอบรับข่าวผลการการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสรอบแรก รวมถึงแรงหนุนจากการคาดการณ์ว่าปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ จะเปิดเผยข้อเสนอเกี่ยวกับมาตรการปฏิรูปภาษีในวันพุธนี้

- ราคาน้ำมันอ่อนตัวลงล่าสุด 49.4 US/Barrel หลังสหรัฐผลิตน้ำมันดิบ 9.25 ล้านบาร์เรล/วัน เพิ่มขึ้นเกือบ 10% นับตั้งแต่กลางปี 2016 แม้จะคาดการณ์ว่ากลุ่มโอเปกจะขยายเวลาการปรับลดกำลังการผลิตจนถึงสิ้นปี

+ Foreign พลิกเป็น Net Buy ราว 4 ร้อยลบ. และเงินบาทยังคงแข็งค่าล่าสุด 34.3 Bath/USD.

+/- CPF แจงไม่มีส่วนเกี่ยวข้องต่อกรณีมีข่าว CP ไทยเตรียมเข้าซื้อกิจการ 7-11 ในอินโดนีเซีย

ตลาดหุ้นไทยมี Sentiment เชิงบวกจากตัวเลขการส่งออกเดือนมี.ค.ที่พุ่งขึ้น รวมถึงคาดการณ์ปธน.ทรัมป์จะเปิดเผลมาตรการปฎิรูปภาษีในวันพรุ่งนี้ อย่างไรก็ตามความกังวล NPL กลุ่มธนาคารที่พุ่งขึ้น รวมถึงราคาน้ำมันที่อ่อนตัวลงเป็นแรงกดดันต่อดัชนี ดังนั้นประเมินว่า SET จะแกว่งตัวในกรอบบริเวณ 1,560 – 1,575 จุด

กลยุทธ์การลงทุน Selective Buy กลุ่มที่มีปัจจัยสนับสนุน

- TRC เหมืองโปแตชชัยภูมิ นัดประชุม27เม.ย.นี้ ผู้ถือหุ้นรายใหญ่มากันครบ/จ่อเซ็น TRC 3.4 หมื่นล. (ข่าวหุ้น)

- IVL ราคาฝ้ายพุ่งขึ้นทำ High ในรอบเกือบ 3 ปี ล่าสุด 80.2 US/Ton

- SUPER ล้างขาดทุนสะสม 700 ลบ. + ตั้งอินฟราสตรัคเจอร์ฟันด์

- หุ้นที่คาดว่ากำไร Q1/17 เติบโต PTTEP PTTGC TOP BANPU TASCO TPCH WORK WICE

หุ้นแนะนำพิเศษ

PTTGC    ราคาปิด 74.25 บาท    ราคาเหมาะสม 77 บาท

• คาดกำไรปี 2017 อยู่ที่ 2.68 หมื่นล้านบาท + 5%YoY(มีแนวโน้มปรับประมาณการเพิ่ม) โดยได้รับผลบวกจากธุรกิจอะโรเมติกส์ที่ส่วนต่างผลิตภัณฑ์ปรับตัวขึ้นทั้ง PX และ BZ 31%YTD และ 24%YTD ตามลำดับ และธุรกิจโอเลฟินส์ที่ราคาผลิตภัณฑ์ HDPE LDPE และ LLDPE ปรับตัวขึ้น 4% 2% 7% YTD ตามลำดับ

• มี Upside จากการซื้อบริษัทจาก PTT คาดใช้เงินราว 2.6 หมื่นล้านบาทซื้อบริษัทสายพลาสติกจาก PTT 6 บริษัท (จะเริ่มรับโอนบริษัทช่วง ต.ค.60) ซึ่งคาดว่าจะช่วยเพิ่มกำไรได้ราวปีละ 2.4 พันล้านบาท(ยังไม่ได้รวมในประมาณการ) พร้อมกันนี้เตรียมนำบริษัท GGC เข้าจดทะเบียนในตลาดปีนี้

หุ้นมีข่าว

- ความเห็น TRC (ราคาปิด 1.53 ซื้อ ราคาเหมาะสม 1.75) ถ้าสามารถเซ็นสัญญาก่อสร้างกับ APOT ได้ภายในปีนี้จะส่งผลให้ Backlog เพิ่มขึ้นจาก 4.5 พันล้านบาทสู่ระดับ 3.65 หมื่นล้านบาท โดยจะทยอยรับรู้รายได้ 3-4 ปีต่อจากนี้ ทั้งนี้เราคาดว่าปี 60 บริษัทจะมีรายได้ 8 พันล้านบาทเติบโตกว่าเท่าตัวจากการรับรู้งาน APOT (5 พันล้านบาท)และ Backlog ในปัจจุบัน(3 พันล้านบาท) และผลประกอบการมีแนวโน้มเติบโตอย่างโดดเด่นจากงาน APOT

- ประเด็นบวก PTT (ราคาปิด 389 Bloomberg Consensus 411.30) เร่งเจรจาสัญญาซื้อขาย LNG ระยะยาว พร้อมเข้าลงทุนแหล่งผลิต-แปลงสภาพก๊าซ หลังมองตลาดเอื้อ

- HMPRO (ราคาปิด 9.50 บาท ซื้อ ราคาเหมาะสม 13 บาท) รายงานกำไรในช่วง 1Q60 เท่ากับ 1,046 ลบ. +21%YoY โดยมีรายได้ 1.4 หมื่นลบ. +4%YoY เพิ่มขึ้นจากจำนวนสาขาใหม่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว และสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นของสินค้าที่มีมาร์จิ้นดีทำให้อัตรากำไรขั้นต้นปรับเพิ่มขึ้นเป็น 26% จาก 25% ใน 1Q59

  ความเห็น กำไร 1Q60 คิดเป็น 23% ของประมาณการทั้งปีที่ราว 4.6 พันลบ. +11% เบื้องต้นฝ่ายวิจัยยังคงประมาณการตามเดิม โดยยังมีมุมมองที่ดีจากรายได้ในอนาคตมีศักยภาพเติบโต ประกอบกับธุรกิจให้เช่าพื้นที่และบริการ Home service รวมทั้งผลิตภัณฑ์ใหม่มีแนวโน้มเติบโตดีและมีมาร์จิ้นดีกว่ารายได้ขายอย่างมีนัยสำคัญ

- BAY (ราคาปิด 37.75 บาท Bloomberg Consensus 39.46 บาท) เพิ่มทุน 15 ล้านเหรียญสหรัฐให้ HKL ซึ่งเป็นสถาบันไมโครไฟแนนซ์ในกัมพูชา ที่สามารถระดมเงินฝากได้ (Microfinance Deposit Taking Institutions: MDI) ภายใต้การกำกับดูแลของธนาคารชาติแห่งกัมพูชา โดยมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ในกัมพูชาและมีสาขาอยู่ทั่วประเทศ

  ความเห็น : BAY ได้เข้าซื้อกิจการดังกล่าวเมื่อเดือนก.ย.59 เพื่อต่อยอดการทำธุรกิจสินเชื่อรายย่อยในกลุ่มประเทศ CLMV ที่ธนาคารมีจุดแข็งโดยในอดีตก่อนควบรวมกิจการกับ BTMU ญี่ปุ่น มีสัดส่วนสินเชื่อรายย่อยกว่า 49% จากการให้บริการบัตรเครดิตหลายใบ ได้แก่ บัตร HSBC บัตรAIG เฟิร์สช้อยส์ เทสโก้โลตัส เซ็นทรัล ทั้งนี้ผลประกอบการในช่วง 1Q60 มีกำไรสุทธิ 5,645 ลบ. +9.5%QoQ +9.6%YoY โดยคิดเป็น 24% ของประมาณการทั้งปีที่ราว 2.38 หมื่นลบ. +11% ซึ่งฝ่ายวิจัยยังคงประมาณการตามเดิม

- LHBANK (ราคาปิด 1.77 ซื้อเก็งกำไร ราคาเหมาะสม 2.20) ผู้บริหารรายงานความคืบหน้าในการร่วมทุนกับธนาคาร CTBC จากไต้หวันว่า หน่วยงานกำกับดูแลสถาบันการเงินของไต้หวันอนุมัติแล้ว ระหว่างนี้รอการอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแลของไต้หวันอีกหน่วยงานหนึ่ง และอยู่ระหว่างก.ล.ต. ของไทยพิจารณากระบวนการออกหุ้นให้ผู้ถือหุ้นรายเดียว และต่อด้วยการพิจารณาของธปท. คาดว่าทั้งหมดจะแล้วเสร็จในเดือน ก.ย.

  ความเห็น ผลประกอบการในอนาคตมีโอกาสเติบโตจากการมีพันธมิตรเข้ามาช่วยเสริมธุรกิจ Trade Finance และ Digital Banking สำหรับกำไร 1Q60 คิดเป็น 20% ของประมาณการทั้งปีที่เกือบ 3 พันลบ. ฝ่ายวิจัยอยู่ระหว่างทบทวนประมาณการ

- BIGC (ราคาปิด 224 Bloomberg Consensus 215.71) เผยบอร์ดอนุมัติให้กู้ยืมเงินจาก BJC วงเงินไม่เกิน 1.1 หมื่นลบ.ใช้รีไฟแนนซ์-ปรับโครงสร้างหนี้

- SITHAI (ราคาปิด 2.06 Bloomberg Consensus 2.72) ซุ่มเจรจาลูกค้าเมลามีนรายใหญ่อันดับ 1 ถึง 3 ในประเทศสหรัฐอเมริกา จำนวน 3 ราย หวังป้อนดีลใหญ่ให้ SITHAI ภายในปีนี้ ส่วนงบ Q1/2560 ฟื้นตัวหลังคว้าออเดอร์เวียดนามเข้าพอร์ต ซุ่มเจรจาเทกโอเวอร์ธุรกิจพลาสติกขยายฐาน ทั้งปี 2560 ปักธงรายได้โตเกิน 58% หรือแตะ 1.5 หมื่นล้านบาท (ทันหุ้น)SPCG (ราคาปิด 21.30 Bloomberg Consensus 24.39) ไฟเขียวเพิ่มทุน General Mandate 92.40 ล้านหุ้นเตรียมเสนอขาย PP

- RICH แจงไม่สามารถชำระหนี้ B/E ที่ครบกำหนดวันที่ 24 เม.ย. จำนวน 20 ลบ.หลังศาลฯรับคำร้องขอฟื้นฟูฯ ทั้งนี้ บริษัทถูกแขวนเครื่องหมาย “NC” เนื่องจากบริษัทเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนหลักทรัพย์จากการเข้าข่ายต้องปรับปรุงฐานะการเงินและการดำเนินงาน (NC ระยะที่ 1)

- NPP นำส่วนเกินมูลค่าหุ้น หวังเคลียร์ขาดทุนสะสม พร้อมเดินหน้าเพิ่มทุน จากจำนวน 1,648,968,105 บาท เป็น 1,656,484,904 บาท รองรับการแปลงสิทธิ์ NPP-W2 (ที่มาทันหุ้น)

ตลาดหุ้นดาวโจนส์ +216.13 จุด

- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 20,763.89 จุด พุ่งขึ้น 216.13 จุด หรือ +1.05% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,374.15 จุด เพิ่มขึ้น 25.46 จุด หรือ +1.08% และดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,983.82 จุด เพิ่มขึ้น 73.30 จุด หรือ +1.24% เนื่องจากนักลงทุนขานรับนายเอมมานูเอล มาครอง ผู้สมัครสายกลางพรรคอิสระ และเป็นอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจ ที่ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสรอบแรกเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งช่วยให้ตลาดคลายความวิตกกังวลว่า ฝรั่งเศสจะถอนตัวออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ จะเปิดเผยข้อเสนอเกี่ยวกับมาตรการปฏิรูปภาษีในวันพุธนี้

ตลาดน้ำมัน NYMEX -0.39 USD/Barrel

- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 39 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 49.23 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดในรอบเกือบ 4 สัปดาห์ เนื่องจากความวิตกเกี่ยวกับการผลิตน้ำมันที่สูงขึ้นในสหรัฐ โดยความกังวลในเรื่องดังกล่าวได้บดบังปัจจัยบวกจากการคาดการณ์ที่ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) จะขยายเวลาในการปรับลดกำลังการผลิตจนถึงสิ้นปีนี้