ก.ล.ต.เร่งแก้อุปสรรค 'ฟินเทค'

ก.ล.ต.เร่งแก้อุปสรรค 'ฟินเทค'

ก.ล.ต.เร่งแก้อุปสรรค "ฟินเทค" บริษัทไทยหันจดทะเบียนสิงคโปร์ชี้เกณฑ์เปิดกว้าง “เอวา”จ่อเปิดเทรดหุ้นอัตโนมัติ ตั้งเป้าพันล้าน 

ก.ล.ต.ยอมรับเร่งแก้อุปสรรคฟินเทค เหตุบริษัทไทยหันไปจดทะเบียนสิงคโปร์ “เอวา แอดไวเซอรี่”แจงกฎเกณฑ์เปิดกว้างรองรับเทคโนโลยี “ปัญญาประดิษฐ์”มากกว่า พร้อมเปิดให้บริการโปรแกรมซื้อขายอัตโนมัติ วางเป้าหมายเม็ดเงินภายใต้บริหาร 1 พันล้านบาท

นายปริย เตชะมวลไววิทย์ ผู้อำนวยการฝ่ายงานเลขาธิการและสื่อสารองค์กร สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่าขณะนี้มีบริษัทสตาร์ทอัพเลือกไปจดทะเบียนในประเทศสิงคโปร์ แม้ว่าจะเป็นบริษัทไทยและต้องยอมรับว่าก.ล.ต.จะเร่งดำเนินการเปิดพื้นที่และขจัดอุปสรรคต่างๆ เพื่อให้ผู้ประกอบการไทยทั้งรายเดิมและรายใหม่ สามารถใช้ประโยชน์จากฟินเทคในไทยได้เต็มที่ ปัจจุบัน บริษัทประสงค์จะเข้าsandbox ด้านPrivate Fund1ราย โดยอยู่ระหว่างหารือ และปรับปรุงข้อมูลก่อนจะยื่นใบสมัครอย่างเป็นทางการ 

“ขอชี้แจงว่า ก.ล.ต. ตระหนักถึงความสำคัญในการฉกฉวยโอกาสให้นวัตกรรมที่เป็นประโยชน์สามารถเกิดขึ้นได้จริงในตลาดทุนไทยแทนที่จะไปเกิดต่างประเทศ โดยกำลังเร่งเปิดพื้นที่และขจัดอุปสรรคต่าง ๆ เพื่อให้ผู้เล่นของไทยทั้งรายเดิมและรายใหม่สามารถใช้ประโยชน์จากฟินเทคได้เต็มที่ เช่น การเปิดสนามทดลองเพิ่มเติมสำหรับ trading platformสำนักหักบัญชี ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ และนายทะเบียนหลักทรัพย์ เพื่อให้ทดลองนำเทคโนโลยีอย่างBlockchainมาให้บริการได้ เป็นต้นฝ่ายส่งเสริมเทคโนโลยีทางการเงิน ก.ล.ต. พร้อมร่วมหารือกับสตาร์ทอัพทุกรายที่มีนวัตกรรมหรือแนวคิดใหม่ ๆ ในการให้บริการธุรกรรมในตลาดทุน ซึ่งปัจจุบันมีสตาร์ทอัพหลายรายเข้ามาหารือกับ ก.ล.ต.”

นาย นิรันดร์ ประวิทย์ธนา ประธานบริหาร บริษัท เอวาแอดไวเซอรี่ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทเลือกเข้าจดทะเบียนเพื่อทำธุรกิจด้านฟินเทคในสิงคโปร์ เนื่องจากการเปิดกว้างของกฎเกณฑ์มากกว่าไทย โดยเฉพาะเทคโนโลยีด้านปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence หรือ AI) ทั้งนี้มีแผนที่จะเปิดให้บริการลงทุนรูปแบบโปรแกรมการซื้อขายอัตโนมัติในไทยด้วย

“บริษัทได้เลือกจดทะเบียนที่สิงคโปร์ เพราะกฎเกณฑ์เปิดกว้างมากกว่า โดยเฉพาะเทคโนโลยีด้านเอไอ ที่สิงคโปร์ให้การยอมรับ ที่ผ่านมาแม้ก.ล.ต.จะเปิดให้มีสนามทดลองแต่ยังต้องใช้เวลาและไม่เปิดกว้างเท่าที่ควร”

ทั้งนี้ ผลการที่บริษัทเข้าจดทะเบียนสิงคโปร์ ทำให้เปิดบริการด้านระบบการซื้อขายอัตโนมัติ โดยให้โปรแกรมคอมพิวเตอร์เป็นผู้ตัดสินใจการซื้อขายทั้งหมด ตามคำสั่งที่ลูกค้าได้กำหนดไว้ ซึ่งการส่งคำสั่งซื้อขายจะถูกจัดอยู่ประเภทนักลงทุนต่างชาติ เบื้องต้นจะเปิดให้นักลงทุนไทยใช้บริการไตรมาส4ปีนี้ เป้าหมายเงินภายใต้การบริหารประมาณ 1 พันล้านบาท ซึ่งมีรายใหญ่หลายรายให้ความสนใจจะใช้บริการ โดยผลการดำเนินงานของโปรแกรมเทรดให้ผลตอบแทน30%ต่อปี ระยะสั้นบริษัทได้เปิดให้บริการแนะนำการลงทุน แบบอัตโนมัติ (robo advisor) ซึ่งถือว่าเป็นรายแรกของไทย

นางสาวมิรันดา ทรงพัฒนาศิลป์ ประธานบริหารการเงินและผู้ก่อตั้ง บริษัท เอวาแอดไวเซอรี่ จำกัด เปิดเผยว่า กฎเกณฑ์สิงคโปร์มีความเปิดกว้างมากกว่าไทยในเบื้องต้นนั้น ข้อกำหนดการประกอบธุรกิจด้านฟิคเทค จะต้องนำแผนงานทั้งหมดเสนอให้ทางการพิจารณา ซึ่งหากแผนดังกล่าวได้รับการอนุมัติก็จะได้รับใบรับรองให้ทำธุรกิจทันที และสิงคโปร์จะช่วยเหลือเชื่อมต่อกับบล.และมีการยอมรับเทคโนโลยีเอไอ ส่วนไทยนั้น ยังมีข้อจำกัดอยู่หากต้องการให้บริการต้องเข้าร่วมแซนด์บ็อกซ์ ซึ่งมีเวลาให้ทดลองได้ 1 ปี หากผ่านถึงจะได้ใบรับอนุญาต แม้บริษัทจะจดทะเบียนสิงคโปร์แต่ก็อยู่ระหว่างขออนุญาต เพื่อเข้าร่วมแซนด์บ็อกซ์ในไทยด้วย