เร่งสรุปตัวเลขผู้เสียหายคดีโชกุนทั่วประเทศส่งอัยการ

จากกรณี น.ส.พสิษฐ์ อริญชย์ลาภิศ หรือ ซินแสโชกุน กรรมการบริหาร บริษัท เวลล์ เอฟเวอร์ ผู้ต้องหาคดีร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ซึ่งถูกจับกุมได้ที่ จ.ระนอง ระหว่างหลบหนี ภายหลังจัดทัวร์ญี่ปุ่นแบบขึ้นเครื่องบินเช่าเหมาลำแล้วลอยแพผู้เสียหายนับพันคน ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เมื่อวันที่ 12 เมษายน ที่ผ่านมา ขณะนี้ถูกคุมขังไว้ที่ทัณฑสถานหญิงกลาง เช่นเดียวกับผู้ร่วมขบวนการทั้ง 8 คน ในส่วนกลุ่มผู้เสียหายต่าง ทยอยนำหลักฐานเข้าพบตร. เพื่อแจ้งความอย่างต่อเนื่อง

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 23 เมษายน พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบก.ป. กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ต้องเร่งสรุปตัวเลขผู้เสียหายจากทั่วประเทศ เพื่อส่งให้อัยการพิจารณาสำนวนคดี ในส่วนของกองบังคับการปราบปรามมีผู้เสียหายแจ้งความแล้วล่าสุด ประมาณ 430 คน มูลค่าความเสียหายกว่า 16 ล้านบาท ซึ่งในส่วนของการตรวจสอบเส้นทางการเงินของเครือข่าย ทาง ปปง. เป็นผู้รับผิดชอบ โดยเชื่อว่าน่าจะมีผู้ร่วมขบวนการที่มีส่วนเกี่ยวข้องอีกหลายราย ยังอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานและการพิจารณาของคณะพนักงานสอบสวนในการขออำนาจศาลออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการ อย่างไรก็ตามทางคณะพนักงานสอบสวนเตรียมแจ้งข้อหาซินแสโชกุนและพวกเพิ่มเติม ในฐานความผิด ตาม พรบ.ฟอกเงิน โดยสัปดาห์หน้าจะมีประชุมความคืบหน้าคดีดังกล่าวอีกครั้ง

ขณะที่ พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. บอกว่า ต้องตรวจสอบย้อนหลังไปยังคดีอื่นๆ ในช่วงระยะเวลา 5-10 ปีที่ผ่านมา ว่ามีผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความไว้ที่ใดบ้าง มีคดีใดที่ยังไม่ไกล่เกลี่ย หรือคืนเงินให้ผู้เสียหายไป ส่วนความผิดที่พบนอกจากความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน, ซ่องโจร , ร่วมกันกู้ยืมเงินเพื่อการฉ้อโกงประชาชน, และพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์แล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมแจ้งความดำเนินคดีในความผิดที่เกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค และ ความผิดฐานฟอกเงิน อีกอย่างน้อย 2 ข้อหา ที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบรายละเอียดของพยานหลักฐาน ส่วนกรณีของบุคคลที่มีชื่อเสียง เท่าที่มีการตรวจสอบจนถึงขณะนี้พบว่าส่วนใหญ่ถูกหลอกใช้เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ยังไม่พบว่ามีผู้ใดเข้าไปมีส่วนร่วมในขบวนการนี้แต่อย่างใด